ของขวัญที่ถูกลืม
  จำนวนคนเข้าชม  3490


ของขวัญที่ถูกลืม

 

โดย บินตฺ ยะห์ยา

 

          ธรรมชาติของมนุษย์มักจะจดจำของขวัญ หรือรางวัลที่เคยได้รับเป็นอย่างดี และมักจะทนุถนอมดูแลรักษาเป็นอย่างดีด้วย แต่กลับมีสองสิ่งที่ถือว่าเป็นของขวัญล้ำค่าที่มนุษย์ส่วนใหญ่กลับหลงลืมมัน สองสิ่งที่ว่านั้นก็คือการมีสุขภาพดี และการมีเวลาว่าง


     มีรายงานจากอิบนุ อับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ แจ้งว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

     “ความกรุณาโปรดปรานสองประการ ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่เห็นคุณค่า นั่นคือ การมีสุขภาพที่ดี และการมีเวลาว่าง

(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์)

 

          มนุษย์ส่วนมากมักจะเคยชินกับการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ตื่นลืมตาขึ้นมาก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน จัดแจงเสื้อผ้า อาหาร ดูแลส่งลูกไปโรงเรียน และไปทำงาน ชีวิตมันก็จะดำเนินไปตามปกติ ตราบเท่าที่โรคภัยยังไม่มากล้ำกลาย มนุษย์แทบจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่า การมีสุขภาพที่ดีนั้น คือของขวัญ อันล้ำค่าที่สุด

 

          หากว่าท่านทั้งหลายได้เคยมีโอกาสไปโรงพยาบาล ไม่ว่าท่านจะไปในฐานะคนป่วย หรือไปเยี่ยมคนป่วยก็ตามที ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็น ก็คือผู้คนที่ป่วยไข้ตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนถึงหนักหนาสาหัส จะพบว่าส่วนมากแล้ว ผู้คนมักไม่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุและผลใด ก็ตาม

 

         ในยามที่เรามีสุขภาพที่ดีนั้น หัวใจของเราเคยมีเวลาว่างที่จะรำลึกถึงความเมตา ความกรุณาโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้าบ้างหรือไม่? เคยมั้ยที่จะคิดหาเวลารำลึกถึงพระองค์ยามหัวใจเป็นสุข ร่างกายสบาย ในหัวใจดวงนั้นถูกบรรจุไว้ด้วยผู้ใดกัน ใบหน้าที่สวยงาม เรือนร่างที่ครบสมบูรณ์สง่างาม และสติปัญญาที่พรั่งพร้อมนั้น คือของขวัญชิ้นสำคัญที่ได้มาแต่กำเนิด

 


          หรืออาจมีใครบางคนนึกค้านอยู่ในใจ แต่ลองถามตัวพวกท่านเองดูเถิดว่า หากท่านต้องแลกดวงตาทั้งสองกับเงินยี่สิบล้าน ท่านจะยอมแลกหรือไม่ หรือท่านจะยอมแลกตับ แลกไต แลกมือ แขนขา กับทรัพย์สินมายาแห่งโลกนี้เล่า? หรือท่านทั้งหลายจะต้องล้มป่วยลงเสียก่อน แล้วเหตุใดจึงต้องรอให้ถึงครานั้น เหตุใดท่านจึงไม่คิดที่จะฉกฉวยวันเวลาขณะที่กำลังวังชาที่ท่านยังมีอยู่ในวันนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าของท่านอย่างเต็มที่เล่า? หากจะรอถึงวันที่ต้อง ล้มป่วย แม้ว่าท่านจะอยากลุกขึ้นทำอิบาดะห์ต่อพระองค์ ท่านอาจจะไม่มีเรี่ยวแรงพอแม้แต่พยุงกายของท่านขึ้นมาก็เป็นได้

 

          ช่างน่าแปลก... ที่มนุษย์มักไม่ค่อยเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนมีทั้ง ที่เป็นสิ่งที่พระเจ้าให้ติดตัวมา ตั้งแต่ต้น อมานะห์ที่ต้องดูแลรักษา แล้วพวกท่านทำอย่างไรกับอมานะห์นี้กัน? ท่านกำลังปล่อยให้ความ ยุ่งเหยิงของดุนยา การแสวงหาปัจจัยยังชีพ กลืนกิน และบดบังเวลาที่จะแสดงการขอบคุณต่อพระเจ้ากระนั้นหรือ? คำกล่าวอ้างที่ว่าไม่มีเวลาท่านจะใช้มันไปถึงเมื่อใดกัน?

 

     ท่าน อิบนุ อับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวตักเตือนชายผู้หนึ่งว่า

 

     “จงฉวยโอกาสห้าประการ ก่อนที่อีกห้าประการจะมาถึง กล่าวคือ

     ในขณะที่เจ้ายังหนุ่มแน่น ก่อนที่เจ้าจะแก่ชรา

     ขณะที่เจ้ายังมีสุขภาพที่ดี ก่อนที่เจ้าจะป่วยไข้

     ขณะที่เจ้าร่ำรวย ก่อนที่เจ้าจะยากจน

     ขณะที่เจ้ายังมีเวลาว่าง ก่อนที่เจ้าจะยุ่งเหยิง

     และขณะที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่เจ้าจะพบกับความตาย

(บันทึกโดย อัลฮากิม)

 

          ผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ ที่เขาเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาล แต่ช่างน่าเสียดายที่ชีวิตเขากลับแทบจะหาเวลาว่างมิได้เลย หรือบางคนอัลลอฮฺให้ริสกีมากมาย หากแต่ริสกีเหล่านั้น กลับต้องมาผูกติดอยู่กับโรงพยาบาล หรือมีธุรกิจ กิจการที่ต้องจัดการดูแล จนแม้กระทั่งเวลาจะรับประทานอาหาร ยังไม่มีเวลาที่จะพบปะพูดคุยกับลูกหลานยิ่งหายากเต็มที หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจะแตกต่างอย่างไรกับคนยากคนจนเล่า?

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาที่รักทั้งหลาย ท่านเคยถามตัวของพวกท่านเองบ้างหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้ว อะไรคือนิยามคำว่า ความสุขของพวกท่านกัน? สิ่งที่พวกท่านทุ่มเทแสวงหา จะนำพาความสุขที่แท้จริงมาให้ท่านได้จริงหรือ?

 

     ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

     “ผู้ใดที่ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับภาวะที่สงบสุข มีความปลอดภัยในชีวิต ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีอาหารการกินที่ฮะลาลอย่างครบถ้วน เหมือนกับว่าความผาสุกแห่งโลกนี้ได้ถูกเตรียมไว้สำหรับเขาหมดแล้ว

(บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาที่รักทั้งหลาย หากวันนี้ท่านกำลังประสบกับความทุกข์ยาก ลำบากยากเข็ญ ขอพวกท่านจงอดทน และจงวิงวอนขอต่อพระเจ้าของท่านเถิด ท่านอย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจเลย เพราะสิ่งที่อัลลอฮฺจะทรงตอบแทนให้ท่านนั้น ย่อมเป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่กว่า อย่างน้อย หากท่านยังมีสถานภาพกายที่แข็งแรง ก็นับว่าท่านได้รับความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว พวกท่านจงขอบคุณและอดทนเถิด เพราะสองสิ่งนี้นั้นคือเครื่องหมายของผู้ศรัทธา

 

     ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

 

     “เป็นที่แปลกประหลาดยิ่งสำหรับการงานของมุอฺมิน แท้ที่จริง กิจการของเขาทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องประเสริฐ จะไม่มีผู้ใดมามีส่วนได้รับด้วย นอกจากมุอฺมินผู้ศรัทธาเท่านั้น กล่าวคือ

     เมื่อความสุขประสบกับเขา เขาก็ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ นั่นเป็นความดีสำหรับเขา

     และเมื่อความทุกข์ยากมาประสบกับเขา แล้วเขาก็อดทน นั่นก็เป็นความดีสำหรับเขา

(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)

 

     ท่าน อบี ฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

     “ดุอาอฺที่ดีที่สุดที่บุคคลควรจะวอนขอ คือ โอ้ อัลลอฮฺ ขอได้โปรดให้ข้าพระองค์ได้รับความสุขสบายทั้งในโลกนี้ และโลกหน้าด้วยเถิด

(บันทึกโดย อิบนุ มาญะฮฺ)

 

         โอ้พี่น้องผู้ศรัทธาที่รักทั้งหลาย หากวันนี้ เวลานี้ ท่านนั้น เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้เป็นเจ้าของครอบครองความกรุณาโปรดปรานทั้งสองประการนี้แล้วละก็ ก็จงอย่าปล่อยให้วันและเวลาผ่านพ้นไป โดยที่ท่านทั้งหลายมิได้ใช้ความโปรดปรานที่ท่านมีให้คุ้มค่าเลย ท่านมิชอบดอกหรือ หากท่านจะได้มาพร้อมกับผลกำไร โดยที่ท่านมิต้องลงทุน

 

          พี่น้องที่รักทั้งหลาย ท่านอย่าได้ปล่อยชีวิตของท่านให้หลงระเริงไปกับโลกนี้ โดยที่ท่านมิได้ใช้ต้นทุนที่ท่านมีสร้างกำไรใด เพื่อโลกหน้า สำหรับตัวท่านเอง และผู้ที่ท่านรักเลย อย่างน้อย ในวันหนึ่งๆ ท่านจงขอดุอาอฺ ดังท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขอทุก วัน ทั้งยามเช้าและยามเย็น

 

          ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มักจะวิงวอนขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ ทั้งยามเช้าและยามเย็น เพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่ดีอยู่เป็นประจำ หรือแม้แต่เมื่อท่านจะเข้านอน ท่าน อิบนุ อุมัร ร่อฎิยัลลอฮุ อันฮุมา เล่าว่า

 

     “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละเว้นที่จะกล่าวดุอาอฺเหล่านี้เลย ทั้งยามเช้าและ ยามเย็นว่า

     โอ้อัลลอฮฺ ได้โปรดให้ฉันมีสุขภาพพลานามัยที่ดี ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าด้วยเถิด

     ขอให้ฉันได้รับการอภัยโทษและความปลอดภัย ทั้งในเรื่องศาสนาและเรื่องดุนยา รวมทั้งครอบครัวและทรัพย์สินของฉันด้วยเถิด

     โอ้อัลลอฮฺ ขอทรงโปรดปกปิดเอาเราะฮฺของฉันและให้ฉันได้มีจิตใจที่สงบสุขด้วยเถิด

     โอ้อัลลอฮฺ ขอได้โปรดปกป้องฉันทางด้านหน้า ด้านหลัง ด้านขวา และด้านซ้ายของฉันด้วยเถิด

     และฉันขอความคุ้มครองด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติจากเบื้องล่างของฉันด้วยเถิด

(บันทึกโดย อบู ดาวู๊ด)

 

         ท้ายนี้ขอดุอาอฺจากเอกองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้โปรดให้เราทั้งหลาย เป็นผู้ที่ได้รับของขวัญอันล้ำค่าทั้งสองอย่างนี้ และใช้ไปเพื่อทำการอิบาดะฮฺต่อพระองค์ และการรำลึกถึงพระองค์ด้วยเถิด

 

 

ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร (25 มกราคม 2563)