เจ้าของสวนสองสวน
  จำนวนคนเข้าชม  2437


เจ้าของสวนสองสวน

 

อับดุลสลาม เพชรทองคำ 

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมีคำสั่งใช้ให้เราปกป้องตัวของเราและครอบครัวของเราไม่ให้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรกในวันกิยามะฮฺ

 

          ด้วยเหตุนี้ การดำเนินชีวิตของเราในทุก ๆวัน เราจึงต้องมีความระมัดระวังตัวเราและดูแลปกป้องครอบครัวของเราไม่ให้ต้องกลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรก โดยการที่เราและครอบครัวของเราต้องพยายามศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจในบทบัญญัติศาสนาที่ถูกต้องของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 

          เมื่อได้เรียนรู้แล้ว เข้าใจแล้วก็ให้ปฏิบัติในสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้ในทุก ๆเรื่อง โดยต้องพยายามทำให้มันสุดความสามารถของเรา และในขณะเดียวกัน เราต้องออกห่าง ต้องละทิ้งจากสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงห้ามโดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺทุกอย่างให้ตรงตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมด้วย ก็คือต้องไม่ทำบิดอะฮฺด้วย ... ดังกล่าวนี้แหละที่จะช่วยเราและครอบครัวของเราให้รอดพ้นจากการเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรกในวันกิยามะฮฺ

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงเล่าเรื่องเล่าหลาย ๆเรื่องราวไว้ในอัลกุรอาน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้เราได้ใช้สติปัญญาคิดพิจารณา สำหรับนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา...เรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่จะขอนำมาบอกเล่าก็คือ เรื่องของเจ้าของสวนสองสวน ..

          ซึ่งครั้งก่อนเราได้เล่าเรื่องของบรรดาเจ้าของสวนให้ได้รับทราบไปแล้ว วันนี้จะเล่าเรื่องของเจ้าของสวนสองสวนซึ่งถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่ได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ ... 

          ซึ่งเราได้เคยพูดไปแล้วว่า ริสกีแบบอิสติดรอจญ์เป็นริสกีที่มาพร้อมกับการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นริสกีที่ผู้ที่ได้รับริสกีไม่สำนึกในพระคุณของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ประทานริสกีต่าง ๆให้แก่พวกเขาอย่างดี จึงสมควรอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องขอบคุณพระองค์ และปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ แต่กลายเป็นว่าพวกเขากลับฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของพระองค์ และยังคงฝ่าฝืนอย่างนั้นอยู่ต่อไปเรื่อย ๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิด 

          ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงวันหนึ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงประสงค์ พระองค์ก็จะทรงลงโทษเขาในทันทีทันใด ไม่ทันให้เขาได้รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งมันก็ทำให้เขาสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง และในท้ายที่สุด ริสกีแบบอิสติดรอจญ์มันจะนำมาซึ่งความหายนะแก่เขาทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ

 

         สำหรับเรื่องของเจ้าของสวนสองสวนที่จะนำมาเล่านี้ เป็นเรื่องเล่าที่ปรากฏเรื่องราวอยู่ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ อายะฮฺที่ 32 - 44

     เรื่องราวโดยสรุปก็มีอยู่ว่า.....

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงเล่าถึงชายสองคนที่เขารู้จักมักคุ้นกัน โดยที่พระองค์ทรงให้คนหนึ่งจากสองคนนี้ได้รับริสกีอย่างมากมาย ก็คือเป็นผู้ที่มีสวนองุ่นถึงสองสวน และพระองค์ทรงให้สวนองุ่นทั้งสองแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นอินทผลัม ก็คือเหมือนกับว่าสวนองุ่นทั้งสองนี้มีรั้วเป็นต้นอินทผลัม และระหว่างสวนทั้งสองสวนนี้ยังอุดมไปด้วยพืชพันธุ์อื่น ๆอีกนานาชนิดมากมาย ... 

