ความเจ็บป่วยและความตาย
  จำนวนคนเข้าชม  2530

 

ความเจ็บป่วยและความตาย

 

อุมมุอัฟว์.....แปลเรียบเรียง

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:

     "แท้จริง เมื่อผู้เป็นบ่าวล้มป่วยลง อัลลอฮฺจะมีบัญชาแก่มลาอิกะฮฺของพระองค์ว่า:

     ข้าได้พันธนาการบ่าวของข้าไว้ด้วยเครื่องพันธนาการหนึ่งจากบรรดาเครื่องพันธนาการทั้งหลายของข้า

     ดังนั้น หากข้าเก็บชีวิตของเขาไปข้าก็จะอภัยโทษให้แก่เขา และหากข้าทำให้เขามีสุขภาพดี ช่วงเวลาที่เขานอนป่วยอยู่ ก็ไม่มีความผิดใดๆ สำหรับเขา"

 

(صحيح الجامع١٦٧٣)

 

 

- เชค เซด อัลมัดค่อลีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     ผู้ป่วยที่อดทนและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ หากอัลลอฮฺทรงให้เขาหายจากโรคภัยของเขา

     เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่สะอาดบริสุทธิ์จากความผิด หมายถึงพระองค์จะทรงชำระล้างความผิดให้หมดไป

     แต่หากเขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคภัยที่มี พระองค์ก็จะทรงอภัยโทษให้แก่เขา

     และผู้ใดที่พระองค์ทรงอภัยโทษให้ พระองค์จะประทานความพึงพอพระทัย และสรวงสวรรค์ให้แก่เขา

 

 

-เชค บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     บางทีผู้เป็นบ่าวอาจถูกทดสอบเกี่ยวกับความยากจนและความเจ็บป่วย หรือในเรื่องภัยพิบัติอื่นๆ เพื่อเป็นการทดสอบ...การขอบคุณ และการอดทนของเขา

 

 

-ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

คนป่วยจำน้อยไม่น้อยที่หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้โดยไม่ต้องเยียวยารักษา

(หากแต่พวกเขาหายป่วยได้)ด้วยดุอาอฺที่ถูกตอบรับ

หรือด้วยแนวทางการบำบัดรักษา (ตามซุนนะฮฺ) อันทรงคุณค่า

หรืออาจด้วยกำลังใจและการมอบหมายอย่างแท้จริง

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

"พวกท่านจงเยียวยาคนเจ็บไข้ได้ป่วยของพวกท่านด้วยการทำทานเถิด"

 

 

- อิมาม อัศซอนอานีย์  ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     การทำทานจะผลักไสภัยบะลาอฺและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้พ้นไป การทำทาน จึงถือเป็นสิ่งป้องกันโรคภัยและเป็นยารักษาที่มีคุณค่ายิ่ง

 

 

- ท่าน อันนะค่ออียฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     พวกเขาเหล่านั้น (ชาวสลัฟ) รังเกียจการวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ตนเองปลอดภัย (ให้หายป่วย)ขณะที่กำลังถูกทดสอบอยู่

     ( ทั้งนี้ เพราะพวกท่านเหล่านั้นทราบดีถึงภาคผลแห่งการอดทน และการยกโทษ ลบล้างความผิด อันเนื่องจากบะลาอฺที่ประสบ -ผู้แปล- )

 

 

-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

          หนึ่งในแนวทางการเยียวยารักษาโรคภัยที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ การทำคุณงามความดี รำลึกถึงอัลลอฮฺ วิงวอนขอดุอาอฺ ยอมสยบตนอ่อนน้อม รบเร้าอ้อนวอนต่ออัลลอฮฺ และเตาบัตกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ การกระทำต่างๆ เหล่านี้ มีผลต่อการขจัดผลักไสโรคภัยออกไป และทำให้หายเจ็บไข้ได้ในที่สุด

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : 

 

"บรรดากุญแจแห่งความเร้นลับนั้น มีอยู่ด้วยกัน ๕ ดอก ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย นอกจากอัลลอฮฺ ได้แก่

- ไม่มีใครล่วงรู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ นอกจากอัลลอฮฺ

- ไม่มีใครล่วงรู้ถึงสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในมดลูกได้ นอกจากอัลลอฮฺ

- ไม่มีใครล่วงรู้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อใด นอกจากอัลลอฮฺ

- ไม่มีชีวิตใดที่จะรู้ได้ว่า ณ แผ่นดินใดที่เขาจะจบชีวิตลง

- และไม่มีใครล่วงรู้ว่า วันกิยามะฮฺจะเกิดขึ้นเมื่อใด นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น"

 

(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์)

 

 

-อิมามอัลฮาซัน อัลบัศรีย์  ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ - 

 

สองวัน กับสองคืน ที่มนุษย์จะไม่เคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อนเลย 

คือ ค่ำคืนที่ท่านอยู่ร่วมกับชาวกุโบร โดยที่คืนก่อนหน้าท่านยังไม่ทันได้สำนึกผิดกลับตัว 

และอีกคืน คือคืนที่เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันกิยามะฮฺ 

 

ส่วนวัน..คือวันที่ผู้แจ้งข่าวจากอัลลอฮฺมายังท่าน ไม่เข้าสู่สวรรค์ก็ต้องลงนรก 

 และคือวันที่ท่านจะได้รับบันทึกของท่าน ไม่ด้วยมือขวาก็ด้วยมือซ้าย 

 

 

มีผู้ถามท่านอัลฮาซัน อัลบัศรีย์ ว่า 

 

“เหตุใดท่านจึงไม่ใส่ใจกับคำพูดของผู้คน ?” 

เวลาที่ฉันเกิดมา ฉันเกิดมาเพียงลำพัง 

เวลาที่ฉันตาย ฉันก็ตายเพียงลำพัง 

เวลาที่ฉันถูกวางในหลุมฝังศพ ฉันก็ถูกวางไว้เพียงลำพัง 

เวลาที่ฉันถูกสอบสวน ฉันก็ถูกสอบสวนเพียงลำพัง 

หากว่าฉันต้องลงนรก  ฉันก็ลงนรกเพียงลำพัง 

และหากว่าฉันได้เข้าสวรรค์ ฉันก็เข้าสวรรค์เพียงลำพัง 

เหตุใดฉันจึงต้องสนใจใครต่อใครด้วยเล่า? 

 

 

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%