หลงอยู่กับริสกี
  จำนวนคนเข้าชม  5210


หลงอยู่กับริสกี (อัลอิสติดรอจญ์ الاستدراج )

 

อับดุลสลาม เพชรทองคำ 

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมีคำสั่งใช้ให้เราป้องกันตัวของเราและครอบครัวของเราไม่ให้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรกในวันกิยามะฮฺ

 

           ดังนั้น การดำเนินชีวิตของเราในทุก ๆวัน เราจึงต้องมีความระมัดระวังตัวเราและครอบครัวของเราไม่ให้ต้องกลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรก โดยการที่เราต้องพยายามศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจในบทบัญญัติศาสนาที่ถูกต้องของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อได้เรียนรู้แล้ว เข้าใจแล้วก็ให้ปฏิบัติในสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้ โดยพยายามทำให้มันสุดความสามารถของเรา และในขณะเดียวกัน เราต้องออกห่างและละทิ้งจากสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงห้ามโดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺทุกอย่างให้ตรงตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมด้วย

 

          เรื่อง ๆหนึ่งที่อุละมาอ์ได้ย้ำเตือนให้เราได้ระมัดระวังตัวเราก็คือ เรื่องของอัลอิสติดรอจญ์

 

     อัลอิสติดรอจญ์ الاستدراج คืออะไร ?

 

     เรามาดู อัลหะดีษ ในมุสนัดของท่านอิมามอะหฺมัด รายงานจากท่านอุกบะฮฺ บิน อามิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

إِذَا رَأَيْتَ اللَّهَ يُعْطِي الْعَبْدَ مِنْ الدُّنْيَا عَلَى مَعَاصِيهِ مَا يُحِبُّ، فَإِنَّمَا هُوَ اسْتِدْرَاجٌ،

 

    “เมื่อใดก็ตามที่ท่านเห็นอัลลอฮฺทรงมอบสิ่งต่าง ๆที่บ่าวรักชอบในโลกดุนยา บนความชั่วของเขา ..แท้จริงแล้ว มันคืออิสติดรอจญ์

 

          นั่นก็หมายความว่า เมื่อเรามองไปยังผู้คนในสังคม เราจะมองเห็นคนบางคนได้รับความสุขสบาย ได้รับความมั่งคั่งร่ำรวย ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พวกเขาได้รับริสกี ได้รับสิ่งดี ๆต่าง ๆมากมาย อันเป็นสิ่งมนุษย์รัก มนุษย์ชอบ มนุษย์พอใจ ในขณะที่เราก็มองเห็นว่าคน ๆนั้น เขาจมปลักอยู่กับมะอาศีย์ จมปลักอยู่กับบาปต่าง พวกเขาทำความชั่ว พวกเขาทำความผิด ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่เสมอ แต่พวกเขาก็ยังคงได้รับสิ่งดี ๆเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา... สิ่งดังกล่าวนี้แหละที่ท่านนบีเรียกว่า การได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์

 

          เราอาจจะมองเห็นคนบางคนที่เขาทำมาค้าขาย มีกิจการเจริญรุ่งเรือง ได้รับผลกำไรมากมาย แต่เขาไม่เคยออกซะกาต ไม่บริจาค ไม่ช่วยเหลือคนยากจน ไม่ช่วยเหลือคนในสังคมเลย แต่กิจการของเขาก็ยังคงเจริญรุ่งเรือง ยังคงได้รับผลกำไรมากมาย นี่ก็คือตัวอย่างหนึ่งของการได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ ได้รับริสกีมากมายในขณะที่ยังคงฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนา

 

     ♣ หรือคนบางคนทำมาค้าขาย ประกอบกิจการต่าง ๆที่มีความมั่นคง มีผลกำไรงาม ทั้ง ๆที่พวกเขาไปยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสลามห้าม นี่ก็คืออีกตัวอย่างหนึ่งของการได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์

