เรากำลังเปลี่ยนสังคม หรือสังคมกำลังเปลี่ยนเรา ?
โดย... มุฮัมมัด เยนา
ปัจจุบัน วัยรุ่นมุสลิมส่วนใหญ่มักสนใจและหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของ นักร้อง นักแสดง และเหล่าคนดังต่าง ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ รวมไปถึงเกมต่าง ๆ มีหลายคนเห็นพวกเขาเป็นแบบอย่างและพยายามเลียนแบบคนเหล่านั้น แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้เรื่องราวของบรรพชนอิสลามที่เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเรา และทำตามท่านเหล่านั้นบ้าง
เยาวชนเราใช้เวลาไปกับการติดตามชื่นชมผลงานของดาราและคนดังต่าง ๆ ในสังคม ใช้เวลาไปกับการเล่นเกมในวันหนึ่งหลาย ๆ ชั่วโมง แต่การที่เขาจะใช้เวลาในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับอิสลามหรือเรื่องราวของบรรพชนในอิสลามสักเพียงนาทีหรือ 2 นาทีนั้น กลายเป็นเรื่องยาก
ปัจจุบัน เยาวชนมุสลิมถูกสังคมแห่งการหลอกลวงกลืนกินพวกเขาไปหมด แล้วส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนมุสลิมอ่อนแอมาก จากการใส่ใจและให้ความสำคัญแก่บุคคลที่ไม่เหมาะสมที่จะนำมาเป็นแบบอย่าง จนทำให้พวกเขามองข้ามบุคคลตัวอย่างไป บุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการที่เราจะนำมาเป็นแบบอย่างใน การดำเนินชีวิตของเรา อย่างท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรพชนรุ่นก่อน ๆ ซึ่งพวกท่านได้สร้างแบบฉบับอันดีงามเอาไว้ให้พวกเราได้ดำเนินรอยตาม
ปัจจุบันนี้เยาวชนเรามีความเป็นอยู่โดยใช้อัลกุรอานและแบบอย่างจากท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อยู่หรือเปล่า ?
จำนวนบทเพลงที่คุณจำได้นั้นมากกว่าจำนวนซูเราะฮฺอัลกุรอานที่คุณท่องได้ ใช่ไหม ?
คุณจำชื่อของดาราคนดังและตัวละครในเกมได้มากกว่าชื่อบรรดานบีและบรรดาซอฮาบะฮฺ หรือป่าว ?
เมื่อคุณจะซื้อเสื้อผ้าสักตัวคุณพิจารณาว่า มันสวย ? ก่อนพิจารณาว่า มันถูกต้องตามหลักการหรือไม่ ใช่ไหม ?
เมื่อคุณทราบว่าเพื่อนคุณมีแฟน คุณเลือกที่จะแซว หยอกล้อเขา มากกว่าการจะอธิบายถึงการไม่มีระบบแฟนในอิสลาม ใช่ไหม ?
เมื่อคุณพิมพ์ข้อความผ่านแชทเพื่อโต้ตอบกับบุคคลหนึ่ง คุณจะมองตัวอักษรเหล่านั้นในฐานะเป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจในตัวคุณให้แก่คู่สนทนามากกว่าเป็นสิ่งที่คุณจะต้องถูกสอบสวน ใช่ไหม ?
คุณคำนึงถึงอนาคตว่าคุณจะได้ทำงานอะไร ? มีเงินเท่าไหร่ ? ก่อนจะคำนึงถึงว่า คุณจะทำอะไรเพื่ออิสลามบ้าง ใช่ไหม ?
เคยถามตัวเองไหมว่าช่วงวัยนี้ให้อะไรกับชีวิตเราบ้าง ?
ความสนุก ? สะใจ ? มิตรภาพ ? ความรัก ?
หรือมีคุณค่าอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้ ?