 

          มีต้นองุ่นแล้ว มีต้นอินทผลัมแล้ว ก็ยังมีพืชพันธุ์อื่น ๆอีกอย่างมากมายหลายชนิด และอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็ยังทรงให้มีลำน้ำไหลผ่านกลางสวนทั้งสองสวนนี้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนที่ลำน้ำนี้ย่อมนำมาซึ่งความชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำให้แก่พืชพันธุ์ในสวนทั้งสองนี้ มันจึงออกดอกออกผลอย่างมากมายอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยลดน้อยลงแต่อย่างใด... ชายคนนี้จึงเป็นผู้ที่ได้รับนิอ์มะฮฺ ได้รับริสกีจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างมากมาย

 

          แต่ทว่า ชายเจ้าของสวนสองสวนนี้กลับเป็นผู้ที่หยิ่งยโสโอหัง ไม่เคยสำนึกในความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมอบให้แก่เขา เขาจึงไม่เคยขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเลย และยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาต่อวันฟื้นคีนชีพ เขาไม่เชื่อว่าวันกิยามะฮฺจะเกิดขึ้นจริง เขาจึงกลายเป็นผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธา

 

          ในขณะที่ชายอีกคนหนึ่งนั้น เป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาและศรัทธาต่อวันกิยามะฮฺ เขาได้รับริสกีให้มีทรัพย์สินเงินทอง และเขาได้ใช้ทรัพย์สินเงินทองเหล่านั้นไปในหนทางของอัลลอฮฺ เพราะเขาหวังในความโปรดปราน ความพอพระทัยของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มีความหวังที่จะได้รับการตอบแทน ได้รับรางวัลจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เขาจึงขอบคุณต่อพระองค์อยู่ตลอดเวลาในทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เขา

          วันหนึ่ง ชายเจ้าของสวนสองสวนได้เข้าไปในสวนของเขาพร้อมกับชายผู้ศรัทธา และได้กล่าวคำโตโอ้อวดกับชายผู้ศรัทธาว่า ..

 

أَنَا أَكْثَرُ مِنكَ مَالًا وَأَعَزُّ نَفَرًا

 

ฉันมีทรัพย์สินมากกว่าท่าน แล้วก็ยังมีข้าทาสบริวารมากกว่าท่านอีก

 

          ด้วยคำพูดดังกล่าวนี้แหละ ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า ชายเจ้าของสวนสองสวนนี้คือผู้ที่อธรรมต่อตัวของเขาเอง

 

وَهُوَ ظَالِمٌ لِّنَفْسِهِ   “ผู้ที่อธรรมต่อตัวของเขาเอง

 

          ก็คือ ผู้ที่ทำให้ตัวเองต้องได้รับการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ดังนั้น คำพูดคำจาที่มันแสดงถึงความโอ้อวด แสดงถึงการหยิ่งยโสโอหัง คำพูดที่ไม่สำนึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเลย จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุของการที่ทำให้เราเป็นผู้ที่อธรรมต่อตัวเอง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราต้องได้รับการลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จึงเป็นเรื่องที่เราต้องพึงระวังและออกห่างจากคำพูดประเภทนี้

 

          ชายเจ้าของสวนสองสวนหยิ่งทะนงในความมั่งคั่งร่ำรวยที่เขาได้ครอบครองอยู่ เขาได้กล่าวอย่างยโสโอหังกับชายผู้ศรัทธาต่อไปอีกว่า

 

قَالَ مَا أَظُنُّ أَن تَبِيدَ هَٰذِهِ أَبَدًا

 

ฉันไม่คิดว่าสวน(ทั้งหมด)ของฉันนี้จะพินาศไปได้เลย

 

         ความอุดมสมบูรณ์ของสวนสองสวนของเขา ทำให้เจ้าของสวนคิดว่า ไม่มีวันเลย ไม่มีโอกาสเลยที่สวนทั้งหมดของเขานี้จะพินาศไปได้เลย

          เจ้าของสวนจึงเป็นผู้ที่หลงใหลไปกับริสกีที่ได้รับ หลงใหลไปกับความร่ำรวยบนโลกดุนยา เขาคิดว่า ดุนยาคือสิ่งที่ยั่งยืนตลอดไป เขาคิดว่าทรัพย์สินที่เขาได้รับอย่างมากมายก่ายกองนั้น มันไม่มีวันที่จะหมดไป ไม่เคยคิดว่าดุนยามันจะสูญสิ้นไป ไม่คิดว่าจะมีวันฟื้นคืนชีพ เขาคิดว่าไม่มีวันที่จะเกิดวันกิยามะฮฺ