 

     ♣ หรือคนบางคนไม่เคยถือศีลอด หรือบางคนขาดละหมาดอยู่เป็นประจำ แต่ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรง หรือยังคงมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่เห็นจะได้รับความทุกข์ยากอะไร นี่ก็คืออีกตัวอย่างหนึ่งของการได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์

 

          อิสติดรอจญ์ไม่ใช่เรื่องดี ถึงแม้มันจะเป็นการได้รับริสกี แต่มันเป็นริสกีที่อุละมาอ์บอกว่า มันเป็นกับดักของโลกดุนยา ที่ทำให้ผู้คนหลงใหลอยู่กับดุนยามากขึ้น แล้วก็ยังคงฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาต่อไปเรื่อย ..พวกเขาคิดว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรักพวกเขา เพราะพระองค์ประทานริสกีให้แก่พวกเขา ถึงแม้ว่า พวกเขาจะยังคงฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่เห็นจะได้รับการลงโทษอะไร ยังคงได้รับริสกีอยู่อย่างมากมาย ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ความคิดอย่างนี้ มันเป็นการเข้าใจผิดของพวกเขาเอง

 

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลฟัจญ์รฺ อายะฮฺที่ 15 – 17 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

 فَأَمَّا ٱلۡإِنسَٰنُ إِذَا مَا ٱبۡتَلَىٰهُ رَبُّهُۥ فَأَكۡرَمَهُۥ وَنَعَّمَهُۥ فَيَقُولُ رَبِّيٓ أَكۡرَمَنِ 15

 

     “สำหรับมนุษย์นั้น เมื่อพระเจ้าของเขาทรงทดสอบเขา โดยทรงให้เขาได้รับเกียรติยศ ได้รับความเป็นอยู่ที่ดี

     เขาก็จะกล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงยกย่องฉัน

 

وَأَمَّآ إِذَا مَا ٱبۡتَلَىٰهُ فَقَدَرَ عَلَيۡهِ رِزۡقَهُۥ فَيَقُولُ رَبِّيٓ أَهَٰنَنِ 16

 

     “แต่ครั้นเมื่อพระองค์ทรงทดสอบเขา โดยทรงให้ปัจจัยยังชีพของเขาเป็นที่คับแคบแก่เขา

     เขาก็จะกล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงเหยียดหยามฉัน

 

          แต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า كَلَّاۖ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ไม่ใช่ว่าใครที่เขาได้รับเกียรติยศชื่อเสียง มีความเป็นอยู่ที่ดี มีฐานะร่ำรวย ได้รับแต่สิ่งที่ดี แล้วอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงให้เกียรติเขา หรือจะทรงรักเขา ในทำนองเดียวกันคนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร คนที่ยากจน ไม่ได้มีปัจจัยยังชีพมากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงรังเกียจเขา หรือไม่ทรงรักเขา แต่พระองค์ทรงให้สิ่งต่าง ๆเหล่านี้มาเพื่อเป็นบททดสอบ

          ทดสอบว่าเมื่อเขาได้รับริสกีที่ดีมากมายแล้ว เขาได้สำนึกในความเมตตานั้นหรือไม่ ขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาไหม ปฏิบัติตามคำสั่ง ปฏิบัติตามบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่หรือไม่ ในทางตรงข้าม 

          หากเขาได้รับริสกีที่น้อยนิด มันก็เป็นบททดสอบเขาว่า เขามีท่าทีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างไร น้อยเนื้อต่ำใจไหม ต่อว่าต่อขานต่อพระองค์ไหม หรือจะมีความอดทนและจะดำรงรักษาการฎออะฮฺ การเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่อย่างเหนี่ยวแน่นมั่นคง

 

