ความยุติธรรมนำมาซึ่งความสงบสุข
อ. อับดุลสลาม เพชรทองคำ
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมีคำสั่งใช้ให้เราป้องกันตัวของเราและครอบครัวของเราไม่ให้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรกในวันกิยามะฮฺ
ดังนั้น การดำเนินชีวิตของเราในทุก ๆวัน เราจึงต้องมีความระมัดระวังตัวเราและครอบครัวของเราไม่ให้ต้องกลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรก โดยการที่เราต้องเป็นผู้ที่ดำรงไว้ซึ่งความเที่ยงธรรม ยืนหยัดอยู่ในความยุติธรรม
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ อายะฮฺที่ 8 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ كُونُواْ قَوَّٰمِينَ لِلَّهِ شُهَدَآءَ بِٱلۡقِسۡطِۖ وَلَا يَجۡرِمَنَّكُمۡ شَنََٔانُ قَوۡمٍ عَلَىٰٓ أَلَّا تَعۡدِلُواْۚ ٱعۡدِلُواْ هُوَ أَقۡرَبُ لِلتَّقۡوَىٰۖ وَٱتَّقُواْ ٱللَّهَۚ إِنَّ ٱللَّهَ خَبِيرُۢ بِمَا تَعۡمَلُونَ
“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเพื่ออัลลอฮฺ .. (และจง)เป็นพยานด้วยความเที่ยงธรรม ..และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใดมาทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม ..
(ดังนั้น)จงยุติธรรมเถิด (เพราะความยุติธรรมนั้น)มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า และพึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด ...แท้จริง อัลลอฮฺ เป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วนในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ”
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งกำชับเราให้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีงามเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยืนหยัดในการเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่ใช่ทำเพื่อโอ้อวดให้คนนั้นเห็น ทำเพื่อให้คนนั้นชม ไม่ใช่ทำเพื่อให้ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง แต่ทำเพื่อหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาองค์เดียวเท่านั้น ...อีกทั้งเรายังต้องเป็นพยานด้วยความเที่ยงธรรมเที่ยงตรง มีความยุติธรรม ไม่ลำเอียงไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ รายงานจากท่านอามิรเล่าว่า ได้ยินท่านอันนุอฺมาน อิบนิ บะชีร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมาเล่าว่า บิดาของเขาได้ให้ของขวัญแก่เขาชิ้นหนึ่ง
แต่คุณแม่ของเขา ก็คืออัมเราะฮฺ บุตรีของรอวาฮะฮฺ ได้กล่าวว่า เธอจะไม่ยินยอมในเรื่องนี้ จนกว่าบิดาของเขาจะให้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเป็นพยานในการมอบของขวัญให้แก่เขา
ดังนั้น บิดาของเขาจึงไปพบท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเพื่อขอให้ท่านเป็นพยานให้ ท่านเราะซูลจึงได้ถามว่า
أَعْطَيْتَ سَائِرَ وَلَدِكَ مِثْلَ هَذَا ؟ قَالَ : لَا . قَالَ : ( فَاتَّقُوا اللَّهَ وَاعْدِلُوا بَيْنَ أَوْلَادِكُمْ ) قَالَ : فَرَجَعَ فَرَدَّ عَطِيَّتَهُ . وفي رواية للبخاري أيضا (2650) : ( لا تُشْهِدْنِي عَلَى جَوْرٍ ) .
“ท่านได้ให้ของขวัญเช่นนี้กับลูกทุก ๆคนใช่ไหม ?...
บิดาของเขาตอบว่า ไม่ใช่ครับ (ไม่ได้ให้ทุกคน)
ท่านเราะซูลจึงได้กล่าวว่า ท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และจงยุติธรรมต่อลูก ๆของท่าน...
หลังจากนั้นท่านเราะซูลได้กล่าวต่อไปอีกว่า แท้จริง ฉันนั้นไม่เป็นพยานต่อความลำเอียง ไม่เป็นพยานต่อความไม่ยุติธรรม ...
