ความเจ็บป่วยและความตาย
อุมมุอัฟว์.....แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:
"แท้จริง เมื่อผู้เป็นบ่าวล้มป่วยลง อัลลอฮฺจะมีบัญชาแก่มลาอิกะฮฺของพระองค์ว่า:
ข้าได้พันธนาการบ่าวของข้าไว้ด้วยเครื่องพันธนาการหนึ่งจากบรรดาเครื่องพันธนาการทั้งหลายของข้า
ดังนั้น หากข้าเก็บชีวิตของเขาไปข้าก็จะอภัยโทษให้แก่เขา และหากข้าทำให้เขามีสุขภาพดี ช่วงเวลาที่เขานอนป่วยอยู่ ก็ไม่มีความผิดใดๆ สำหรับเขา"
(صحيح الجامع١٦٧٣)
- เชค เซด อัลมัดค่อลีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ผู้ป่วยที่อดทนและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ หากอัลลอฮฺทรงให้เขาหายจากโรคภัยของเขา
เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่สะอาดบริสุทธิ์จากความผิด หมายถึงพระองค์จะทรงชำระล้างความผิดให้หมดไป
แต่หากเขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคภัยที่มี พระองค์ก็จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา
และผู้ใดที่พระองค์ทรงอภัยโทษให้ พระองค์จะประทานความพึงพอพระทัย และสรวงสวรรค์ให้แก่เขา
-เชค บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
บางทีผู้เป็นบ่าวอาจถูกทดสอบเกี่ยวกับความยากจนและความเจ็บป่วย หรือในเรื่องภัยพิบัติอื่นๆ เพื่อเป็นการทดสอบ...การขอบคุณ และการอดทนของเขา
-ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
คนป่วยจำน้อยไม่น้อยที่หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้โดยไม่ต้องเยียวยารักษา
(หากแต่พวกเขาหายป่วยได้)ด้วยดุอาอฺที่ถูกตอบรับ
หรือด้วยแนวทางการบำบัดรักษา (ตามซุนนะฮฺ) อันทรงคุณค่า
หรืออาจด้วยกำลังใจและการมอบหมายอย่างแท้จริง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
"พวกท่านจงเยียวยาคนเจ็บไข้ได้ป่วยของพวกท่านด้วยการทำทานเถิด"
- อิมาม อัศซอนอานีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
การทำทานจะผลักไสภัยบะลาอฺและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้พ้นไป การทำทาน จึงถือเป็นสิ่งป้องกันโรคภัยและเป็นยารักษาที่มีคุณค่ายิ่ง
- ท่าน อันนะค่ออียฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
พวกเขาเหล่านั้น (ชาวสลัฟ) รังเกียจการวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ตนเองปลอดภัย (ให้หายป่วย)ขณะที่กำลังถูกทดสอบอยู่
( ทั้งนี้ เพราะพวกท่านเหล่านั้นทราบดีถึงภาคผลแห่งการอดทน และการยกโทษ ลบล้างความผิด อันเนื่องจากบะลาอฺที่ประสบ -ผู้แปล- )
-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
หนึ่งในแนวทางการเยียวยารักษาโรคภัยที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ การทำคุณงามความดี รำลึกถึงอัลลอฮฺ วิงวอนขอดุอาอฺ ยอมสยบตนอ่อนน้อม รบเร้าอ้อนวอนต่ออัลลอฮฺ และเตาบัตกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ การกระทำต่างๆ เหล่านี้ มีผลต่อการขจัดผลักไสโรคภัยออกไป และทำให้หายเจ็บไข้ได้ในที่สุด
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
"บรรดากุญแจแห่งความเร้นลับนั้น มีอยู่ด้วยกัน ๕ ดอก ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย นอกจากอัลลอฮฺ ได้แก่
- ไม่มีใครล่วงรู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ นอกจากอัลลอฮฺ
- ไม่มีใครล่วงรู้ถึงสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในมดลูกได้ นอกจากอัลลอฮฺ
- ไม่มีใครล่วงรู้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อใด นอกจากอัลลอฮฺ
- ไม่มีชีวิตใดที่จะรู้ได้ว่า ณ แผ่นดินใดที่เขาจะจบชีวิตลง
- และไม่มีใครล่วงรู้ว่า วันกิยามะฮฺจะเกิดขึ้นเมื่อใด นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น"
(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์)
-อิมามอัลฮาซัน อัลบัศรีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
สองวัน กับสองคืน ที่มนุษย์จะไม่เคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อนเลย
คือ ค่ำคืนที่ท่านอยู่ร่วมกับชาวกุโบร โดยที่คืนก่อนหน้าท่านยังไม่ทันได้สำนึกผิดกลับตัว
และอีกคืน คือคืนที่เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันกิยามะฮฺ
ส่วนวัน..คือวันที่ผู้แจ้งข่าวจากอัลลอฮฺมายังท่าน ไม่เข้าสู่สวรรค์ก็ต้องลงนรก
และคือวันที่ท่านจะได้รับบันทึกของท่าน ไม่ด้วยมือขวาก็ด้วยมือซ้าย
มีผู้ถามท่านอัลฮาซัน อัลบัศรีย์ ว่า
“เหตุใดท่านจึงไม่ใส่ใจกับคำพูดของผู้คน ?”
เวลาที่ฉันเกิดมา ฉันเกิดมาเพียงลำพัง
เวลาที่ฉันตาย ฉันก็ตายเพียงลำพัง
เวลาที่ฉันถูกวางในหลุมฝังศพ ฉันก็ถูกวางไว้เพียงลำพัง
เวลาที่ฉันถูกสอบสวน ฉันก็ถูกสอบสวนเพียงลำพัง
หากว่าฉันต้องลงนรก ฉันก็ลงนรกเพียงลำพัง
และหากว่าฉันได้เข้าสวรรค์ ฉันก็เข้าสวรรค์เพียงลำพัง
เหตุใดฉันจึงต้องสนใจใครต่อใครด้วยเล่า?
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%