ใครคือ ? ผู้ที่เนรคุณต่ออัลลอฮฺ
เรียบเรียง...อับดุลวาเฮด สุคนธา
ผู้ที่เนรคุณต่ออัลลอฮฺ
♦- คนที่ไม่เชื่อมั่นว่า อัลลอฮ์คือผู้ทรงให้ความโปรดปราน สิ่งได้รับนั้นมาจากอัลลอฮ์ทั้งสิ้น
♦- ไม่สำนึกถึงความกรุณาของพระองค์ที่ทรงเลือกให้เราเป็นมุสลิม มีอิสลามเป็นศาสนาและมีท่านนบีมูหัมหมัดแบบร่อซูลของเรา
♦- ไม่รู้จักขอบคุณต่อสิ่งที่ได้รับพระองค์ได้ประทานความดีงามให้แก่เขาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ อำนาจ ทรัพย์สิน ลูกหลาน สุขภาพ
♦- ไม่รู้จักขอบคุณด้วยวาจา หรือด้วยกายการปฏิบัติ ด้วยการทำอิบาดะฮ์ เช่น ถือศิลอด ละหมาด บริจาค ช่วยเหลือผู้อื่น
♦- ไม่ละทิ้งสิ่งที่เป็นบาป
ผู้ที่เนรคุณต่ออัลลอฮฺ คือ คนที่ไม่รู้จักขอบคุณความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ได้ปรากฏออกมาทางคำพูดของมนุษย์ ด้วยการสรรเสริญพระองค์ และยอมรับ หัวใจยืนยัน ตลอดจนการปฏิบัติต่อพระองค์ นี้แหละ คือ ผู้ที่เนรคุณต่ออัลลอฮฺ
พระองค์ ตรัสว่า
قَالَ رَبِّ بِمَا أَنْعَمْتَ عَلَيَّ فَلَنْ أَكُونَ ظَهِيرًا لِّلْمُجْرِمِينَ
“เขาได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ การที่พระองค์ได้ทรงโปรดปรานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่เป็นผู้สนับสนุนผู้กระทำผิดอีกต่อไป”
(อัล-เกาะศอศ 17)
เราควรเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮ์ทั้งในยามลำบากและยามสบาย อย่าเป็นคนที่พอลำบากเดือนร้อนก็ขอดุอาอ นึกถึงพระองค์ แต่พอสบายมีความสุขแล้วก็กลับลืมพระองค์
พระองค์ตรัสว่า
﴿وَإِذَآ أَنۡعَمۡنَا عَلَى ٱلۡإِنسَٰنِ أَعۡرَضَ وَنََٔا بِجَانِبِهِۦ وَإِذَا مَسَّهُ ٱلشَّرُّ فَذُو دُعَآءٍ عَرِيضٖ ﴾
“และเมื่อเราได้ให้ความโปรดปรานแก่มนุษย์ เขาก็เหินห่างและปลีกตัวออกไปด้านข้าง และเมื่อความทุกข์ประสบแก่เขา เขาก็เป็นผู้วิงวอนอย่างยืดเยื้อ”
(ฟุซซิลัต :51)
อัลลอฮฺทรงกำชับให้ท่านนบีดาวูด ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ
اعْمَلُوا آلَ دَاوُودَ شُكْرًا وَقَلِيلٌ مِّنْ عِبَادِيَ الشَّكُورُ
“พวกเจ้าจงทำงานเถิด วงศ์วานของดาวู๊ดเอ๋ย ! ด้วยการขอบคุณ และส่วนน้อยแห่งปวงบ่าวของเราที่เป็นผู้ขอบคุณ “
(สะบะอ์ 13)
ขอบคุณต่อสิ่งที่อัลลอฮฺทรงที่พระองค์ทรงประทานให้ด้วยการเชื่อฟังปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์ ละทิ้งคำสั่งห้าม
♥ การเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ คือหนึ่งในบรรดาผู้ที่ขอบคุณอัลลอฮฺ
พระองค์ทรงกล่าวว่า
بَلِ اللَّهَ فَاعْبُدْ وَكُن مِّنْ الشَّاكِرِينَ
“แต่ว่าจงเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ และจงอยู่ในหมู่ผู้กตัญญู”
( อัซ-ซุมัร 66)
ใครคือผู้ที่ขอบคุณและเนรคุณ...!
รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอ้นฮฺ ว่า ท่านเคยได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
มีชายสามคนจากบนีอิสรออีล คนหนึ่งเป็นโรคเรื้อนที่ผิวหนัง คนที่สองหัวล้าน และคนสุดท้ายตาบอด อัลลอฮประสงค์จะทดสอบพวกเขา จึงได้ส่งมลาอิกะฮฺท่านหนึ่งไปยังพวกเขา
มลาอิกะฮฺได้ไปหาชายที่เป็นโรคเรื้อนและถามเขาว่า ท่านหวังสิ่งใดมากที่สุด?
