การเปลี่ยนตัวผู้นำชาวมุสลิม
อาบีดีณ โยธาสมุทร เรียบเรียง
ในกรณีที่ผู้นำคนนั้นเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอย่างชัดเจน และแกนนำสังคมของมุสลิม มีความพร้อมที่จะกระทำการเปลี่ยนตัวผู้นำได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและสร้างปัญหาที่หนักไปกว่าเดิมที่เป็นอยู่
อาทิเช่น ปัญหาความปั่นป่วนในสังคมและการเสียเลือดเสียเนื้อของผู้บริสุทธิ์ เป็นต้น ในกรณีนี้ก็อนุญาตให้กระทำการดังกล่าวได้ โดยต้องวางอยู่บนฐานของความรอบคอบ ไตร่ตรองและพิจารณาความสมดุลระหว่างผลดีและผลเสียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมาเป็นสำคัญ
ท่านเชคอับดุลอะซี้ซ อิบนุ บ้าซ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ (ฮ.ศ.1420) ได้กล่าวไว้ว่า
“นอกเสียจากเมื่อชาวมุสลิมได้แลเห็นการปฏิเสธศรัทธาที่เด่นชัด และพวกตนก็มีหลักฐานอันหนักแน่นจากอัลลอฮฺที่ให้การยืนยันในเรื่องนี้ ก็ไม่เป็นไรที่จะออกมาต่อต้านผู้ปกครองคนนั้นเพื่อขจัดเขาออกไป ถ้าหากพวกเขามีความสามารถพอ
ส่วนในกรณีที่พวกเขาไร้ความสามารถก็อย่าได้ออกมา หรือ ในกรณีที่การออกมากระทำการดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดความชั่วร้ายที่หนักกว่าเดิม พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมากระทำเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดูแลรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมเอาไว้นั่นเอง...”
ท่านเชคอุบั้ยดฺ อิบนุ อับดิลลอฮฺ อั้ลญาบิรี่ยฺ ฮะฟิซ่อฮุ้ลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
“ชาวซุนนะฮฺนั้น เป็นกลุ่มคนที่รักษาสัญญาและธำรงไว้ซึ่งคำมั่น
ชาวซุนนะฮฺ คือ กลุ่มคนที่ดำเนินตามคำมั่นสัญญาที่ได้มีไว้อย่างสมบูรณ์
ชาวซุนนะฮฺเป็นกลุ่มคนที่ให้การพิทักษ์การอยู่ร่วมกัน พวกเขาจะปกป้องเกียรติของผู้ที่อยู่ร่วมกับพวกเขา ไม่ละเมิดเกียรติ ไม่ละเมิดทรัพย์สินและไม่ละเมิดชีวิตของบุคคลผู้นั้น
ชาวซุนนะฮฺที่อาศัยอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกาตลอดจนประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ประเทศมุสลิม พวกเขาให้การยึดมั่นต่ออัลลอฮฺว่า ระหว่างพวกเขา และระหว่างกลุ่มประเทศเหล่านั้นที่พวกตนอาศัยอยู่ มีสัญญาและมีข้อตกลงระหว่างกัน ดังนั้นพวกเขาจะไม่บิดพลิ้วต่อมันเป็นอันขาด”
สรุปคือ แนวทางสลัฟจะไม่ยินยอมให้มีการกระด้างกระเดื่องต่อผู้นำมุสลิม แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้ให้ทำหน้าที่ในการกล่าวเตือนในสิ่งผิดให้สุดความสามารถ ตามช่องทางที่ได้ถูกกำหนดไว้ และหากในกรณีที่ผู้นำได้ทำการปฏิเสธศรัทธาอย่างชัดเจน โดยมีหลักฐานยืนยันได้ การจะออกมาเปลี่ยนแปลง ก็ต้องพิจารณา และประเมินสถานการณ์อย่างรอบครอบ ถึงความเป็นไปได้และผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาให้ดี หากไร้ความสามารถ หรืออยู่ในกรณีที่ได้ไม่คุ้มเสีย หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายและการหลั่งเลือดผู้บริสุทธิ์ ก็ไม่อนุญาตให้กระทำ
และเช่นเดียวกัน หากเขาเป็นบุคคลที่อยู่ภายใต้สัญญาการเป็นพลเมืองของประเทศใดประเทศหนึ่งที่ไม่ใช่ประเทศมุสลิม ก็ให้เขาทำการรักษาสัญญาดังกล่าว ในเรื่องที่ไม่ใช่การฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติอิสลามไว้ให้เต็มที่ๆสุดด้วยนั่นเอง...
اللهم اهدنا لهداه