การละหมาดมีอยู่ด้วยกัน ๕ ระดับขั้น
  จำนวนคนเข้าชม  1452


การละหมาดของคนเรามีอยู่ด้วยกัน ๕ ระดับขั้น 

 

แปลเรียบเรียง อุมมุ อัฟว์

 

-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

♦ ขั้นอธรรมต่อตนเอง เป็นผู้ละเลย 

หมายถึง มีข้อบกพร่องในการอาบน้ำละหมาด ในการรักษาเวลาละหมาด

และรักษาขอบเขตและเงื่อนไขต่างๆ ของการละหมาด 

 

 

♦ คนที่รักษาเวลาละหมาด ขอบเขต เงื่อนไขต่างๆ

ตลอดจนรักษาเรื่องการอาบน้ำละหมาด

แต่บกพร่องในเรื่องการต่อสู้กับตนเอง เกี่ยวกับเสียงกระซิบกระซาบ 

ปล่อยตัวไปกับเสียงกระซิบกระซาบ และความคิดอื่นๆ ต่างๆ นานา 

 

 

♦ คนที่รักษาเวลาละหมาด ขอบเขต เงื่อนไขต่างๆ ของการละหมาด 

ตลอดจนต่อสู้กับตนเองในการป้องกันเสียง กระซิบกระซาบและความคิดอื่นๆ

จดจ่ออยู่กับการต่อสู้กับศัตรูของการละหมาด เพื่อไม่ให้ละหมาดของเขาถูกขโมยหายไป 

เขาจึงเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ทั้งในการละหมาด และการทำญิฮาด 

 

 

♦ คนที่เมื่อลุกขึ้นยืนละหมาด เขาได้ทำในสิทธิเงื่อนไขและขอบเขตต่างๆ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ 

หัวใจของเขาเอาใจใส่ในการรักษาขอบเขต และสิทธิต่างๆ ของการละหมาด 

เพื่อไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดขาดตกบกพร่อง หัวใจของเขาอยู่แต่ในเรื่องของการละหมาด

และในการปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างดีต่อพระเจ้าของเขา 

 

 

♦ คนที่เมื่อลุกขึ้นยืนละหมาด เขาก็ลุกขึ้น ดังที่กล่าวมาข้างต้น 

แต่ขณะเดียวกันเขาก็นำเอาหัวใจของเขา วางอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าของเขา 

มองไปยังพระองค์ด้วยหัวใจของเขา เฝ้าติดตาม และมีหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

และการยอมรับในความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เสมือนกับว่าเขาได้เห็นพระองค์

เสียงกระซิบกระซาบและความคิดต่างๆ นานา ขาดสบั้นลง สิ่งปิดกั้นระหว่างเขากับพระองค์ ถูกยกออกไป

บุคคลผู้นี้เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แล้ว การละหมาดของเขาประเสริฐและยิ่งใหญ่ กว่าสิ่งที่อยู่ระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน

บุคคลผู้นี้จะจดจ่อให้ความสำคัญกับพระผู้เป็นเจ้า ในการละหมาดของเขา และได้ให้การละหมาดเป็นที่รื่นตาเย็นใจของเขา 

 

 


ประเภทเเรก   คือ ผู้ที่ถูกลงโทษ 

ประเภทที่สอง คือ ผู้ที่ถูกสอบสวนคิดบัญชี 

ประเภทที่สาม คือ ผู้ที่ถูกปลดเปลื้องความผิด

ประเภทที่สี่    คือ ผู้ที่ได้รับภาคผลตอบแทน

ประเภทที่ห้า  คือ ผู้ที่ได้เป็นผู้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ เพราะถือได้ว่า เขาเป็นผู้หนึ่งที่ให้การรื่นตาเย็นใจของตนอยู่ในการละหมาด 

 

          ดังนั้น ใครก็ตามที่เย็นตาเย็นใจ สำราญใจในดุนยาด้วยกับการละหมาดแล้ว ในอาคิเราะฮฺเขาก็จะรื่นตาเย็นใจ ด้วยกับการได้ใกล้ชิดกับพระองค์  และในดุนยาเขาก็จะได้รับความสุขสำราญใจ เช่นเดียวกัน  

     และใครที่รื่นตาเย็นใจเนื่องเพราะอัลลอฮฺแล้ว ทุกสายตาก็จะชื่นมื่นรื่นรมย์อันเนื่องเพราะเขา 

     และใครที่ไม่ได้รื่นตาเย็นใจเนื่องเพราะอัลลอฮฺแล้ว ชีวิตของเขาในดุนยาก็จะโศกเศร้าขมขื่นทุกข์ระทม 

 

 

(อัลวาบุลุศ ศ็อยยิบ 40-41)