(ดังนั้น)เขา(คือนุอฺมาน)จึงได้เล่าต่อไปว่า บิดาของเขาจึงได้นำของขวัญนั้นกลับไป”
นั่นแสดงว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺจะไม่ยอมเป็นพยานให้แก่ความไม่ยุติธรรม ดังนั้น เราก็เช่นกัน หากต้องไปเป็นพยานให้แก่ใคร เราก็ต้องพิจารณาให้ดี ให้ตัวเรายืนอยู่ข้างความยุติธรรม ยืนอยู่กับความถูกต้อง ยืนอยู่ข้างบทบัญญัติศาสนา เราต้องเป็นพยานเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ถึงแม้ว่า การเป็นพยานของเราจะทำให้เราต้องเสียผลประโยชน์ หรือการเป็นพยานนั้นจะทำให้เราเดือดร้อนก็ตาม
นอกจากนี้ เราต้องไม่ยอมให้ความเกลียดชัง หรือความไม่ชอบ หรือสิ่งอื่นใดก็ตามที่เรามีต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือกลุ่มคนหนึ่งคนใด มามีอิทธิพล มาทำให้เรามีความลำเอียง จนกระทั่งยอมละทิ้งความยุติธรรมที่เราควรจะต้องมอบให้แก่พวกเขา แต่เรากลับจะต้องให้ความยุติธรรมกับคนทุก ๆคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม จะเป็นมิตรจะเป็นศัตรู จะใช่มุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิมก็แล้วแต่ จะยากจนขัดสน หรือจะมั่งคั่งร่ำรวย จะสูงจะต่ำจะดำจะขาว ทุกคนต้องได้รับความยุติธรรมจากเรา
ครั้งหนึ่งท่านเคาะลีฟะฮฺอะลี อิบนุ อะบีฎอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุได้ยืนอยู่ข้างเคียงกับชาวยิวคนหนึ่งในการตัดสินคดีความ ที่ชาวยิวคนนั้น ได้ขโมยเอาโล่ของท่านอะลีไป แต่เนื่องจากท่านอะลีไม่สามารถแสดงหลักฐานมายืนยันได้ว่า โล่นั้นเป็นของท่าน
ดังนั้นท่านชุร็อยฮฺ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาจึงได้ตัดสินให้โล่นั้นเป็นของชาวยิวผู้นั้น ถึงแม้ว่าท่านชุร็อยฮฺจะเชื่อในคำพูดของท่านอะลี และเคารพนับถือท่านอะลีอย่างมากมายก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ท่านชุร็อยฮฺเกิดความลำเอียงเข้าข้างท่านอะลี ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน เมื่อท่านอะลีไม่มีหลักฐานมายืนยันก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้ไป ซึ่งท่านอะลีก็ยอมรับในการตัดสินนี้
นี่ก็คือหัวใจของผู้ที่ตักวา ผู้ที่ยำเกรงต่อคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาและหวั่นเกรงต่อการลงโทษของพระองค์อย่างแท้จริง
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า ความยุติธรรมนั้น มันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงมากกว่าการที่เราไม่มีความยุติธรรม ดังนั้น ความยุติธรรมจะทำให้เราได้ดำรงความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาไว้ ซึ่งทั้งความยุติธรรมและความยำเกรงนี้จะนำเราให้รอดพ้นจากการลงโทษในไฟนรกในวันกิยามะฮฺ
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม รายงานจากท่านญาบิร เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
فَإِنَّ الظُّلْمَ ظُلُمَاتٌ يَوْمَ الْقِيَامَةِ ،الظُّلْمَ اتَّقُوا
“ท่านทั้งหลายพึงระวังการอธรรม แท้จริง การอธรรมนั้นมันเป็นความมืดมิดในวันกิยามะฮฺ”
ความไม่ยุติธรรมถือเป็นการอธรรม เป็นการซ่อเล็มประเภทหนึ่ง เพราะเป็นการล่วงละเมิดสิทธิอันชอบธรรมของผู้อื่น ซึ่งถ้าในดุนยาหากไม่ได้รับการคืนสิทธิอันชอบธรรมให้แก่กัน แน่นอน ในวันกิยามะฮฺ เขาก็จะต้องถูกสอบสวนและได้รับการลงโทษในไฟนรกจากการที่เขาได้ไปอธรรมต่อผู้อื่น ซึ่งนี่ก็ถือเป็นความมืดมิดในวันกิยามะฮฺที่เขาจะได้รับ
ครั้งหนึ่ง เมื่อท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ส่งท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ รอวาฮะฮฺไปที่ตำบลค็อยบัร เพื่อประมาณการผลไม้และผลิตผลทางการเกษตรของชาวตำบลค็อยบัร โดยพวกเขาต้องการติดสินบนต่อท่านอับดุลลอฮฺ เพื่อให้ท่านอับดุลลอฮฺได้อะลุ้มอล่วยให้แก่พวกเขา ....
ท่านอับดุลลอฮฺจึงได้กล่าวว่า ขอสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ความจริงที่ฉันได้มาหาพวกท่านนี้ โดยที่ฉันมาจากคนที่ฉันรักที่สุด(สั่งใช้ให้ฉันมา) และแน่นอน พวกท่านนั้นเป็นพวกที่ฉันเกลียดชังมากกว่าลิงและสุกร แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความรักที่ฉันมีต่อท่านเราะซูลุลลอฮฺ และความเกลียดชังที่ฉันมีต่อพวกท่านนั้น จะไม่ทำให้ฉันกระทำการใด ๆ ที่จะเป็นการไม่ยุติธรรมกับพวกท่านเป็นอันขาด ..
ดังนั้น ชาวเมืองค็อยบัรจึงได้กล่าวว่า ดังกล่าวนี้แหละที่บรรดาชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินยังดำรงอยู่ได้ ไม่ถูกทำลายอันเนื่องมาจากความยุติธรรมได้ถูกดำรงรักษาไว้นั่นเอง
นี่ก็คืออีกตัวอย่างหนึ่งของการดำรงรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมของบรรดาบรรพชนคนศอลิหฺในยุคสมัยแรกของอิสลาม ...ความยุติธรรมที่เป็นสาเหตุให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรักพวกเขา ทรงเมตตาต่อพวกเรา ทรงปัดเป่าการลงโทษออกไปจากพวกเขา ...
ส่วนสำหรับเราก็เช่นกัน ถ้าเรามีความปรารถนาอยากจะให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรักเรา ทรงเมตตาต่อเรา เราก็ต้องพยายามฝึกฝนตัวเราให้เป็นผู้ที่มีความยุติธรรม เราต้องไม่ยอมปล่อยให้อารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำในตัวเรามาชักนำให้เราไม่ยุติธรรมต่อผู้คน เพราะไม่เช่นนั้น ในวันกิยามะฮฺ ซึ่งเป็นวันแห่งการคิดบัญชี เราจะได้รับการลงโทษอย่างแสนสาหัส
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺศอศ อายะฮฺที่ 26 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
يَٰدَاوُۥدُ إِنَّا جَعَلۡنَٰكَ خَلِيفَةٗ فِي ٱلۡأَرۡضِ فَٱحۡكُم بَيۡنَ ٱلنَّاسِ بِٱلۡحَقِّ وَلَا تَتَّبِعِ ٱلۡهَوَىٰ فَيُضِلَّكَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِۚ إِنَّ ٱلَّذِينَ يَضِلُّونَ عَن سَبِيلِ ٱللَّهِ لَهُمۡ عَذَابٞ شَدِيدُۢ بِمَا نَسُواْ يَوۡمَ ٱلۡحِسَابِ
“โอ้ดาวูด เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้ ดังนั้น เจ้าจงตัดสินคดีต่าง ๆ ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรม
และอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ (เพราะ)มันจะทำให้เจ้าหลงออกไปจากทางของอัลลอฮฺ
แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงออกไปจากทางของอัลลอฮฺนั้น สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัส
เนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระบัญชี”
เราจะให้ความยุติธรรมอย่างไรได้บ้าง นักวิชาการได้บอกให้เราทราบไว้ว่า ความยุติธรรมควรจะต้องครอบคลุมในเรื่องดังต่อไปนี้
1. เราจะต้องมีความยุติธรรมต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ...ความยุติธรรมต่อพระองค์คือการที่เราต้องไม่ทำชิริกต่อพระองค์ ต้องไม่นำสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือคนหนึ่งคนใดมาเป็นภาคีร่วมกับพระองค์ ต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์อย่างสุดกำลังความสามารถของเรา
2. เราจะต้องยุติธรรมต่อหลักอะกีดะฮฺ หลักการเชื่อมั่น ไม่เชื่อมั่นสิ่งใด นอกจากสิ่งที่มาจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อันถือเป็นความสัจจริง
3. เราจะต้องมีความยุติธรรมในการตัดสินในเรื่องราวต่าง ๆ ให้ถูกต้องตรงตาม บทบัญญัติศาสนา หรือตามกฎหมายในส่วนที่ไม่ขัดแย้งกับบทบัญญัติศาสนา
4. เราจะต้องมีความยุติธรรมต่อบุคคลในครอบครัว ภรรยา บุตรธิดา เครือญาติ ต่อทุก ๆคน
5. เราจะต้องยุติธรรมต่อคำพูดของเรา โดยไม่เป็นพยานเท็จ เป็นคนรักษาสัญญาที่ได้พูดไว้ ไม่พูดจาโกหกไร้สาระ ไม่พูดจากลับไปกลับมา
ดังนั้น เราจึงต้องปลูกฝังเรื่องของความยุติธรรมให้มันฝังรากลึกเข้าไปใน ♥ หัวใจของเราให้ได้
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดประทานฮิดายะฮฺ ให้แก่เราทุกคน
(นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )
