การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพ่อแม่ที่แก่ชรา
เรียบเรียงโดย ... อบูชากิร อัลมะดะนีย์
ด้วยพระนามของอัลลอฮผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาเสมอ
นับวันพ่อ แม่ของเราก็อายุมากขึ้น และตัวเราเองก็ต้องแก่ชราเหมือนกับท่านทั้งสองในวันข้างหน้า เป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น อัลลอฮ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า
اللَّهُ الَّذِي خَلَقَكُم مِّن ضَعْفٍ ثُمَّ جَعَلَ مِن بَعْدِ ضَعْفٍ قُوَّةً ثُمَّ جَعَلَ مِن بَعْدِ قُوَّةٍ ضَعْفًا وَشَيْبَةً يَخْلُقُ مَا يَشَاءُ وَهُوَ الْعَلِيمُ الْقَدِيرُ
“ อัลลอฮฺทรงเป็นผู้สร้างพวกเจ้าในสภาพอ่อนแอ แล้วหลังจากความอ่อนแอพระองค์ก็ทรงทำให้มีความแข็งแรงแล้วหลังจากความแข็งแรงทรงทำให้อ่อนแอและชราภาพ พระองค์ทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงอานุภาพ “
[อัรรูม 54]
พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่ยังเด็ก เสียสละ แบ่งปัน อดทน ต่อสู้และหวังให้ลูกได้เติบโตขึ้นมา ครั้นเรายังเด็กท่านทั้งสองยังแข็งแรง แต่ในวันนี้ท่านแก่ชรา อายุมากขึ้น ร่างกายเปลี่ยนแปลง มีโรคต่างๆ ในบางครั้งเราเห็นพ่อแม่ยิ้ม นั้นไม่ได้หมายความว่าท่านมีความสุข แต่เป็นแค่การยิ้มเพื่อให้ลูกมีความสุข
การที่พ่อแม่ยื่นอาหารให้แก่ลูกหวังให้ลูกได้กินแม้ตัวเองจะหิวสักปานใดก็ตาม การที่เราเห็นพ่อแม่ตื่นนอนแต่เช้า ไม่ได้หมายความว่าท่านสบายดี แต่อาจเป็นไปได้ว่าท่านนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนก็ได้ เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องใส่ใจดูแลท่านทั้งสองอย่างเป็นพิเศษ เพราะพ่อแม่คือความรับผิดที่อัลลอฮ์ได้มอบให้แก่เรา เป็นโอกาสที่เราจะต้องรีบแสวงหาความพอใจจากอัลลอฮ์ ตะอาลา สิ่งที่ลูกๆทุกคนต้องคำนึงในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพ่อแม่คือ ความรัก ความอ่อนโยน การเอาใจใส่
ดังที่อัลลอฮ์ได้สั่งไว้ว่า
وَاخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ الذُّلِّ مِنَ الرَّحْمَةِ وَقُل رَّبِّ ارْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِي صَغِيراً
“จงนอบน้อมตนให้กับทั้งสองด้วยความเมตตา และจงกล่าวขอพรให้กับทั้งสองว่า โอ้ผู้อภิบาลแห่งข้าได้โปรดเมตตาทั้งสองคนเช่นเดียวกับที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูข้าเมื่อครั้งยังเล็กๆ”
[สูเราะฮฺ อัล-อิสรออฺ].
ท่านใดที่มีลูกคงจะเคยเจอกับตัวเองว่า เรามักจะเรียกลูก ใช้ลูกทำอะไรบางอย่าง เช่น ให้ใส่เสื้อผ้า สั่งให้อาบน้ำ กินข้าว วันละหลายๆรอบ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เช่นเดียวพ่อแม่ที่อายุมาก ท่านทั้งสองมักจะหลงๆลืมๆ ทำอะไรไม่ได้ ไม่ค่อยได้ยิน จำเป็นแก่เราที่ต้องอดทน ดูแลท่านด้วยความเมตตา อย่าได้ตะคอก ขู่เข็ญ พ่อแม่เป็นอันขาด
ดร.อัซซาน บาชา นายแพทย์ชาวซีเรีย ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอารเบีย เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในที่ทำงานของฉัน ทำให้ฉันเศร้าใจมาก เมื่อฉันได้ยินชายหนุ่มคนหนึ่งยืนตะคอกใส่หน้าแม่ของเขาที่ป่วย หน้าห้องตรวจโรค ขณะที่ฉันกำลังจะเข้าไปตรวจคนไข้ โดยพูดเสีบงดังใส่แม่ว่า “ฉันเหนื่อยจริงๆ อีกกี่ครั้งที่ต้องมาพาโรงพยาบาล ไม่เบื่อบ้างหรือมาพบแต่หมอ !!!
ผมจึงตัดสินใจเดินไปหาเขาแทนที่จะเข้าห้องตรวจ แล้วพูดกับเขาว่า จำได้มั้ยว่าแม่เธอพาเธอมารักษากี่ครั้งตอนเธอเป็นเด็ก?
จำได้มั้ยว่ากี่วันคืนที่แม่เธออดหลับอดนอน เพื่อเฝ้าดูแลเธอ? เธอลืมไปแล้วหรือว่าแม่เธอเลี้ยงดูเธอมา สอนให้เธอพูด สอนให้เธอเก่ง แต่ในวันนี้ฉันกลับเห็นเธอตะโกนใส่หน้าแม่ที่เขาอ่อนแอและกำลังป่วยไข้ เธอไม่กลัวเหรอว่านางจะเสียใจ เธอไม่กลัวเหรอว่าจะทำให้นางโกรธ และหากนางโกรธก็เท่ากับอัลลอฮ์โกรธ และสวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง
ชายหนุ่มคนนั้นนิ่งเสมือนว่าคำพูดที่ออกไปจากผมสะกดจิตใจของเขา และเขาก็ร้องไห้ออกมา เขาเข้าไปกอดแม่ หอมแก้มแม่ และขอโทษนาง ท่ามกลางสายตาของคนในโรงพยาบาลที่จับจ้องไปที่เขาทั้งสอง
โอ้พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย จงปฏิบัติต่อพ่อแม่เกิด พูดกับท่านทั้งสองด้วยคำพูดที่ดี หมั่นขอดุอาให้แก่ท่าน หมั่นพูดคุยถามไถ่ แม้จะเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ก็ตาม จงให้หยิบยื่น แบ่งปันให้ท่านโดยไม่ต้องรอให้ท่านขอ จงมอบให้ท่านจากเสี้ยวหนึ่งของเงินเดือนของคุณ อย่าเป็นผู้ใจบุญกับคนทั่วไปในหน้าสังคมนี้แต่กลับขี้เหนียว ไม่สนใจใยดีกับพ่อแม่ จงขอบคุณอัลลอฮ์ และพ่อแม่ให้มากๆ ดังที่อัลกุรอ่านได้บอกไว้ว่า
﴿ أَنِ ٱشۡكُرۡ لِي وَلِوَٰلِدَيۡكَ ﴾
“เจ้าจงขอบคุณต่อข้า และบิดามารดาของเจ้า”
(ลุกมาน : 14)
การอกตัญญูต่อพ่อแม่นั้นเป็นความผิดที่ร้ายแรง แต่การอกตัญญูต่อแม่นั้นมีบาปที่มหันต์ยิ่งกว่า เพราะท่านศาสนทูต ได้บอกอย่างเจาะจงเลยว่าอัลลอฮฺทรงห้ามการอกตัญญูต่อผู้เป็นแม่ ท่านได้กล่าวว่า
«إِنَّ اللهَ حَرَّمَ عَلَيْكُمْ عُقُوقَ الْأُمَّهَاتِ ... »
"แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงห้ามการอกตัญญูต่อผู้เป็นมารดา"
(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ 5975)
สัตว์แพทย์ผู้โด่งดังนายหนึ่งในอเมริกา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง ที่เขาได้รับโทรศัพท์ให้ออกไปรักษาม้าที่ป่วยแก่เศรษฐีคนหนึ่งที่บ้านของเขา เมื่อเขาไปถึงก็ได้ตรวจอาการม้า และฉีดยาให้พร้อมทั้งรอดูอาการ ปรากฏว่าอาการดีขึ้น หมอจึงขอตัวกลับพร้อมกับค่ารักษา 200 ดอลล่าร์ ก็ประมาณ 6000 บาทหากคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณ เมื่อหมอกำลังจะออกจากบ้าน ลูกของเศรษฐีก็วิ่งมาอย่างหน้าตาตื่น และบอกพ่อว่าช่วยด้วยครับ พ่อครับ คุณย่าไม่สบาย ปวดท้องอย่างหนัก
เศรษฐีคนนั้นเมื่อได้ยินกลับดูไม่ตกใจ หรือกังวลอะไรเลย และตอบลูกของเขาว่า ลูกจงไปบอกคนขับรถให้พาคุณย่าไปโรงบาลของรัฐบาลนะ อัลลอฮอุอักบัร ม้าเป็นสัตว์เลี้ยงแต่กลับรักษาดูแลด้วยหมอที่ดีที่สุด ให้มารักษาถึงที่บ้าน แต่แม่แท้ๆของตัวเองป่วยหนักกลับใช้ให้ไปรอคิวรักษาในโรงพยาบาล
พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย เตือนฉัน เตือนท่าน พ่อแม่ของเราเราต้องดูแล เอาใจใส่ ให้ดีๆในขณะที่ท่านมีชีวิตเถิด โดยเฉพาะในยามที่ท่านแก่ชรา และถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่งสำหรับลูกที่นำพ่อแม่ในวัยนี้ไปอยู่ในบ้านพักคนชรา และหากท่านเสียชีวิตไปแล้วก็จงขอดุอาให้แก่ท่านทุกๆวัน ทุกๆครั้งที่ละหมาด
ดุอาให้แก่พ่อแม่
رَبِّ اغْفِرْ لِيَّ وَلِوَالِدَيَّ وَارْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِيْ صَغِيْرًا
อ่านว่า: ร็อบบิฆฺฟิรฺลี วะลิวาลิดัยย่า วัรฺฮัมฮุมา กะมาร็อบบ้ายานี ศ้อฆีรอ
ความว่า :โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดอภัยโทยให้ฉัน และให้แก่บิดามารดาของฉัน และโปรดให้ความเมตตาท่านทั้งสองเหมือนที่ทั้งสองได้เอ็นดูเลี้ยงฉันมาในวัยเด็ก