     ชายเจ้าของสวนสองสวนได้กล่าวกับชายผู้ศรัทธาว่า

 

وَمَا أَظُنُّ السَّاعَةَ قَائِمَةً وَلَئِن رُّدِدتُّ إِلَىٰ رَبِّي لَأَجِدَنَّ خَيْرًا مِّنْهَا مُنقَلَبًا

 

     “ฉันไม่เชื่อว่าจะมีวันอวสานของโลกนี้ แต่ถ้าหากมันจะมีตามที่ท่านกล่าวอ้าง แน่นอนที่ฉันก็จะต้องได้รับสิ่งที่ดีกว่า

 

          เพราะในเมื่อพระเจ้าของฉันทรงให้ฉันมั่งมีในโลกนี้ พระองค์ก็ต้องทรงให้ฉันมีในโลกหน้าเช่นกัน ..ซึ่งคำพูดอย่างนี้คือคำพูดที่แสดงถึงการหยิ่งยโสโอหังที่อยู่ในหัวใจ เมื่อชายผู้ศรัทธาได้ยินคำพูดอันยโสของชายเจ้าของสวนสองสวนอย่างนั้น เขาจึงได้เตือนชายเจ้าของสวนสองสวนไปว่า

 

وَهُوَ يُحَاوِرُهُ أَكَفَرْتَ بِالَّذِي خَلَقَكَ مِن تُرَابٍ ثُمَّ مِن نُّطْفَةٍ ثُمَّ سَوَّاكَ رَجُلًا

 

     “ท่านเนรคุณต่อผู้ทรงสร้างท่านจากดิน แล้วสร้างท่านจากเชื้ออสุจิ แล้วพระองค์ทรงทำให้ท่านเป็นคนโดยสมบูรณ์อย่างนั้นหรือ ?”

 

لَّٰكِنَّا هُوَ اللَّهُ رَبِّي وَلَا أُشْرِكُ بِرَبِّي أَحَدًا

 

     “แต่ทว่า สำหรับฉันแล้ว ฉันเชื่อฉันศรัทธาว่า อัลลอฮฺคือผู้ทรงเป็นพระเจ้าของฉัน (ผู้ทรงบังเกิดฉัน) และฉันจะไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์อย่างเด็ดขาด พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น (ที่สมควรยิ่งที่จะได้รับการเคารพอิบาดะฮฺ)”

 

وَلَوْلَا إِذْ دَخَلْتَ جَنَّتَكَ قُلْتَ مَا شَاءَ اللَّهُ لَا قُوَّةَ إِلَّا بِاللَّهِ إِن تَرَنِ أَنَا أَقَلَّ مِنكَ مَالًا وَوَلَدًا

 

     “ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ท่านเข้าไปในสวนของท่าน สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องกล่าวว่า สิ่งนี้ สิ่งที่ท่านได้รับนี้มัน คือความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่พระองค์ทรงมีต่อท่าน

 

          (และแน่นอน)สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ให้เกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้น แต่หากสิ่งใดที่พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้มันเกิดขึ้น มันก็ไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีพลังใด ๆทั้งสิ้น(ที่จะช่วยเหลือเราได้)นอกจากด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น ..ดังนั้น หากท่านเห็นว่า ฉันด้อยกว่าท่านทั้งทางด้านทรัพย์สมบัติ ข้าทาสบริวารและลูกหลาน ..แต่ทว่า บางที อัลลอฮฺจะทรงอนุมัติ ประทานริสกีให้แก่ฉันด้วยสิ่งที่ดีกว่าสวนสองสวนของท่านที่ท่านได้รับ อันเนื่องมาจากการที่ฉันมีศรัทธาต่อพระองค์เพียงองค์เดียว ...

          แต่สำหรับการหยิ่งยโสโอหังของท่าน การปฏิเสธการฟื้นคืนชีพในโลกหน้าของท่าน อาจเป็นสาเหตุที่อัลลอฮฺจะทรงส่งสายฟ้าฟาดลงมาที่สวนของท่าน แล้วทำลายสวนของท่านให้กลายเป็นพื้นดินที่โล่งเตียน ไม่เหลือซากอะไรไว้เลย ... หรือไม่เช่นนั้น พระองค์ก็อาจจะทรงทำให้ลำน้ำที่ไหลผ่านสวนสองสวนของท่านนั้นเหือดแห้งไปสิ้น ไม่พบแม้น้ำสักหยดก็เป็นได้

 

          ครั้นเมื่อคำเตือนที่ชายผู้ศรัทธาได้กล่าวเตือนชายเจ้าของสวนสองสวนไม่ปรากฏผลใด ๆ เพราะชายเจ้าของสวนสองสวนยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆทั้งสิ้น ยังหยิ่งยโสโอหัง ไม่สำนึก ไม่ขอบคุณในความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมอบแก่เขา ยังไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาต่อวันกิยามะฮฺ ...ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงทรงส่งสายฟ้าฟาดลงมายังสวนของชายเจ้าของสวนดังที่ชายผู้ศรัทธาได้กล่าวเตือนไว้ ..

 

          สายฟ้าฟาดได้ทำลายสวนสองสวนนั้นจนพินาศไปหมดสิ้น ผลิตผลของชายเจ้าของสวนสองสวนถูกทำลายจนหมด ไม่เหลือสิ่งใดไว้เลย ทิ้งไว้แต่ความว่างเปล่า ..บัดนี้ ชายเจ้าของสวนสองสวนได้สูญสิ้นริสกีจนหมดสิ้น เขาได้ประกบฝ่ามือทั้งสองของเขาด้วยความเสียใจในพฤติกรรมของตัวเอง แต่ทว่า เมื่อการลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้มาประสบกับเขาแล้ว ความเสียใจของเขาก็ไม่สามารถยังประโยชน์ใด ๆให้แก่เขาได้ เพราะมันสายไปแล้ว 

     ชายเจ้าของสวนสองสวนกล่าวว่า

 

وَيَقُولُ يَا لَيْتَنِي لَمْ أُشْرِكْ بِرَبِّي أَحَدًا

 

โอ้ ความพินาศได้ประสบกับฉันแล้ว! ฉันไม่น่าตั้งภาคีใดๆต่อพระเจ้าของฉันเลย

 

          ในท้ายที่สุดแล้ว บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา บรรดาผู้ที่หยิ่งยโสโอหัง บรรดาผู้ที่ไม่สำนึกในนิอ์มะฮฺ ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมอบให้แก่เขา ไม่ขอบคุณต่อพระองค์ด้วยการเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ..แน่นอน พวกเขาจะต้องประสบกับความขาดทุน ได้รับความพินาศย่อยยับ 

 

           เพราะเมื่อใดก็ตามที่การลงโทษของพระองค์มาถึงพวกเขา ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดการลงโทษได้ และไม่มีใครเลยที่จะช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้เลย และตัวเขาเองก็ไม่สามารถยับยั้ง หรือเป็นผู้ช่วยเหลือใคร ๆได้เช่นกัน 

 

          ทั้งนี้เพราะการคุ้มครอง การช่วยเหลือต่าง ๆนั้นเป็นอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น พระองค์ทรงสัจจะ ทรงรักษาสัญญา ทรงคุ้มครองทรงช่วยเหลือเฉพาะผู้ศรัทธาที่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์เท่านั้น พระองค์ผู้ทรงดียิ่งในการตอบแทนทั้งในโลกนี้และโลกหน้าต่อผู้ที่ศรัทธาต่อพระองค์และปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และพระองค์ทรงดียิ่งในบั้นปลายในโลกอาคิเราะฮฺแก่ผู้ที่ยึดพระองค์เป็นที่พึ่ง และหวังที่จะได้รับรางวัลการตอบแทนของพระองค์

 