เขาตอบว่า สีผิวที่ดี ผิวหนังที่สวยงาม และให้โรคที่ทำให้ผู้คนรังเกียจฉันนี้ได้หายไป
แล้วมลาอิกะฮฺก็ได้ลูบ (ลงไปบนผิวหนังของ) เขา โรคเรื้อนได้หายไปแล้ว และผิวหนังของเขาก็สวยงาม
มลาอิกะฮฺถามเขาต่อว่า ท่านชอบสมบัติชนิดใดมากที่สุด?
เขาตอบว่า อูฐ”
มลาอิกะฮฺก็ได้มอบอูฐตัวหนึ่งซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย พร้อมขอดุอาอ์ว่า ขออัลลอฮทรงให้ท่านได้รับบะเราะกะฮฺในอูฐตัวนี้”
ต่อมามลาอิกะฮฺก็ได้ไปหาชายที่หัวล้านและถามเขาว่า ท่านหวังในสิ่งใดมากที่สุด?
เขาตอบว่า เส้นผมที่สวยงาม และให้ความอับอายที่ทำให้ผู้คนรังเกียจฉันนี้ได้หมดไป
มลาอิกะฮฺก็ได้ลูบ (ลงบนศรีษะของ) เขา ผมที่สวยงามก็ได้งอกออกมา และความอับอายก็หมดไป
มลาอิกะฮฺถามเขาต่อว่า ท่านชื่นชอบทรัพย์สินชนิดใดมากที่สุด?
เขาตอบว่า วัวตัวเมีย
มลาอิกะฮฺก็ได้มอบวัวตัวเมียตัวหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ให้กับเขา และขอดุอาอ์ว่า ขออัลลอฮทรงให้ท่านได้รับบะเราะกะฮฺในวัวตัวนี้
หลังจากนั้นมลาอิกะฮฺก็ได้ไปหาชายที่ตาบอดและถามเขาว่า ท่านคาดหวังสิ่งใดมากที่สุด?
เขาตอบว่า ฉันหวังว่าอัลลอฮจะทรงให้ฉันมองเห็น ฉันจะได้มองเห็นผู้คน
มลาอิกะฮฺก็ได้ลูบ (ลงไปบนดวงตาของ) เขา และอัลลอฮก็ทรงทำให้เขามองเห็นได้
มลาอิกะฮฺถามเขาต่อว่า ท่านชื่นชอบสมบัติชนิดใดมากที่สุด?
เขาตอบว่าแพะ
มลาอิกะฮฺก็ได้มอบแพะที่กำลังตั้งครรภ์ให้แก่เขา
หลังจากนั้น สัตว์ทั้งสามต่างก็คลอดลูกออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งชายคนแรกมีอูฐเต็มหนึ่งหุบเขา และชายคนที่สองมีวัวเต็มหนึ่งหุบเขา และชายคนที่สามมีแพะเต็มหนึ่งหุบเขาเช่นกัน
ต่อมามลาอิกะฮฺก็ได้มาหาชายคนแรก ในสภาพและลักษณะเดียวกับชายคนนั้นครั้นเมื่อเขายังเป็นโรคเรื้อน และได้กล่าวว่า ฉันเป็นคนยากจน เสบียงต่างๆสำหรับการเดินทางได้หมดสิ้นไปแล้ว วันนี้ไม่มีใครจะช่วยเหลือฉันได้นอกจากอัลลอฮแล้วก็ท่าน ฉันขอต่อท่าน ผู้มีสีผิวที่สวยงาม และผิวหนังที่ดี อีกทั้งยังมีทรัพย์สมบัติที่มากมาย โปรดมอบอูฐสักตัวหนึ่งแก่ฉันด้วยเถิด เพื่อฉันจะสามารถเดินทางต่อไปได้
แต่ชายคนนี้กลับตอบว่า ฉันมีภาระจำเป็นมากมาย
มลาอิกะฮฺจึงบอกเขาว่า เหมือนฉันจะรู้จักท่าน เมื่อก่อนท่านเป็นโรคเรื้อนซึ่งผู้คนต่างพากันรังเกียจ เป็นคนยากจน แล้วอัลลอฮก็ประทานทรัพย์สมบัติให้ไม่ใช่หรือ?
