จะรับความรู้จากใคร ?
  จำนวนคนเข้าชม  1901

จะรับความรู้จากใคร ?

 

อุมมุอัฟว์  แปลเรียบเรียง

 

- อิมาม อัลเอาซาอีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

จงอดทนข่มตนให้ยืนหยัดมั่นคงอยู่บนหนทางแห่งอัซซุนนะฮฺเถิด

 จงหยุด ณ ที่ชนกลุ่มนั้น (สลัฟ) หยุดอยู่

 จงกล่าวในสิ่งที่พวกท่านเหล่านั้นได้กล่าวกันไว้

 จงระงับจากสิ่งที่พวกท่านเหล่านั้นได้ระงับหยุดยั้งเอาไว้

และจงดำเนินตามวิถีทางแห่งชนชาวสลัฟที่เป็นคนดีเถิด

เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่อยู่ในวิสัยที่พวกท่านสามารถกระทำได้ในตอนนี้

ย่อมอยู่ในวิสัยของพวกท่านเหล่านั้นมาก่อนแล้วเช่นกัน

 

     จงยึดในข้อมูลของชนชาวสลัฟไว้ให้มั่น ถึงแม้ผู้คนทั้งหลายจะพากันต่อต้านปฏิเสธท่านก็ตาม

     และจงระวังทัศนะความคิดเห็นของผู้คนเอาไว้ให้ดี แม้ว่าพวกเขาจะเสริมเติมแต่งคำพูดให้สวยหรูและน่าเชื่อถือก็ตาม

     เพราะแน่นอนว่า เรื่องนี้สว่างไสว เจิดจรัส แจ่มชัดอยู่แล้ว และในเรื่องนี้ท่านก็ได้ดำรงมั่นคงอยู่บนทางที่เที่ยงตรงอยู่แล้ว

 

 

- ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ มัสอู๊ด ร่อฎิยัลลอฮฺอันฮฺ -

 

     ผู้คนทั้งหลายจะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่พวกเขารับเอาความรู้จากผู้อาวุโส ผู้มีอมานะฮฺ และจากปวงปราชญ์ในหมู่พวกเขา 

     ดังนั้น เมื่อพวกเขารับเอาความรู้มาจากผู้เยาว์ และจากคนชั่วช้าเลวทรามในหมู่พวกเขาแล้ว พวกเขาย่อมพบกับความวิบัติ

 

(บันทึกโดยอิมาม อัลบัยหะกีย์)

 

อีกรายงานระบุว่า

 «لا يَزَالُ النَّاسُ بِخَيْرٍ مَا أَتَاهُمُ الْعِلْمُ مِنْ أَصْحَابِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَمِنْ أَكَابِرِهِمْ، فَإِذَا جَاءَ الْعِلْمُ مِنْ قِبَلِ أَصَاغِرِهِمْ فَذَاكَ حِينَ هَلَكُوا»

 

     ผู้คนทั้งหลายจะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่ความรู้มายังพวกเขาจากทางบรรดาศ่อฮาบะฮฺ ของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และจากผู้อาวุโสในหมู่พวกเขา

     ดังนั้น เมื่อวิชาความรู้มาจากผู้เยาว์ในหมู่พวกเขาแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาย่อมพบกับความหายนะ

 المعجم الكبير للطبراني (8510 ).

- ท่านอิบนิ กุตัยบะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

         หมายถึง  มนุษย์จะยังคงอยู่ในความดีงาม ตราบใดที่พวกเขารับเอาวิชาความรู้จากผู้รู้อาวุโส ไม่ใช่ผู้รู้อายุน้อย ทั้งนี้เพราะผู้อาวุโสนั้น ปราศจากอารมณ์ความปรารถนาของคนหนุ่ม ความเป็นตัวของตัวเอง ความรีบร้อน และความเขลา

     ขณะที่ผู้อาวุโส ล้วนมากประสบการณ์ และผ่านการลองผิดลองถูก วิชาความรู้ของท่าน จึงปราศจากข้อคลุมเครือสงสัย ไม่มีอารมณ์นำหน้า ไม่เอนเอียงสู่ความโลภ

     และชัยฏอนไม่อาจทำให้ท่านแฉลบหันเหออกไป เฉกเช่นที่มันสามารถกระทำได้กับคนอายุน้อย

     และด้วยกับความอาวุโส จึงเป็นที่เคารพนับถือ และได้รับการยกย่องให้เกียรติ 

     ส่วนผู้เยาว์นั้น เรื่องต่างๆ ที่ผู้อาวุโสปลอดภัยนี้ อาจเข้ามาหาเขาได้ และเมื่อเขามีอารมณ์ความรู้สึกเช่นนั้น แล้วให้คำวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องหนึ่งเรื่องใด เขาก็จะเสียหาย และทำให้ผู้อื่นได้รับเสียหายไปด้วย

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

 

     "แท้จริง จะมีหลายปีแห่งการหลอกลวงเกิดขึ้นในหมู่ผู้คน คนพูดเท็จจะได้รับการเชื่อถือ คนพูดจริงถูกมองว่าโป้ปด คนคดโกงกลับได้รับความไว้เนื่อเชื่อใจ คนซื่อสัตย์ถูกมองว่าบิดพลิ้ว คน "รุวัยบิเฎาะฮฺ" จะพูดจาในหมู่ผู้คน"

มีผู้ถามว่า : "รุวัยบิเฎาะฮฺนั้น คือใคร?"

ท่านตอบว่า :"คือคนอวิชา ที่พูดวิจารณ์ในเรื่องส่วนรวม"

(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด)

 

- ท่านอิบนุ ญะมาอะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

ความรู้นั้นยาว ๓ คืบ

- ผู้ที่เข้าไปในคืบแรก เขาจะหยิ่งผยองลำพองตน

- ผู้ที่ล่วงเข้าไปในคืบที่สอง เขาจะอ่อนน้อมถ่อมตน

- และผู้ที่ล่วงเข้าไปในคืบที่สาม เขาจะรู้ว่า เขานั้นยังไม่รู้

 

 

- เชค มุฮัมมัด ฟัรกู๊ซ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ 

 

     หนึ่งในสิ่งที่เป็นซุนนะฮฺ  (แบบอย่างจากท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม) ก็คือ 

     การเคารพยกย่องและให้เกียรติบรรดาผู้รู้ นักวิชาการอิสลาม พวกท่านเหล่านั้นเป็นเพียงมนุษย์ที่อาจพลาดพลั้งกระทำผิด

     แต่ท่าทีของมุสลิม คือ จำเป็นต้องให้ความไว้วางใจในตัวพวกท่าน และไม่พูดจาจาบจ้วงเกียรติศักดิ์ศรีของพวกท่าน

     เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้พวกท่าน สูญเสียความน่าเชื่อถือ และการเป็นที่เคารพยกย่อง อีกทั้งยังทำให้พวกท่านตกอยู่ในสถานะที่ถูกกล่าวหาปรักปรำ 

 

 

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%