วันอาชูรออ์ คือ วันแห่งการขอบคุณพระเจ้า
  จำนวนคนเข้าชม  7482


วันอาชูรออ์ คือ วันแห่งการขอบคุณพระเจ้า

 

อับดุลวาเฮด สุคนธา เรียบเรียง

 

     มุหัรร็อมเป็นเดือนมีความศิริมงคล มีความดีมากมาย และเป็นเดือนแรกตามปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺศักราช เป็นหนึ่งในบรรดาสี่เดือนต้องห้าม(อัชฮุร อัล-หุรุม)

 

     อิมาม อัน-นะวะวีย์ กล่าวว่าอุละมาอ์ส่วนใหญ่ทั้งรุ่นก่อนและรุ่นหลังต่างมีความเห็นพ้องกันว่า วันอาชูรออ์ คือวันที่สิบของเดือนมุหัรร็อม"

     ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวความว่า

 

أفضل الصّيام بعد رمضان شهرُ الله المحرم»

 

     "การถือศีลอดที่ประเสริฐที่สุดหลังจากเดือนเราะมะฎอน คือ การถือศีลอดในเดือนของอัลลอฮฺที่ต้องห้ามที่ชื่อว่าเป็นเดือนอัล-มุหัรร็อม

(บันทึกโดยมุสลิม)

 

ที่มาของวันอาชูรออ์

 

มีรายงานจากอิบนิ อับบ๊าส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมากล่าวว่า

 

عَنْ ابْنِ عَبَّاسٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا قَالَ قَدِمَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الْمَدِينَةَ فَرَأَى الْيَهُودَ تَصُومُ يَوْمَ عَاشُورَاءَ فَقَالَ مَا هَذَا ؟ قَالُوا : هَذَا يَوْمٌ صَالِحٌ ، هَذَا يَوْمٌ نَجَّى اللَّهُ بَنِي إِسْرَائِيلَ مِنْ عَدُوِّهِمْ فَصَامَهُ مُوسَى، قَالَ فَأَنَا أَحَقُّ بِمُوسَى مِنْكُمْ فَصَامَهُ وَأَمَرَ بِصِيَامِهِ

 

     “เมื่อท่านร่อซูล อพยพมาถึงมะดีนะฮฺ ท่านได้เห็นพวกยิวถือศีลอดในวันอาชูรอ ท่านร่อซูลลุลลอฮฺ จึงถามพวกยิวว่า วันนี้เป็นวันอะไร ?

     พวกยิวตอบว่า วันนี้เป็นวันที่ดีและวันที่อัลลอฮฺทรงให้ชาวอิสรออีล รอดพ้นจากศัตรู (หมายถึงฟิรอูนหรือฟาโรห์) และต่อมาท่านนบีมูซาก็ได้ถือศีลอดในวันนั้น

     ท่านร่อซูล จึงกล่าวว่า : ฉันนั้น สมควรสำหรับท่านนบีมูซายิ่งกว่าพวกเจ้า (หมายถึงท่านร่อซูล มีสิทธิที่จะถือศีลอดนี้ยิ่งกว่าพวกชาวอิสรออีลเสียอีก) ดังนั้น ท่านนบี ก็ถือศีลอดวันอาชูรอ และกำชับให้มุสลิมถือศีลอดในวันอาชูรออีกด้วย

(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์และมุสลิม)

 

     เรื่องราวของท่านนบีมูซา อะลัยฮิสลาม ตอนข้ามทะเลแดง สูเราะห์ อัช-ชุอะรออ์ 52- 67

 

وَأَوْحَيْنَا إِلَىٰ مُوسَىٰ أَنْ أَسْرِ بِعِبَادِي إِنَّكُم مُّتَّبَعُونَ

 

แลเราได้ดลใจให้มูซาออกเดินทาง ในเวลากกลางคืนพร้อมกันกับปวงบ่าวของข้า แท้จริงพวกเจ้ากำลังถูกติดตาม

 

فَأَرْسَلَ فِرْعَوْنُ فِي الْمَدَائِنِ حَاشِرِينَ

 

แล้วฟิรเอาน์ได้ส่งคนไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้มาร่วมชุมนุม

 

إِنَّ هَٰؤُلَاءِ لَشِرْذِمَةٌ قَلِيلُونَ

 

“(และว่า) แท้จริงเขาเหล่านั้นเป็นหมู่ชนส่วนน้อย

 

وَإِنَّهُمْ لَنَا لَغَائِظُونَ

 

และแท้จริงพวกเขาทำให้เราเกิดโทสะ

 

وَإِنَّا لَجَمِيعٌ حَاذِرُونَ

 

และแท้จริงพวกเราทั้งหมดอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม

 

فَأَخْرَجْنَاهُم مِّن جَنَّاتٍ وَعُيُونٍ

 

ดังนั้น เราได้ให้พวกเขา ออกจากเรือกสวนและลำธารน้ำ

 

وَكُنُوزٍ وَمَقَامٍ كَرِيمٍ

 

และทรัพย์สินอันมากมายหลาย และที่พำนักอันโอ่อ่า

 

كَذَٰلِكَ وَأَوْرَثْنَاهَا بَنِي إِسْرَائِيلَ

 

เช่นนั้นแหละ และเราได้ให้วงศ์วานอิสรออีล ได้รับมรดกครอบครองมัน

 

فَأَتْبَعُوهُم مُّشْرِقِينَ

 

แล้วพวกเขา(ฟิรเอาน์) ได้ติดตามพวกเขา(วงศ์วานอิสรออีล) เมื่อเวลาตะวันขึ้น

 

فَلَمَّا تَرَاءَى الْجَمْعَانِ قَالَ أَصْحَابُ مُوسَىٰ إِنَّا لَمُدْرَكُونَ

 

ครั้นเมื่อแต่ละฝ่ายได้มองเห็นกัน พวกพ้องของมูซาได้กล่าวว่าแท้จริงเราถูกตามทันแล้ว

 

قَالَ كَلَّا إِنَّ مَعِيَ رَبِّي سَيَهْدِينِ

 

เขา (มูซา)ได้กล่าวว่าไม่หรอก แท้จริงพระเจ้าของฉันทรงอยู่กับฉัน พระองค์ทรงขี้แนะทางแก่ฉัน

 

فَأَوْحَيْنَا إِلَىٰ مُوسَىٰ أَنِ اضْرِب بِّعَصَاكَ الْبَحْرَ فَانفَلَقَ فَكَانَ كُلُّ فِرْقٍ كَالطَّوْدِ الْعَظِيمِ

 

ดังนั้นเราได้ดลใจ มูซาว่าจงฟาดทะเลด้วยไม้เท้าของเจ้าแล้วมันก็ได้แยกออก แต่ละข้างมีสภาพเหมือนภูเขาใหญ่

 

وَأَزْلَفْنَا ثَمَّ الْآخَرِينَ

 

และเราได้ให้พวกอื่น ให้เข้ามาใกล้ ที่นั้น

 

وَأَنجَيْنَا مُوسَىٰ وَمَن مَّعَهُ أَجْمَعِينَ

 

และเราได้ให้มูซาและผู้ที่ออยู่ร่วมกับเขาทั้งหมดรอดพ้นไป

 

ثُمَّ أَغْرَقْنَا الْآخَرِينَ

 

แล้วเราได้ให้พวกอื่น จมน้ำตาย

 

إِنَّ فِي ذَٰلِكَ لَآيَةً وَمَا كَانَ أَكْثَرُهُم مُّؤْمِنِينَ

 

แท้จริงในการนั้นเป็นสัญญาณอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา

 

     วันหนึ่ง อัลลอฮฺจึงได้ทรงมีบัญชาแก่นนบีมูซาว่า จงพาพวกบนีอิสรออีลออกจากอียิปต์ในตอนกลางคืน เมื่อฟาโรห์รู้ เขาได้ระดมผู้คนและกองทหารออกติดตามพวกนบีอิสรออีลทันทีตอนตะวันรุ่งอรุณ และตามมาทัน ขบวนอพยพที่ตรงริมฝั่งทะเลแดง 

     อิม่ามอัตฏอบรีย์ กล่าวว่า จำนวนพวกนบีอิสรออีลติดตามท่านนบีมูซา 70,600คน

     พวกนบีอิสรออีลได้ร้องเอะอะโวยวายด้วยความกลัวเมื่อเห็นฟาโรห์ยกกองทัพติดตามมา 

     นบีมูซาจึงได้กล่าวว่า พวกท่านไม่ต้องกลัวอัลลอฮทรงอยู่กับฉัน พระองค์จะทรงนำทางฉัน 

     แล้วท่านก็ได้รับบัญชาจากอัลลอฮ ว่า จงใช้ไม้เท้าฟาดลงไปที่ทะเล 

 

          นักอธิบายอัลกุรอานกล่าวว่า ในการฟาดไม้เท้าลงในทะเลนั้นมันได้กลายเป็น 12 ทางเดินซึ่งเป็นทางเดินของแต่ละตระกูลของวงศ์วานอิสรออีล เมื่อนบีมูซาพาคนของท่านข้ามทะเลไปหมดแล้วพระองค์จะทรงให้ฟาโรห์และคนของเขาจมน้ำตาย

 

 

สิ่งที่ได้รับจากเรื่องนี้

 

· จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ

· จงขอบคุณอัลลอฮฺเมื่อได้รับจากสิ่งที่ดีๆ

· อัลลอฮฺทรงชี้ทางนำให้แก่ผู้ที่ศรัทธา

· จะต้องเชื่อมั่นในการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ

· อัลลอฮฺทรงลงโทษผู้ที่ดื้อดึงต่อพระองค์

· นี่คืออุทาหรณ์ จุดจบของผู้ที่ปฏิเสธอัลลอฮฺ