          อิสติดรอจญ์เป็นริสกีที่บรรดาเศาะฮาบะฮฺต่างหวั่นเกรง ต่างกลัวเกรงว่า ตัวเองจะได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ เพราะมันเป็นริสกีที่มาควบคู่กับการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และเพราะบรรดาเศาะฮาบะฮฺต่างทราบดีถึงผลของการได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ว่า มันจะนำไปสู่ความพินาศในวันกิยามะฮฺ ซึ่งท่านนบีได้กล่าวถึงคนที่ได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ว่าเขาจะได้รับผลเช่นใด

 

      ท่านนบีได้ยกอัลกุรอานในซูเราะฮฺอัลอันอาม อายะฮฺที่ 44 ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

فَلَمَّا نَسُواْ مَا ذُكِّرُواْ بِهِۦ فَتَحۡنَا عَلَيۡهِمۡ أَبۡوَٰبَ كُلِّ شَيۡءٍ حَتَّىٰٓ إِذَا فَرِحُواْ بِمَآ أُوتُوٓاْ أَخَذۡنَٰهُم بَغۡتَةٗ فَإِذَا هُم مُّبۡلِسُونَ

 

     “ครั้นเมื่อพวกเขาลืมสิ่งที่พวกเขาถูกเตือนให้รำลึกถึง เราก็เปิดประตูแห่งปัจจัยต่าง ๆให้แก่พวกเขา จนกระทั่งเมื่อพวกเขาหลงระเริงต่อสิ่งที่พวกเขาได้รับ เราก็ลงโทษพวกเขาโดยกะทันหัน แล้วทันใดนั้น พวกเขาก็หมดหวัง

 

          อายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงชี้ให้เราเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่พระองค์ได้ประทานริสกีต่าง ๆให้แก่มนุษย์อย่างมากมายแล้ว แต่แทนที่พวกเขาจะขอบคุณพระองค์ ด้วยหัวใจที่รู้คุณ และด้วยการปฏิบัติตามคำสั่ง ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขากลับลืมพระองค์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ พวกเขาฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของพระองค์ และยังคงดำรงการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ต่อไปเรื่อย ไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิด ไม่มีทีท่าว่าจะกลับตัว ไม่มีทีท่าว่าจะขออภัยโทษต่อพระองค์ เมื่อเป็นอย่างนี้ พระองค์ก็จะทรงให้ริสกีแก่เขาต่อไป เพื่อให้พวกเขาหลงระเริงในสิ่งที่พวกเขาได้รับ แล้วพวกเขาก็จะถลำลึกกับการทำบาปต่อไปเรื่อย จมปลักอยู่กับการฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาของพระองค์อยู่อย่างนั้น เพื่อที่พระองค์จะทรงเพิ่มบาปให้แก่เขา

 

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอาละอิมรอน อายะฮฺที่ 178 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

أَنَّمَا نُمۡلِي لَهُمۡ خَيۡرٞ لِّأَنفُسِهِمۡۚ إِنَّمَا نُمۡلِي لَهُمۡ لِيَزۡدَادُوٓاْ إِثۡمٗاۖ

 

แท้จริง เราได้ยืดเวลา และเพิ่มพูนริสกีให้แก่พวกเขา เพื่อเรา(อัลลอฮฺ)จะได้ทรงเพิ่มบาปให้แก่พวกเขา

 

          ดังนั้น การได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์จึงเป็นการได้รับริสกีอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองได้ทำความผิด กลับไปคิดเอาเองว่าตัวเองไม่ได้ทำความผิดอะไร เพราะตัวเองยังคงได้รับริสกีอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง คิดเอาเองว่า ถ้าทำความผิด ก็ต้องถูกอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงลงโทษ จะต้องไม่ได้รับริสกี แต่นี่ไม่ได้รับการลงโทษอะไร ยังได้รับริสกีอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็เลยไปคิดเอาเองว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรัก แต่แท้จริง มันเป็นกับดัก มันเป็นการประวิงเวลาเพื่อให้เขาชะล่าใจ ..ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว

          เพราะเมื่อถึงวันหนึ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงกำหนด พระองค์ก็จะทรงลงโทษเขาในทันทีทันใด ไม่ทันให้เขาตั้งตัว ไม่ทันให้เขารู้ตัว ลงโทษในขณะที่เขาหลงระเริงอยู่กับริสกีต่าง ๆของเขา.. และเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เขาก็ مُّبۡلِسُونَ หมดหวัง หมดหวังจากทุกสิ่งทุกอย่าง หมดหวังจากรางวัลความดีงามทั้งหมด สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ได้รับความพินาศย่อยยับอย่างสิ้นเชิง

 

          ดังนั้น หันกลับมามองตัวเรา ขอให้เราได้ระมัดระวังตัวเรา อย่าให้ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ได้รับริสกีแบบอิสติดรอจญ์ ..เมื่อเราได้รับริสกีแล้ว เราต้องไม่ลืมขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และต้องพยายามไม่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของพระองค์ ... แท้ที่จริงแล้ว ริสกีต่าง ๆที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ประทานให้แก่เรานั้น เพื่อให้เรานำมาใช้ในการภักดีต่อพระองค์ นำมาใช้ในการอิบาดะฮฺต่อพระองค์ นำมาใช้เพื่อให้ตัวเราได้ดำรงรักษาบทบัญญัติของพระองค์ ต้องไม่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

   ♦ หากเราได้รับริสกีเป็นทรัพย์สินเงินทอง มีความร่ำรวย ก็ให้นำมาจัดสรรในการจ่ายซะกาต ในการบริจาค ช่วยเหลือผู้คนในสังคม

 

   ♦ หากเราได้รับริสกี ให้มีครอบครัว ให้มีลูกหลาน ก็ต้องดูแลพวกเขาให้เป็นมุสลิม เป็นมุอ์มิน เป็นผู้ที่ได้รักษาบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

   ♦ หากได้รับริสกีเป็นพาหนะ ก็ต้องนำไปใช้ในเรื่องที่ถูกต้อง ใช้ไปในการทำงานหาเลี้ยงชีพ ช่วยเหลือสังคม ไม่ใช่นำไปใช้ในเรื่องที่ผิด เช่น นำไปใช้ในการปล้น

 

          การได้รับริสกีต่าง ๆนั้น ต้องนำไปสู่การขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยอมจำนนต่อพระองค์ แต่ถ้าหากเราไม่ขอบคุณต่อพระองค์ ทำสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อคำสั่งของพระองค์ แน่นอน เราก็จะ ได้รับหายนะ ได้รับการลงโทษอย่างสาหัสสากรรจ์

 

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอิบรอฮีม อายะฮฺที่ 7 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

وَإِذۡ تَأَذَّنَ رَبُّكُمۡ لَئِن شَكَرۡتُمۡ لَأَزِيدَنَّكُمۡۖ وَلَئِن كَفَرۡتُمۡ إِنَّ عَذَابِي لَشَدِيدٞ

 

     “และจงรำลึกถึง ในขณะที่พระเจ้าของพวกเจ้าได้ประกาศว่า

     หากพวกเจ้าขอบคุณ(ต่อข้า) ข้าก็จะเพิ่มพูนให้แก่พวกเจ้า

     แต่หากพวกเจ้าเนรคุณ(ต่อข้า) แท้จริงการลงโทษของข้านั้นสาหัสสากรรจ์ยิ่งนัก

 

         นั่นก็คือ เรื่องที่นำมาตักเตือนกัน เตือนทั้งตัวคนพูดเองและเตือนท่านทั้งหลาย ให้เป็นผู้ที่ดำรงรักษาบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาไว้ให้ได้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราและครอบครัวของเราเป็นผู้ที่รอดพ้นจากการลงโทษในไฟนรกในวันกิยามะฮฺ และได้รับชีวิตที่ดีงามทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ

 

 

( นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )