แม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็ก ๆ เขาจะได้เห็นมัน
  จำนวนคนเข้าชม  2109


แม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็ก เขาจะได้เห็นมัน

แปลเรียบเรียง อาบีดีณ โยธาสมุทร

 

          ดั้ฟอุอีฮามิลิฏติร้อบฯ โดยเชค มุฮัมหมัด อมีน อั้ชชันกีตี้ย์ ซูเราะฮฺ อั้ซซั้ลซะละฮฺ บิ้สมิ้ลลาฮิ้รร่อฮฺมานิ้รร่อฮีม คำพูดของพระองค์ที่ว่า 

 

فَمَن يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ خَيْرًا يَرَهُ (7) وَمَن يَعْمَلْ مِثْقَالَ ذَرَّةٍ شَرًّا يَرَهُ 

 

ดังนั้น ใครก็ตามที่กระทำความดีแม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งก็ตาม เขาก็จะได้เห็นมัน 

และใครก็ตามที่กระทำความชั่วแม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งก็ตาม เขาก็จะได้เห็นมัน

 

          อายะฮฺอันทรงเกียรติอายะฮฺนี้ มีใจความว่า คนทุกคนทั้งกาเฟรและมุสลิม ล้วนต้องได้รับการตอบแทนต่อผลงานแม้เพียงเรื่องเล็กๆน้อย ทั้งที่เป็นความดีและที่เป็นความชั่ว

 

          ซึ่งที่จริงแล้วมีอายะฮฺอื่นๆอีกมากมายที่บ่งบอกไว้ขัดกับเนื้อหาที่มีการขยายกรอบไว้จนกว้างของข้อมูลนี้ อย่างในกรณีของผลงานที่เป็นความดีที่พวกการเฟรได้เคยทำไว้ ก็มีอายะฮฺมากมายที่พูดไว้ชัดว่ามันเป็นผลงานที่พังพินาศจนสูญค่า เช่นในคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

أُولَٰئِكَ الَّذِينَ لَيْسَ لَهُمْ فِي الْآخِرَةِ إِلَّا النَّارُ ۖ وَحَبِطَ مَا صَنَعُوا فِيهَا وَبَاطِلٌ مَّا كَانُوا يَعْمَلُونَ (16)

 

     “คนพวกนี้เป็นพวกที่ไม่มีอะไรทั้งสิ้นสำหรับพวกเขาอีกแล้วในอาคิเราะฮฺ นอกจากนรกเท่านั้น และในอาคิเราะฮฺนี้สิ่งที่พวกเขาได้เคยทำกันไว้ มันก็ได้พังลงจนสิ้นไปเสียหมดแล้ว และสิ่งที่พวกเขาได้ประกอบกันไว้ ก็เป็นเพียงเรื่องเหลวไหลเท่านั้น

 

และคำพูดของพระองค์ ตะอาลา ที่ว่า

 

 وَقَدِمْنَا إِلَىٰ مَا عَمِلُوا مِنْ عَمَلٍ فَجَعَلْنَاهُ هَبَاءً مَّنثُورًا (23)

 

     “และเราได้มาหาผลงานที่พวกเขาได้ประกอบกันไว้ แล้วเราก็ได้ทำให้มันเป็นเพียงเศษฝุ่นที่ถูกทำให้ฟุ้งกระจายไป

 

และคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

 إبراهيم/18  أَعْمَالُهُمْ كَرَمَادٍ

 

ผลงานต่างๆของพวกเขานั้น เป็นเหมือนขี้เถ้า

 

และคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

النور/39   أَعْمَالُهُمْ كَسَرَابٍ بِقِيعَةٍ

 

ผลงานต่างๆของพวกเขานั้น เป็นเหมือนภาพลวงตากลางที่โล่ง

 

         ส่วนกรณีของคนที่เป็นมุสลิมได้กระทำเอาไว้จากเรื่องที่มันชั่วช้านั้น ก็มีอายะฮฺมากมายที่บอกไว้ชัดเจนว่า การเอาโทษเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่จำต้องเกิดขึ้นเสียเสมอไปแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะได้รับการอภัยในความผิด หรือเนื่องจากด้วยกับสัญญาที่อัลลอฮฺได้ทรงให้ไว้ว่าจะยกโทษให้นั่นเอง ดังเช่นคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

النساء/48   وَيَغْفِرُ مَا دُونَ ذَٰلِكَ لِمَن يَشَاءُ

 

และพระองค์จะทรงอภัยให้แก่กรณีอื่นๆ ที่เบากว่ากรณีนี้ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์

 

และคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

النساء/31   إِن تَجْتَنِبُوا كَبَائِرَ مَا تُنْهَوْنَ عَنْهُ نُكَفِّرْ عَنكُمْ سَيِّئَاتِكُمْ

 

     “ถ้าหากพวกเจ้าออกห่างกันจากเรื่องที่เป็นบาปใหญ่ ที่พวกเจ้าถูกสั่งห้ามกันไว้ล่ะก็ เราก็จะทำการลบล้างความผิดต่าง ของพวกเจ้าออกจากพวกเจ้าให้เสียแทน

 

และยังรวมไปถึงอายะฮฺอื่นๆที่นอกเหนือไปจากนี้ด้วย

 

 

ซึ่งคำตอบสำหรับกรณีนี้นั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ช่องทาง

 

     1. อายะฮฺนี้อยู่ในรูปของ ประเด็นที่ขอบข่ายของเนื้อหาถูกเปิดกว้างไว้ แต่โดนเนื้อหาจากข้อมูลอื่นเข้ามาจำกัดขอบข่ายของมันให้มีความแคบลงแทน (العام المخصوص) ซึ่งความหมายของอายะฮฺก็คือ 

 

     “ดังนั้น ใครก็ตามที่กระทำความดีแม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งก็ตาม เขาก็จะได้เห็นมันถ้าหากว่าผลงานนั้นไม่ได้โดนการปฏิเสธศรัทธาทำลายมันลงจนสิ้นไปแล้ว โดยอาศัยอายะฮฺต่างๆ ที่พูดถึงการที่การปฏิเสธศรัทธาจะทำการทำลายผลงานของพวกกาเฟรให้พังพับลงเป็นหลักฐาน

 

     “และใครก็ตามที่กระทำความชั่วแม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งก็ตาม เขาก็จะได้เห็นมันถ้าหากอัลลอฮฺไม่ทรงอภัยให้แก่เขา โดยอาศัยอายะฮฺต่างๆที่พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการอภัยโทษเกิดขึ้น และที่พูดถึงการสัญญาที่มีไว้ว่าจะมีการอภัยโทษให้ เป็นหลักฐานนั่นเอง

 

     2. อายะฮฺยังคงอยู่ในรูปของประเด็นที่ขอบข่ายของเนื้อหาของมันถูกเปิดกว้างเอาไว้อยู่เหมือนเดิม โดยคนที่เป็นกาเฟรนั้น เขาจะได้เห็นผลตอบแทนของความดีที่ตนได้กระทำไว้ทั้งหมดในโลกดุนยา ดังที่คำพูดของพระองค์ ตะอาลา ที่ว่า 

 

هود/15   نُوَفِّ إِلَيْهِمْ أَعْمَالَهُمْ فِيهَا

 

เราจะชดเชยผลงานของพวกเขาแก่พวกเขาอย่างครบถ้วนในโลกนี้กระทั้งจบอายะฮฺ 

 

และคำพูดของพระองค์ที่ว่า

 

الشورى/20   وَمَن كَانَ يُرِيدُ حَرْثَ الدُّنْيَا

 

และใครก็ตามที่ต้องการผลิตผลของดุนยา..” กระทั้งจบอายะฮ์

 

และคำพูดของพระองค์ ตะอาลา ที่ว่า

 

النور/39   وَوَجَدَ اللَّهَ عِندَهُ فَوَفَّاهُ حِسَابَهُ

 

และเขาก็พบอัลลอฮฺอยู่ตรงเขา แล้วพระองค์ก็ทรงจัดการกับบัญชีของเขาอย่างครบถ้วนได้บ่งบอกไว้

 

     ส่วนคนที่เป็นผู้ศรัทธานั้น เขาจะเห็นผลตอบแทนของงานที่ชั่วช้าของเขาในดุนยา ในรูปของเรื่องไม่ดีๆที่มาประสบ โรคภัยและความเจ็บปวดต่างๆ นั่นเอง

 

     ซึ่งข้อมูลที่ให้การยืนยันแก่เรื่องนี้ก็ได้แก่ ข้อมูลที่ท่าน อั้ตต้อบรอนีย์ ได้คัดไว้ใน อั้ลเอาซ้อต และท่านอั้ลบัยฮะกีย์ ได้คัดไว้ใน อั้ชชุอับฯ ตลอดจนท่านอิบนุอบีฮาติม และท่านอื่นๆก็ด้วย โดยอ้างกันถึงท่านอนัสว่า ท่านกล่าวว่า

 

     “ระหว่างที่ท่านอบูบักร ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮฺ รับประทานอาหารอยู่กับท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม ทันใดนั้นอายะฮฺที่ว่าดังนั้น ใครก็ตามที่กระทำความดีแม้จะมีน้ำหนักเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งก็ตามกระทั้งจบอายะฮฺ ก็ได้ลงมาแก่ท่าน 

     ท่านอบูบักรจึงยกมือของท่านขึ้นและพูดว่า ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺครับ ผมจะต้องได้เห็นสิ่งเล็กน้อยๆ ที่เป็นความชั่วที่ผมทำไปทั้งๆที่มันมีน้ำหนักเพียงเท่ามดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งด้วยหรือครับ

     ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม จึงกล่าวว่าอบูบักร คุณก็เคยเห็นเรื่องที่คุณไม่ชอบที่คุณได้พบเห็นมันอยู่ในดุนยาแล้วใช่ไหม? เรื่องพวกนั้นมันก็มีเหตุมาจากผลงานไม่ดีต่างๆ ที่มันมีน้ำหนักเท่ากับมดตัวเล็กๆนั่นแหละ ...” กระทั้งจบฮะดี้ษ

 

     3. เช่นเดียวกันอายะฮฺยังคงอยู่ในรูปของประเด็นที่ขอบข่ายของเนื้อหาของมันถูกเปิดกว้างเอาไว้อยู่เหมือนเดิมอยู่ ซึ่งความหมายของอายะฮฺก็คือ คนที่เป็นผู้ศรัทธานั้นจะได้เห็นทุกๆสิ่งที่เขาได้ทำไว้ทั้งที่เป็นเรื่องที่เป็นความดีและเรื่องที่เป็นความชั่ว โดยอัลลอฮฺจะทรงอภัยเรื่องที่เป็นความชั่วให้แก่เขาและจะทรงตอบแทนเรื่องที่เป็นความดีให้แก่เขา

          ส่วนคนที่เป็นกาเฟรเองก็จะได้เห็นทุกสิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้ทั้งที่เป็นความดีและที่เป็นความชั่ว โดยอัลลอฮฺจะทรงทำให้เรื่องที่เป็นความดีที่พวกเขาได้ประกอบเอาไว้พังพินาศลง และจะทรงจัดการตอบแทนเขาต่อเรื่องที่เป็นความชั่วที่เขาได้ทำเอาไว้นั่นเอง

 

 

และความรู้ที่เที่ยงแท้นั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ ตะอาลา