ภารกิจของมุสลิมใน 10 วันแรกในเดือนซุลฮิจญะฮ์
  จำนวนคนเข้าชม  9767


ภารกิจของมุสลิมใน 10 วันแรกในเดือนซุลฮิจญะฮ์

อับดุลวาเฮด สุคนธา 

 

 

          ซุลฮิจญะฮ์ (อาหรับ: ذُو ٱلْحِجَّة) เป็นเดือนที่ 12 ในปฏิทินฮิจญ์เราะฮ์เป็นเดือนที่บรรดามุสลิมมีความสามารถจะต้องเดินทางไปมักกะฮฺเพื่อประกอบพิธีหัจญ์ ในเดือนนี้มีวันสำคัญคือ วันอะเราะฟะฮฺ วันอีดุลอัฏฮา และ บรรดาวันตัชรีก ในสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺยังเป็นช่วงเวลาที่มีความประเสริฐอย่างยิ่งสำหรับมุสลิม ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานมีความหมายว่า

 

وَأَذِّن فِي النَّاسِ بِالْحَجِّ يَأْتُوكَ رِجَالًا وَعَلَىٰ كُلِّ ضَامِرٍ يَأْتِينَ مِن كُلِّ فَجٍّ عَمِيقٍ لِّيَشْهَدُوا مَنَافِعَ لَهُمْ وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَّعْلُومَاتٍ عَلَىٰ مَا رَزَقَهُم مِّن بَهِيمَةِ الْأَنْعَامِ ۖ فَكُلُوا مِنْهَا وَأَطْعِمُوا الْبَائِسَ الْفَقِيرَ

 

     “และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำหัจญ์ พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยทางเท้าและโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา(ด้านโลกและด้านศาสนา)

     และกล่าวพระนามอัลลอฮ ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว (คือวันเชือด) ตามที่พระองค์ประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเธอจงกินเนื้อของมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน

 (ซูเราะฮฺอัลหัจญ์ อายะฮฺ 27-28)

 

          ในเดือนนี้มุสลิมจะต้องทุ่มเทเพื่ออิบาดะฮฺในรูปแบบต่างๆมากมาย ทั้งร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สิน ดังนั้นอุละมาอ์หลายท่านจึงถือว่า การทำอิบาดะฮฺในเดือนนี้ โดยเฉพาะในสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺประเสริฐกว่าการอิบาดะฮฺในวันอื่นๆ ตลอดทั้งปี

 

 

ความประเสริฐของ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์

 

          พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงสาบานไว้ในอัลกุรอาน พระองค์ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงยิ่งใหญ่ไม่ทรงสาบานต่อสิ่งใดนอกจากด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน พระองค์ได้เริ่มต้น ซูเราะฮฺ อัล-ฟัจญรฺ ว่า

 

والفجْرِ ، وليالٍ عشْرٍ

ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณ และด้วยค่ำคืนทั้งสิบ

(อัลฟัจญรฺ : 1-2)

 

     ท่านอิบนุกะษีรได้ให้ความหมายของคำว่าด้วยค่ำคืนทั้งสิบหมายถึง 10 วันแรกของเดือน ซุลฮิจญะฮ์

 

 

ประกอบคุณงามความดีต่างๆ

 

     จากบุตรของอับบาส จากท่านรอซูลลุลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า

 

"مَا مِنْ أَيَّامٍ العَمَلُ الصَّالِحُ فِيهِنَّ أَحَبُّ إِلَى اللَّهِ مِنْ هَذِهِ الأَيَّامِ العَشْرِ"، فَقَالُوا: يَا رَسُولَ اللَّهِ، وَلَا الجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ؟ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: "وَلَا الجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ، إِلَّا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فَلَمْ يَرْجِعْ مِنْ ذَلِكَ بِشَيْءٍ"

 

     “ไม่มีวันใดที่การทำความดีในนั้นจะเป็นที่รักสำหรับอัลลอฮฺมากไปกว่าสิบวันนี้

     พวกเขาถามว่า "ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ไม่แม้แต่การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺหรือ?" 

     ท่านรอซูลลุลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า "ไม่แม้แต่การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ นอกจากผู้ที่ออกไปทั้งตัวและทรัพย์สิน และไม่ได้กลับมาอีกเลย(เพราะเสียชีวิตในสงคราม และทรัพย์สินถูกศัตรูยึดไป)"

(บันทึกโดยบุคอรีย์)

 

     อิบนุ เราะญับกล่าวว่าการปฏิบัติสิ่งที่เป็นฟัรฎูในวันดังกล่าวเป็นสิ่งดีกว่าการปฏิบัติฟัรฎูในวันอื่นๆ การปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนนะฮฺในวันดังกล่าว ก็เป็นการดีกว่าการปฏิบัติสุนนะฮฺในวันอื่นๆ

 

     ท่านเชคบินบาซ กล่าวว่าการกระทำความผิดและบาปใน 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์มันจะบาปหนักกว่าในวันอื่นๆ

 

     อิบนุ หะญัร กล่าวว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺเต็มไปด้วยความประเสริฐ เพราะในวันนั้นรวมการทำอิบาดะฮฺหลักต่างๆ นั่นคือละหมาด ถือศิลอด บริจาค และหัจญ์

 

     ท่านสะอี๊ด อิบนุญุบัยรฺเมื่อถึงสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮ์ ท่านจะขยันทำอิบาดะฮ์อย่างมากมาย โดยไม่มีใครสามารถแข่งขันความดีกับเขาได้

 

 

การถือศีลอดในวันอาเราะฟะฮฺ ในวันนั้นจะได้รับการลบล้างบาปถึงสองปี

 

     อบู เกาะตาดะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถูกถามเกี่ยวกับการถือศีลอดในวันอาเราะฟะฮฺ ดังนั้นท่านจึงตอบว่า

 

«صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أَحْتَسِبُ عَلَى اللَّهِ أَنْ يُكَفِّرَ السَّنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ»

 

     “การศิยามในวันอาเราะฟะฮฺ ฉันคาดหวังว่าอัลลอฮฺจะทรงลบล้างบาปของหนึ่งปีที่ผ่านมา และหนึ่งปีที่จะมาถึง

 (มุสลิม)

    บรรดาอุละมาอ์กล่าวว่า บาปที่หมายถึงในที่นี้คือบาปเล็ก

 

 

ในวันอาเราะฟะฮฺ วันแห่งการขอดุอาอ์ที่ประเสริฐที่สุด

 

     อับดุลลอฮฺ บิน อุมัร เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

 

«خَيْرُ الدُّعَاءِ دُعَاءُ يَوْمِ عَرَفَةَ، وَخَيْرُ مَا قُلْتُ أَنَا وَالنَّبِيُّونَ مِنْ قَبْلِي: لَا إِلٰهَ إِلَّا اللهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الـْمُلْكُ وَلَهُ الْـحَمْدُ وَهُوَ عَلٰى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ»

 

     “ดุอาอ์ที่ประเสริฐที่สุด คือดุอาอ์ในวันอาเราะฟะฮฺ และคำดุอาอ์ที่ประเสริฐที่สุดที่ฉันและบรรดานบีก่อนหน้าฉันกล่าว (ในวันนั้น) คือ

 

«لَا إِلٰهَ إِلَّا اللهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الـْمُلْكُ وَلَهُ الْـحَمْدُ وَهُوَ عَلٰى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ»

 

     “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองคืเดียว โดยปราศจากการตั้งภาคีใดๆพร้อมพระองค์ การปกครองดูแลเป็นของพระองค์ และมวลการสรรเสริญก็เป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงปรีชาสามารถบนทุกๆสิ่ง” 

(อิมามมาลิก, อัตติรมิซีย์)

 

ในวันอาเราะฟะฮฺอัลลอฮฺได้ทรงปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรกมากที่สุด

 

     อาอิชะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

 

«مَا مِنْ يَوْمٍ أَكْثَرَ مِنْ أَنْ يَعْتِقَ اللهُ فِيْهِ عَبْدًا مِنَ النَّارِ مِنْ يَوْمِ عَرَفَة»

 

     “ไม่มีวันใดที่อัลลอฮฺจะทรงปลดปล่อยบ่าวของพระองค์ออกจากไฟนรกมากยิ่งกว่าการปลดปล่อยของพระองค์ในวันอะเราะฟะฮฺ

(มุสลิม,)

 

ส่งเสริมให้การเชือดสัตว์พลี(กุรบาน) ในวันอีดอัฎฮาเพื่ออัลลอฮฺ

 

          การทำกุรบานั้น อุละมาอฺส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นซุนนะฮฺเน้นหนักให้กระทำ มุอักกะดะอฺ และเป็นการกระทำที่อัลลอฮฺทรงโปรดปรานยิ่งในวันอีด การทำกุรบาน มีหลักฐานที่ชัดเจน ส่วนหนึ่งคือ อัลลอฮฺ ตรัสความว่า

فَصَلِّ لِرَبِّكَ وَانْحَرْ

เจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี” 

(อัลเกาษัร : 2)

 

จากท่านอนัส บิน มาลิก (รอดิยัลลอฮฺอันฮู) กล่าวว่า

 

ضَحَّى النبيُّ صَلَّى اللهُ عليه وسلَّمَ بكَبْشينِ أمْلَحَيْنِ أقْرَنَيْنِ، ذَبَحَهُما بيَدِهِ، وسَمَّى وكَبَّرَ، ووَضَعَ رِجْلَهُ علَى صِفَاحِهِمَا “

 

     “ท่านรอซูลุลลอฮฺ ได้ทำการเชือดกุรบานแกะสีขาวสองตัว ซึ่งมันทั้งสองมีเขาแล้ว โดยท่านได้เชือดมันทั้งสองด้วยมือของท่านเอง ท่านได้วางเท้าทั้งสองของท่านลงบนข้างๆ ต้นคอทั้งสองของมัน พร้อมกับกล่าวบิสมิลลาฮฺและตักบีร

 

(บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม)

 

ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

يَوْمُ عَرَفَةَ وَيَوْمُ النَّحْرِ وَأَيَّامُ التَّشْرِيْقِ عِيْدُنَا أَهْلَ الإِسْلاَمِ وَهِيَ أَيَّامُ أَكْلٍ وَشُرْبٍ

 

วันอะรอฟะฮฺ วันนะหฺรุและวันตัชรีก เป็นวันรื่นเริงของเราโอ้ชาวอิสลามมันคือวันแห่งการกิน และดื่ม

( สุนันอัตติรมิซีย์)

 

- ความประเสริฐของวันนะหัร (วันอีด)

 

อับดุลลอฮฺ บิน กุรฏ์ อัษษะมาลีย์ เล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า

إِنَّ أَعْظَمَ الأَيَّامِ عِنْدَ اللَّهِ يَوْمُ النَّحْرِ ثُمَّ يَوْمُ الْقَرِّ

     “บรรดาวันต่างๆที่ประเสริฐที่สุด อัลลอฮฺ คือวันนะหัร หลังจากนั้นวันก็อร (วันที่พักอยู่กับที่ หมายถึงวันที่บรรดาหุจญาจญ์พักอยู่ที่ทุ่งมีนาในวันที่ 11-13 หลังจากวันนะหัร)” 

(อะหมัด อบูดาวูด)

 

- เป็นที่น่าตำหนิกับบุคคลมีความสามารถด้านทรัพย์แต่ไม่ปฏิบัติ


     มีรายงานจากอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

مَنْ وَجَد سَعَةً فلم يُضَحِّ فلا يَقْرَبَنَّ مُصَلاَّنا

ใครที่มีความสามารถทำกุรบาน แต่เขาไม่ทำ เขาอย่าได้เข้าใกล้ที่ละหมาดของฉัน

(บันทึกโดย อิบนุมาญะฮฺ)

 

♦ กล่าวซิรกรุลลอฮฺให้มากๆ โดยเฉพาะการตักบีร

 

อัลลอฮฺ ตรัสว่า

وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَعْلُومَاتٍ

และกล่าวพระนามอัลลอฮฺในบรรดาวันที่รู้กันอยู่แล้ว(วันเชือด)”

(อัลหัจญฺ : 28)

 

     ท่านอิบนิอับบาส กล่าวว่า คำว่าบรรดาวันที่รู้กันอยู่แล้วคือ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮฺ 

(อิบนุกะซีร)

     จากบุตรของอุมัร จากท่านศาสดา ขออัลลอฮฺทรงให้พรและสันติแด่ท่าน ได้กล่าวว่า

 

مَا مِنْ أَيَّامٍ أَعْظَمُ عِنْدَ اللَّهِ، وَلَا أَحَبُّ إِلَيْهِ مِنَ الْعَمَلِ فِيهِنَّ مِنْ هَذِهِ الْأَيَّامِ الْعَشْرِ، فَأَكْثِرُوا فِيهِنَّ مِنَ التَّهْلِيلِ، وَالتَّكْبِيرِ، وَالتَّحْمِيدِ"

 

     “ไม่มีวันใดจะยิ่งใหญ่ต่ออัลลอฮฺ และเป็นที่รักสำหรับพระองค์ ในการทำความดีมากไปกว่าสิบวันนี้ ดังนั้นพวกท่านจงกล่าว "ลาอิลาฮะอิลลอฮฺ" "อัลลอฮุอักบัร" และ"อัลฮัมดุลิลลาฮ์" ในวันเหล่านี้ให้มากเถิด

(บันทึกโดย อะห์มัด)

 

          ในวันอีดิลอัฏฮา เวลาตักบีรจะเริ่มจากวันที่ 1 เดือนซุลฮิจญะฮ์ ตักบีรแบบทั่วไป ส่วนการตักบีรแบบเฉพาะจะเริ่ม เช้าตรู่ของวันอะรอฟะฮ์ และสิ้นสุดช่วงดุริอ์ของวันตัชรีก คือวันที่ 13 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์

 

     จากอิบนุ อุมัร และอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุม ว่า

 

يخرجون إلى السوق يكبرون ويكبر الناس بتكبيرهما

 

     “ทั้งสองคนได้ออกไปกล่าวตักบีรที่ตลาดในสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺ แล้วผู้คนก็กล่าวตักบีรเนื่องด้วยการตักบีรของท่านทั้งสอง

 

          ในวันอีดิลอัฏหาเวลาตักบีรจะเริ่มจากเช้าตรู่ของวันอะรอฟะฮ์ คือวันที่ 10 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ และสิ้นสุดช่วงดุริอ์ของวันตัชรีก คือวันที่ 13 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์

 

คำกล่าวตักบีร

 

     ตามรายงานของบัยหะกีย์กล่าวว่า อับดุลลอฮ์ บิน อับบาสกล่าวตักบีร ดังนี้

 

الله أكْبر، اللهُ أكْبَر ، اللهُ أكْبَر

لا إلَه إلاَّ اللهُ واللهُ أكْبَر

اللهُ أكْبَر ، وللهِ الحمْدُ .

 

"อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่ อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ

อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่ อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่ เเละการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แด่พระองค์

 

ส่งเสริมมุสลิมจะทำความดีในช่วงสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ คือ

 

- การสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮฺ

- การละหมาดซุนนะฮฺให้มากๆ

- การถือศีลอดวันที่ 1-9 ซุลฮิจญะฮฺ

- การบริจาคทานให้มากมาย

- การถือศีลอดวันอะเราะฟะฮฺ

- การเชือดกุรบาน(อุฎฮิยะฮฺ)

- การละหมาดกลางคืน กิยามุลลัย

- การกลับเนื้อกลับตัว