          นั่นก็คือ เรื่องเล่าจากอัลกุรอานอีกเรื่องหนึ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงเล่าไว้ในซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ อายะฮฺที่ 32 – 44 ... เป็นเรื่องเล่าที่ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่ได้รับ ริสกีแบบอิสติดรอจญ์ ... ซึ่งเป็นริสกีที่ผู้ที่ได้รับริสกีไม่สำนึกในบุญคุณของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ขอบคุณต่อพระองค์ ไม่เชื่อฟังและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ พระองค์จึงทรงลงโทษเขาโดยไม่ให้เขารู้เนื้อรู้ตัว ทำให้เขาประสบกับความพินาศในทันทีทันใด 

 

          ดังนั้น เราพึงระมัดระวังตัวเองในเรื่องเหล่านี้ อย่าเป็นผู้ที่ไม่สำนึกในความโปรดปรานของพระองค์ ไม่ขอบคุณต่อพระองค์ เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้ริสกีของเราต้องสูญสิ้นไป และทำให้เราต้องได้รับการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 



         ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้ เป็นระยะเวลาหนึ่งปีแล้วที่ยังไม่มีทีท่าว่า มนุษยชาติจะจัดการการระบาดนี้ได้อย่างเด็ดขาด และแน่นอน การระบาดนี้ก็จะยังไม่หมดไปจนกว่าจะด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น ..

 

          ถือเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่ทำให้เราได้ตระหนักว่า การระบาดของไวรัสวิด 19 ในขณะนี้ไม่ได้เกิดมาอย่างไร้ความหมาย แต่มุสลิมพึงระลึกทราบอยู่แล้วว่า นี่คือเป็นทั้งการตักเตือน เป็นทั้งการลงโทษ เป็นทั้งการทดสอบสำหรับมนุษยชาติทั้งหลายที่พวกเขาได้รับริสกีต่าง ๆอย่างมากมาย หลากหลายแบบอย่าง หลากหลายรูปแบบ ความเจริญทางวิทยาการต่าง ๆ ความเจริญทางเทคโนโลยี ทำให้มนุษยชาติได้รับประโยชน์อย่างมากมายในทุก ๆด้าน ได้รับความสุข ได้รับความสบาย มีอยู่มีกินอย่างเหลือล้น ซึ่งแทนที่พวกเขาจะคิดใคร่ครวญว่าสิ่งเหล่านี้มาได้อย่างไร เพื่อที่จะขอบคุณ ด้วยการทำความรู้จักอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แล้วก็เชื่อมั่นศรัทธาต่อพระองค์ กลับมาสู่บทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังคงปฏิเสธศรัทธาต่อพระองค์อยู่ร่ำไป แล้วก็หยิ่งยโสโอหังว่า ความสำเร็จต่าง ๆที่พวกเขาได้รับนั้น มันมาจากความสามารถของพวกเขาเอง.. 

 

          ดังกล่าวนี้แหละที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงทรงส่งการตักเตือนลงมา ทรงส่งการลงโทษลงมา ส่งบททดสอบลงมา เพื่อให้มนุษยชาติได้รู้จักคิดพิจารณาใคร่ครวญเรื่องราวต่าง ๆ เพราะหากเขาไม่สำนึก พวกเขาก็เข้าข่ายของผู้ที่ได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ได้เช่นเดียวกัน ...

 

          สำหรับมุสลิมก็เช่นกัน เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ มันก็คือบททดสอบ มันก็คือการตักเตือนให้เราได้สำนึกในบุญคุณของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาให้มาก ๆ รู้จักที่จะขอบคุณต่อพระองค์ด้วยหัวใจ ด้วยคำพูดและด้วยการกระทำ ..การกระทำที่เป็นการเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์โดยไม่บิดพลิ้วใด ๆเลย ต้องไม่ตั้งใจที่จะฝ่าฝืน แต่หากฝ่าฝืนด้วยความอ่อนแอ หลงไปกับอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำของตัวเอง หรือหลงไปกับการล่อลวงของชัยฏอน เราก็ต้องรู้จักสำนึกผิด พร้อมทั้งขออภัยโทษ ขออิสติฆฟาร ขอเตาบะฮฺตัวต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโดยทันที ต้องตั้งใจที่จะไม่ฝ่าฝืน หากพลาดพลั้งฝ่าฝืนอีกก็ต้องอิสติฆฟาร เตาบะฮฺตัวอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆไป

 

          แท้ที่จริงแล้วสำหรับมุสลิมนั้น ทุกคนเป็นผู้ที่ได้รับริสกีอยู่แล้ว ริสกีมีหลากหลายรูปแบบ เป็นเงินทองก็ได้ เป็นลูกหลานที่ดีก็ได้ เป็นอาชีพดี ๆก็ได้ เป็นเพื่อนฝูงที่ดี ๆก็ได้ ..แต่ริสกีที่สำคัญและดีเยี่ยมที่สุด ประเสริฐิที่สุดก็คือ ริสกีที่ได้เป็นมุสลิม ได้เป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ศรัทธาต่อบทบัญญัติและทุก ๆเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในบทบัญญัติของพระองค์ 

 

          ดังนั้น มุสลิมเราต้องสำนึกในความโปรดปรานนี้ให้ได้อย่างดี ถึงแม้ว่า บางคนจะได้รับริสกีทางด้านทรัพย์สินเงินทองไม่มากมายอะไร แต่เมื่อเขาเป็นผู้ศรัทธาต่อพระองค์และอดทนปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์อย่างดี เราจะพบว่า เขาผู้นั้นก็ไม่เคยอดตาย เพราะมีการช่วยเหลือส่งผ่านมาให้แก่เขามาอยู่ตลอดเวลา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือบางทีเขาก็อาจได้รับริสกีในเรื่องอื่น ๆทดแทนอย่างดี

 

          ดังนั้น ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราได้เป็นผู้ที่ฝึกฝนตัวเองให้เป็นผู้ที่มีหัวใจที่รู้คุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยการเชื่อฟังและปฏิบัติตนให้อยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติศาสนา ซึ่งนี่ก็คือความดีสำหรับเรา ..และเมื่อใดก็ตามที่เราได้รับการทดสอบด้วยเรื่องไม่ดีใด ๆ ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือเราให้เราเป็นผู้ที่อดทนต่อการทดสอบนั้น และยังคงดำรงรักษาการเชื่อฟังและปฏิบัติตนอยู่ในบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ตลอดไป ซึ่งนี่ก็เป็นความดีสำหรับเราเช่นกัน

 

     อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม จากรายงานของท่านอะบียะหฺยา ศุฮัยบฺ อิบนิซินาน ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมเล่าว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

 

: عَجَباً لأمْرِ الْمُؤْمِنِ إِنَّ أَمْرَهُ كُلَّهُ لَهُ خَيْرٌ، وَلَيْسَ ذَلِكَ لأِحَدٍ إِلاَّ للْمُؤْمِن: إِنْ أَصَابَتْهُ سَرَّاءُ شَكَرَ فَكَانَ خَيْراً لَهُ، وَإِنْ أَصَابَتْهُ ضَرَّاءُ صَبَرَ فَكَانَ خيْراً لَهُ.

 

     “ช่างน่าอัศจรรย์ใจเหลือเกินสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา แท้จริงเรื่องราวของผู้ศรัทธาทั้งหมดนั้นมีแต่ความดี 

     และไม่มีผู้ใดที่จะได้รับความดีเช่นนั้นนอกจากผู้ศรัทธาเท่านั้น กล่าวคือ 

     เมื่อความดีมาประสบกับเขา เขาก็ขอบคุณต่อความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ตะอาลา ซึ่งสิ่งนั้นก็เป็นความดีสำหรับเขา ... 

     และหากมีความยากลำบาก ความทุกข์ยากมาประสบกับเขา เขาก็อดทนต่อการทดสอบนั้น ซึ่งสิ่งนั้นก็เป็นความดีสำหรับเขาเช่นกัน

 

          ความดีที่ทำให้เราและครอบครัวของเราเป็นผู้ที่รอดพ้นจากการลงโทษในไฟนรกในวันกิยามะฮฺ และได้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในวันกิยามะฮฺกันทั้งหมด อินชาอัลลอฮฺ



 

( นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )