ทำไมแผ่นดินไหวบ่อยจัง.....?
  จำนวนคนเข้าชม  1830


ทำไมแผ่นดินไหวบ่อยจัง.....?

 

.ฮาซัน เจริญจิตต์

 

         ในห้วงเวลานี้เราได้ยินข่าวภัยพิบัติต่างๆและความไม่สงบมากเหลือเกิน โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวในเกือบทุกภูมิภาคของโลก เริ่มตั้งแต่ชิลี นิวซีแลนด์ถึง 2 ครั้ง 2 คราวด้วยกัน ต่อด้วยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นที่ตามมาด้วยคลื่นซึนามิที่สร้างความเสียหายรุนแรงให้หลายเมืองของญี่ปุ่นรวมถึงวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลีย และล่าสุดเหตุแผ่นดินไหวในพม่าและรับรู้ได้ในหลายจังหวัดภาคเหนือของไทย การเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งและถี่ขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้น เป็นหนึ่งในหลายสัญญาณของยุคสุดท้ายที่ท่านนบีกล่าวไว้

 

قال صلى الله عليه وسلم : لاتقوم الساعة حتى تكثر الزلازل

 

     ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะซัลลัม-กล่าวว่าวันกิยามะฮฺจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะมีแผ่นดินไหวมากขึ้น”

 

         นอกจากภัยธรรมชาติแล้วยังมีเหตุความไม่สงบในกลุ่มประเทศอาหรับที่เริ่มประทุที่ตูนิเซีย ต่อมาที่อียิปต์ ลิเบีย บะหฺเรน ซีเรีย และที่ยืดเยื้อและรุนแรงที่สุดและไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงง่ายๆเนื่องจากถูกแทรกแซงจากชาติตะวันตกก็คือลิเบีย

 

          อาจกล่าวได้ว่าภัยพิบัติและความไม่สงบต่างๆที่เกิดขึ้น มูลเหตุสำคัญล้วนมาจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งสิ้น อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

 

ظَهَرَ الْفَسَادُ فِي الْبَرِّ وَالْبَحْرِ بِمَا كَسَبَتْ أَيْدِي النَّاسِ لِيُذِيقَهُم بَعْضَ الَّذِي عَمِلُوا لَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ  الروم /31 

 

     “การบ่อนทำลาย ได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว

(อัรรูม/31)

 

          มนุษย์คือผู้รุกราน ชำเราธรรมชาติอย่างหยาบคายและไร้ความละอายมากที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ความวิปริตแปรปรวนของสภาพอากาศของโลกอันเป็นผลมาจากปรากฏการเรือนกระจก เนื่องจากการปล่อยก๊าซมลพิษของภาคอุตสาหกรรมและเมืองใหญ่ต่างๆ การขุดโค่นทำลายป่าเพื่อสร้างความเจริญ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของภัยพิบัติรุนแรงทั้งสิ้น ไม่ว่าน้ำท่วม ไฟป่าพายุร้ายต่างๆ

 

         ไม่ว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติเหล่านี้จะมีคำอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ว่าอย่างไร ในฐานะของมุสลิมผู้ศรัทธา เรามิอาจหยุดความเข้าใจไว้แค่สาเหตุเหล่านั้น แต่ต้องเข้าใจและศรัทธาว่าทั้งหมดนั้นเป็นการทดสอบมาจากพระประสงค์ของอัลลอฮฺ-ซุบฮานะฮูวะตะอาลา- เพื่อเป็นข้อคิด สัญญาณเตือนสติแก่บรรดาผู้ศรัทธาและมนุษยชาติผู้มีปัญญาทั้งหลาย เพื่อพวกเขาจะได้ครุ่นคิดและใคร่ครวญนำไปสู่การน้อมรับและกลับตัวสำนึกผิดต่อพระองค์ และเป็นการลงโทษและขู่สำทับแก่บรรดาผู้ประพฤติชั่วและฝ่าฝืนทั้งหลาย

 

وَمَا نُرْسِلُ بِالآيَاتِ إِلاَّ تَخْوِيفًا       الإسراء / 59

 

และเรามิได้ส่งสัญญาณต่างๆ เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเป็นการเตือนสำทับเท่านั้น

(อัลอิสรออฺ 59)

 

قُلْ هُوَ الْقَادِرُ عَلَى أَن يَبْعَثَ عَلَيْكُمْ عَذَابًا مِّن فَوْقِكُمْ أَوْ مِن تَحْتِ أَرْجُلِكُمْ أَوْ يَلْبِسَكُمْ شِيَعاً وَيُذِيقَ بَعْضَكُم بَأْسَ بَعْضٍ انظُرْ كَيْفَ نُصَرِّفُ الآيَاتِ لَعَلَّهُمْ يَفْقَهُونَ  الأنعام / 65

 

     “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พระองค์คือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่าน

     จากเบื้องบนของพวกท่านหรือจากใต้เท้าของพวกท่านหรือ ให้พวกท่านปนเปกันโดยมีหลายพวก

     และให้บางส่วนของพวกท่านลิ้มรสซึ่งการรุกรานของอีกบางส่วน

     จงดูเถิด (มุฮัมมัด) ว่า เรากำลังแจกแจงโองการทั้งหลายอยู่อย่างไร? เพื่อว่าพวกเขาจะได้เข้าใจ

(อัลอันอาม 65)

 

           ในอายะฮฺนี้ได้เสนอข้อเท็จจริงสำหรับเหตุการณ์ในปัจจุบันไว้อย่างครบถ้วน นั้นคือเมื่ออัลลอฮฺกำหนดบททดสอบหรือลงโทษแก่กลุ่มใดแล้วก็ไม่มีผู้ใดสามารถเล็ดลอดรอดพ้นจากเหตุการณ์นั้นไปได้ การทดสอบมาในรูปของภัยพิบัติต่างๆหรือบางครั้งอาจมาจากน้ำมือของพวกเขากันเองที่ต้องสงครามรบพุ่งกัน เป็นสงครามกลางเมือง เป็นสงครามระหว่างผู้อธรรมและผู้ถูกละเมิด เป็นการสู้รบหรือปราบปรามจากคนกลุ่มเดียวกัน ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณที่อัลลอฮฺกำหนดขึ้นทั้งสิ้น และพระองค์ได้แจกแจงสาธยายอย่างแจ่มชัดแก่บรรดาผู้มีปัญญาและใคร่ครวญทั้งหลาย เพื่อว่าพวกเขาจะได้เข้าใจ

 

          การมีศรัทธาที่มั่นคง มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ละอายในชั่วกลัวในบาป เป็นเหตุให้ได้รับความเป็นสิริมงคลและรอดพ้นจากการทดสอบหรือลงโทษจากอัลลอฮฺ

 

وَلَوْ أَنَّ أَهْلَ الْقُرَى آمَنُواْ وَاتَّقَواْ لَفَتَحْنَا عَلَيْهِم بَرَكَاتٍ مِّنَ السَّمَاء وَالأَرْضِ وَلَـكِن كَذَّبُواْ فَأَخَذْنَاهُم بِمَا كَانُواْ يَكْسِبُونَ    الأعراف / 96

 

     “และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากันและมีความยำเกรงแล้วไซร้

     แน่นอนเราก็เปิดให้แก่พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้าและแผ่นดิน

     แต่ทว่าพวกเขาปฏิเสธ ดังนั้นเราจึงได้ลงโทษพวกเขา เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้ 

(อัลอะรอฟ/96)

 

          ในขณะที่เกิดภัยพิบัติต่างๆไม่ว่า แผ่นดินไหว ไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพายุและหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติเหล่านั้น ให้มุมินผู้ศรัทธาเร่งกลับเนื้อกลับตัว ขอความคุ้มครอง ความปลอดภัย ความบริสุทธิ์จากบาปต่างๆด้วยการขออภัยโทษมากๆ

     ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะซัลลัม-กล่าวขณะเกิดสุริยุปราคาว่า 

 

" فإذا رأيتم شيئا من ذلك فافزعوا إلى ذكره ودعائه واستغفاره " جزء من حديث متفق عليه أخرجه البخاري ( 2/ 30 ) ومسلم ( 2/ 628 

 

"เมื่อพวกท่านเห็นอะไรเช่นนี้ จงรีบเร่งสู่การรำลึกถึงอัลลอฮฺ และวิงวอนขอต่อพระองค์และขออภัยโทษต่อพระองค์" 

(ส่วนหนึ่งจากฮะดีษมุตตะฟะกุนอลัยฮฺ)

 

          และส่งเสริมให้ช่วยเหลือบริจาคบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ด้วยจิตใจที่อาทรต่อพวกเขา ท่านนบี -ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม- กล่าวไว้ในหลายสายรายงานด้วยกันว่า

 

لقول النبي صلى الله عليه وسلم : " ارحموا ترحموا " أخرجه الإمام أحمد ( 2/165) ، " الراحمون يرحمهم الرحمن ، ارحموا من في الأرض يرحمكم من في السماء " أخرجه أبو داود ( 13 / 285 ) والترمذي ( 6/43 ) ، وقوله صلى الله عليه وسلم : " من لا يرحم لا يرحم " أخرجه البخاري ( 5/75 ) ومسلم ( 4/1809 ) 

 

“พวกท่านจงเมตตา แล้วพวกท่านจะได้รับความเมตตา

ผู้ที่เมตตานั้น พระผู้ทรงเมตตาจะเมตตาเขา 

จงเมตตาผู้ที่อยู่บนแผ่นดิน แล้วผู้อยู่บนฟ้าจะเมตตาท่าน ,

ผู้ใดไม่เมตตา เขาจะไม่ได้รับความเมตตา”

 

   


 ผู้ศัทธา จงอย่าหลงลืมในสัญญาณต่างๆเหล่านี้ ของอัลลอฮฺ.... 

 

 

 

higmah.net