♣ ท่านสะมุเราะฮ์ อิบนิ ญุนดุบ และท่านรอเฟียะอ์ อิบนิ ค่อดีจญ์ มีอายุเพียง 15 ปี เมื่อไปหาท่านร่อซูลเพื่อขอเข้าร่วมในสงครามอุฮุด ซึ่งแรกเริ่มท่านร่อซูลไม่รับ แต่เมื่อท่านทราบว่ารอเฟียะอ์แม่นธนู และ สะมุเราะฮ์เคยประลองต่อสู้กับรอเฟียะอ์จนชนะ ท่านจึงอนุญาตให้ทั้งสองเข้าร่วมทำสงคราม
♣ ในสงครามอุฮูด ท่านนบีไม่อนุญาตให้ท่านอุซามะฮ์ อิบนิ ซัยด์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ อุมัร อิบนิ้ล ค็อฏฏ็อบ, ซัยด์ อิบนิ ษาบิต, อัลบัรรออ์ อิบนิ อาซิบ, อัมรุ อิบนิ หัซม์, อุสัยด์ อิบนิ หุฏ็อยร์ เข้าร่วมเพราะอายุยังน้อย แต่ท่านอนุญาตให้ในสงครามค็อนดัก ซึ่งขณะนั้นพวกเขามีอายุเพียง 15 ปี เท่านั้น
♣ ท่านอุซามะฮ์ อิบนิ ซัยด์ ท่านนบีมุฮัมมัด ได้แต่งตั้งเขาเป็นแม่ทัพ เพื่อทำสงครามกับกองกำลัง อันเกรียงไกรของอาณาจักรโรม ขณะมีอายุเพียง 18 ปี
♣ ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อับบ๊าส มีอายุเพียง 13 ปี ท่องจำฮะดิษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ถึง 1,660 บท และอยู่ในลำดับที่ห้าในบรรดาซอฮาบะฮ์เจ็ดท่านที่ท่องจำฮะดิษได้มากที่สุด
♣ ท่านนบีมุฮัมมัดได้ส่งท่านมุอาซ อิบนิ ญะบั้ล ให้ออกไปเผยแพร่อิสลามที่เยเมน ทั้งที่ท่านอายุยัง ไม่ถึง 30 ปี และส่งท่านมุศอับ อิบนิ อุมัยร์ ไปเผยแพร่อิสลาม ณ นครมะดีนะฮ์ ก่อนทีท่านนบีจะอพยพไปมะดีนะฮ์ ในวัยเพียง 20 ปี
♣ ท่านอุมัร อิบนิ้ล ค็อฏฏ็อบ ได้ให้เยาวชนคนหนุ่มเข้าร่วมในสภาบริหารของท่าน ท่านได้กล่าวกับ ท่านอิบนุ้ล อับบ๊าส ว่า : ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ พูดมาเถิด อย่าให้ความอ่อนวัยของท่าน เป็นตัวสกัดไม่ให้ท่านพูด
♣ ท่านหญิงอาอิซะฮ์ ร่อฎิยัลลลอฮุอันฮา ท่องจำฮะดิษเป็นพันขณะที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี
♣ อิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้สอนสาธารณชนและให้คำฟัตวา วินิจฉัยประเด็นศาสนา ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี
♣ มุฮัมมัด อัลฟาติฮ์ พิชิตนครคอนสแตนติโนเปิล ขณะที่มีอายุเพียง 23 ปี
♣ ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ผู้ทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยวิทยาการ ความรู้ความเข้าใจในวิชาฮะดิษและประวัติศาสตร์ ท่านเสียชีวิตขณะมีอายุ 40 กว่าปีเท่านั้นเอง
“ขออัลลอฮฺทรงพอพระทัยในบรรพชนคนซอและห์ทุกท่าน”
ผมอยากให้ทุกคนลองมองย้อนกลับมาดูตัวเราว่าตอนนี้เราอายุเท่าไหร่กันแล้ว ? เราทำอะไรกันอยู่ ? ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันกลับมาศึกษาเรื่องราวของบรรดาร่อซูลและบรรดาบรรพชนอย่างจริงจัง เรื่องราวของผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นแบบอย่างแก่เราในการดำเนินชีวิตทุก ๆ ด้าน เพื่อที่พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และเพื่อที่เราจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นต่อ ๆ ไป
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า :
“โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺนั้นมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้า”
(อัลอะฮฺซาบ 33 : 21)
ที่มา : หนังสือจุดหมายที่ไม่ใช่ปลายทาง
ที่ระลึกงานโรงเรียนอัลฟุรกอนศึกษา ครั้งที่ 24 รุ่น 23 ปีการศึกษา 2563