แต่เขากลับพูด (ด้วยความยโส) ว่า ฉันได้รับสมบัติเหล่านี้มาจากมรดกของคุณพ่อและคุณปู่ของฉันเอง
มลาอิกะฮฺจึงพูดว่า หากท่านโกหก ขออัลลอฮทรงทำให้ท่านกลับไปเป็นเหมือนเดิม
หลังจากนั้นมลาอิกะฮฺก็ได้มาหาชายคนที่สองในสภาพและลักษณะเดียวกันเมื่อครั้นที่ชายคนนี้ยังหัวล้าน และได้กล่าวกับเขาเหมือนที่ได้กล่าวกับชายคนแรก ซึ่งชายคนที่สองนี้ก็ได้ตอบมลาอิกะฮฺเหมือนกับที่ชายคนแรกตอบ
มลาอิกะฮฺจึงพูดกับเขาว่า หากท่านโกหก ขออัลลอฮทรงทำให้ท่านกลับไปเป็นเหมือนเดิม
จากนั้นมลาอิกะฮฺก็ได้มาหาชายคนที่สามในสภาพและลักษณะเดียวกันเมื่อครั้นเขายังตาบอด และได้กล่าวว่า “ฉันเป็นคนยากจน
เสบียงต่างๆสำหรับการเดินทางได้หมดสิ้นไปแล้ว วันนี้ไม่มีใครจะช่วยเหลือฉันได้นอกจากอัลลอฮแล้วก็ท่าน ฉันขอต่อท่าน ผู้ที่กลับมามองเห็นได้ โปรดมอบแพะสักตัวให้แก่ฉันด้วย เพื่อที่ฉันจะสามารถเดินทางต่อไปได้
ชายคนนี้ก็พูดขึ้นว่า ฉันเคยตาบอด แล้วอัลลอฮก็ทรงทำให้ฉันกลับมามองเห็นได้ จงเอาไปและเหลือไว้ตามที่ท่านต้องการได้เลย ขอสาบานต่ออัลลอฮ ฉันไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรเลยกับสิ่งหนึ่งที่ถูกเอาไปเพื่ออัลลอฮ ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงสูงส่ง
และมลาอิกะฮฺก็ได้ตอบกลับว่า เอาทรัพย์สมบัติกลับไปเถอะ พวกท่านถูกทดสอบ และอัลลอฮทรงพอพระทัยในตัวท่าน แต่ทรงกริ้วต่อสหายทั้งสองคนของท่าน”
(หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม)
คำขอดุอาฮฺ ขอพรจากอัลลอฮ์ ให้พระองค์ประทานความสงบ และความดีงาม และปกป้องจากโทษทัณฑ์ หรือความชั่วร้ายต่างๆ
จากท่าน อิบนิ อุมัร (รอดียัลลอฮูอันฮฺ) กล่าวว่า จากคำขอพรของท่านนบี คือ
اللَّهُمَّ إِنِّي أَعُوذُ بِكَ مِنْ زَوَالِ نِعْمَتِكَ ، وَتَحَوُّلِ عَافِيَتِكَ ، وَفُجَاءَةِ نِقْمَتِكَ ، وَجَمِيعِ سَخَطِكَ "
“โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ จากความสูญเสียนิอฺมัต(ความโปรดปราน)ของพระองค์
และจากความเปลี่ยนแปลง(หรือการดึงกลับ)ของการปกป้องให้ความปลอดภัยของพระองค์
และจากการลงโทษของพระองค์อย่างฉับพลันโดยไม่ทันรู้ตัว และจากความพิโรธทุกประการของพระองค์"
(รายงานโดยมุสลิม)
ดุอา ขอให้เป็นบ่าวที่ ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ
" رَبِّ أَوْزِعْنِي أَنْ أَشْكُرَ نِعْمَتَكَ الَّتِي أَنْعَمْتَ عَلَيَّ وَعَلَىٰ وَالِدَيَّ وَأَنْ أَعْمَلَ صَالِحًا تَرْضَاهُ وَأَصْلِحْ لِي فِي ذُرِّيَّتِي إِنِّي تُبْتُ إِلَيْكَ وَإِنِّي مِنَ الْمُسْلِمِينَ "
"โอ้ พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดดลบันดาลให้ข้าพระองค์ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่พระองค์ได้ประทานให้แก่ข้าพระองค์ และแก่บิดามารดาของข้าพระองค์
และโปรดดลบันดาลให้ข้าพระองค์ทำแต่สิ่งดีๆ ที่พระองค์ทรงพอพระทัยด้วยเถิด
และโปรดดลบันดาลให้ลูกหลานของข้าพระองค์เป็นคนดีมีศรัทธา
แท้จริง ข้าพระองค์ขอกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ และแท้จริง ข้าพระองค์อยู่ในหมู่ผู้นอบน้อมยอมจำนน"
(อัลอะห์ก็อฟ : 16)