ขอให้ได้รับอัตเตาฟีก
โดย อาจารย์อับดุสสลาม เพชรทองคำ
บรรดาการสรรเสริญทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น ขอความเมตตา ความจำเริญ และความศานติจงมีแด่ท่านร่อซูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลอะอฺลา อายะฮฺที่ 14 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
“แน่นอน คนที่คอยขัดเกลา คอยชำระหัวใจของตนเอง ย่อมประสบความสำเร็จ”
“คนที่คอยขัดเกลา คอยชำระหัวใจของตนเอง” หมายถึง คนที่พยายามทำให้หัวใจ หรือจิตใจของเขานั้นสะอาด ...สะอาดด้วยการเชื่อมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่าทรงเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น เป็นพระเจ้าทั้งในด้านของอัรรุบูบียะฮฺ ด้านอัลอุลูฮียะฮฺและด้านอัลอัสมาวัศศิฟาต ซึ่งนั่นจะทำให้เขาไม่ทำชิริกต่อพระองค์เลย
เขาจะพยายามสร้างอัตตักวา หรือความยำเกรงให้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา ด้วยการทำสิ่งที่เป็นคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถของเขา และเขาก็จะพยายามละเลิก ออกห่างจากสิ่งที่เป็นคำสั่งห้ามของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน เขาก็จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามแบบอย่างที่มาจากท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือ เขาจะไม่ทำบิดอะฮฺด้วย
ดังนั้น เมื่อใครก็ตามที่เขาสามารถขัดเกลา ชำระหัวใจของเขาให้สะอาดอย่างนี้ได้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะประสบความสำเร็จ นั่นคือ เขาจะได้รับความสุข ได้รับชีวิต ที่ดีงามทั้งในดุนยา และในอาคิเราะฮฺ เขาก็จะได้รับความปลอดภัยจากการถูกลงโทษในไฟนรก อีกทั้งยังได้รับหนทางที่นำไปสู่สวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างง่ายดาย และได้พำนักอยู่ในสวรรค์ อันบรมสุขนั้นตลอดกาล
แท้จริงแล้ว การที่คนเราจะประสบความสำเร็จดังกล่าวนี้ได้นั่นเป็นเพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ประทานอัตเตาฟีกให้แก่เขา อันนับเป็นความโปรดปรานอีกประการหนึ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ประทานให้แก่บ่าวของพระองค์
อัตเตาฟีกคืออะไร?
อัตเตาฟีก คือ การที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงอนุมัติให้บ่าวของพระองค์ ได้ประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
-♦ เมื่อไรก็ตาม ที่เราจะลงมือทำการงานอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น เราจะทำมันสำเร็จก็ต่อเมื่อ เราได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
-♦ เมื่อเรามีความปรารถนาอยากจะลุกขึ้นละหมาดตะฮัจญุดในยามดึกดื่น หากเราสามารถลุกขึ้นมาละหมาดได้ นั่นเป็นเพราะเราได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
-♦ เมื่อเรามีความประสงค์อยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของเรา เราจะทำสำเร็จได้ เราก็ต้องได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
-♦ เมื่อเราต้องการลงมือทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม เราจะทำสำเร็จตามที่เรามุ่งหวังตั้งใจไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่า เราได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา หรือไม่
ดังนั้น การได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะทำให้เราได้รับความสำเร็จในชีวิตของเรา นั่นก็หมายความว่า เราจะไม่ได้รับความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเด็ดขาด หากเราไม่ได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
การที่ชีวิตของเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตของเรา ตามที่อัลกุรอานอายะฮฺข้างต้นได้บอกไว้นั้น มันมาจากการที่เราได้รับอัตเตาฟีกในระดับขั้นสูงสุดที่เรียกว่า ฮิดายะฮฺเตาฟีก อันเป็น อัตเตาฟีกที่บรรดา ซอฮาบะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยได้รับมาก่อนแล้ว
ซึ่งเป็นอัตเตาฟีกที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงให้บ่าวของพระองค์เกิดความรู้สึกรักในการเชื่อมั่นศรัทธาต่อพระองค์ เกิด ความรักต่อบรรดานบีของพระองค์ รักท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม รักที่จะปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม รักที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในขณะเดียวกัน เขาก็จะรู้สึกเกลียดไม่ชอบการเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา เกลียดการฝ่าฝืนบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลหุญุรอต อายะฮฺที่ 7 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
“และพวกเจ้าพึงรู้เถิดว่า ในหมู่พวกเจ้านั้น มีร่อซูลของอัลลอฮฺ (ร่วมอยู่กับพวกเจ้า) หากเขา (มุฮัมมัด) ทำตามพวกเจ้าในหลาย ๆ เรื่องแล้ว แน่นอนพวกเจ้าก็จะลำบากกัน แต่อัลลอฮฺทรงให้พวกเจ้ารักการศรัทธาให้พวกเจ้าเห็นดีเห็นงามกับสิ่งนี้ และทรงให้พวกเจ้าเกลียดการปฏิเสธศรัทธา (เกลียด) การฝ่าฝืน ซึ่งชนเหล่านี้แหละคือคนฉลาด”
ท่านอิบนุล กอยยิม เราะฮิมะฮุลลอฮฺ อุละมาอฺสำคัญท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า “อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสกับบรรดาบ่าวผู้ศรัทธาว่า ...หากไม่ใช่เพราะการประทานอัตเตาฟีกของข้าให้แก่พวกเจ้าแล้ว แน่นอน หัวใจของพวกเจ้าย่อมไม่ยอมจำนนต่อการอีมาน ดังนั้น การอีมานจึงไม่ใช่เกิดจากตัวของพวกเจ้าเอง แต่เป็นเพราะข้าต่างหากที่ทำให้พวกเจ้าเกิดความรู้สึกรักชอบ เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นในหัวใจ ตลอดจนให้พวกเจ้าเกิดความเกลียดชังต่อสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับมันก็คือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความดี นั่นก็คือเกลียดชังต่อการไม่ศรัทธาและสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนต่าง ๆ”
ดังนั้น การที่เราจะได้รับอัตเตาฟีกนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราต้องขอจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น จะขอจากผู้อื่นใดหรือขอจากสิ่งอื่นใดไม่ได้เลย มีแต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น ที่จะประทานให้ได้ และเราจะไม่ขอให้ได้รับอัตเตาฟีกเลยก็ไม่ได้เช่นกัน
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลเกาะศ็อศ อายะฮฺที่ 56 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
“แท้จริงแล้ว เจ้า (มุฮัมมัด) นั้น ไม่สามารถจะชี้ทางนำแก่คนที่เจ้ารักได้หรอก แต่อัลลอฮฺเท่านั้น ที่ทรงสามารถชี้ทางนำแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ พระองค์ทรงรู้ดีที่สุดเกี่ยวกับบผู้ที่จะได้รับทางนำ”
คำว่า “ยะฮฺดี” ในอายะฮฺนี้ก็หมายถึง ฮิดายะฮฺ ทางนำที่บรรดาอุละมาอฺให้ชื่อว่า ฮิดายะฮฺเตาฟีก อันเนื่องมาจากว่าอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสถึงท่านนบีชุอัยบ์ อะลัยฮิสลาม ไว้ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด อายะฮฺที่ 88 ว่า
“ท่านนบีชุอัยบฺได้กล่าวว่า...
“อัตเตาฟีก ความสำเร็จของข้าพระองค์จะไม่เกิดขึ้น เว้นแต่ด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮฺเท่านั้น เฉพาะพระองค์ องค์เดียวเท่านั้น ที่ข้าพระองค์ขอมอบตน และยังพระองค์เท่านั้น ที่ข้าพระองค์จะกลับไปหา”
เมื่อเราเห็นใครที่เขาได้รับทรัพย์สมบัติมากมายเหลือเกิน หรือได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูง ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง หรือได้รับความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องของโลกดุนยา เราอาจจะคิดว่า เขาเป็นผู้ที่ได้รับอัตเตาฟีก ซึ่งความจริง อุละมาอฺได้กล่าวไว้ว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเรื่องราวโลกดุนยานั้นเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ประทานให้กับผู้ที่พระองค์ทรงรัก และไม่ทรงรัก
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลฟัจญ์รฺ อายะฮฺที่ 15-17 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ว่า
“มนุษย์นั้น เมื่อพระเจ้าของเขาได้ทรงทดสอบเขาด้วยการให้เขาได้รับเกียรติยศ และได้ประทานความสะดวกสบายให้แก่เขา ...เขาก็จะกล่าวอ้างว่า พระเจ้าของฉันทรงให้เกียรติฉัน...
แต่ครั้นเมื่อพระองค์ทรงทดสอบเขา ด้วยการจำกัดปัจจัยยังชีพแก่เขา (ไม่ให้เขาได้รับมากมาย) เขาก็จะกล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงเหยียดหยามฉัน... (แต่ทว่า) ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก...”
มันใช่อย่างที่เราเข้าใจอย่างนั้น แต่ความเข้าใจที่ถูกต้องก็คือผู้ที่ได้รับอัตเตาฟีกนั้น คือผู้ที่ใช้สิ่งที่ได้รับมา ให้เป็นไปในทางที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงโปรดปราน ใช้ในการค้ำจุน เกื้อจุนอัลอิสลามหรือใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย หากได้รับทรัพย์สมบัติ เขาก็จะเลือกทรัพย์สมบัติที่หะลาลและใช้จ่ายมันไปในหนทางของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ใช้เพื่อการอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับอัตเตาฟีก ก็คือ ผู้ที่นอบน้อมขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใด ในขณะที่ผู้ที่ไม่ได้เตาฟีกนั้น จะฝ่าฝืนและเนรคุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลอะลัก อายะฮฺที่ 7-8 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
“ไม่ใช่เช่นนั้น แท้จริงแล้ว มนุษย์มักจะชอบฝ่าฝืน เมื่อพบว่าตัวเองมีความสมบูรณ์”
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนัมล์ อายะฮฺที่ 40 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสถึงนบีสุลัยมาน อะลัยฮิสลาม ว่า
“เขา (นบีสุลัยมาน) กล่าวว่า นี่เป็นเพราะความโปรดปรานของพระเจ้าของข้าพระองค์ เพื่อทรงทดสอบว่า ข้าพระองค์จะรู้คุณ จะขอบคุณหรือเนรคุณ ...
ดังนั้น ผู้ใดที่ขอบคุณพระองค์ แท้จริงแล้ว นั่นคือการที่เขาได้ขอบคุณเพื่อตัวเขาเอง (ก็เป็นเพราะว่าเขาได้รับการตอบแทนที่ดีจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
และผู้ใดเนรคุณต่อพระองค์ แท้จริงแล้ว พระเจ้าของฉันนั้นเป็นผู้ทรงมั่งมี ผู้ทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใจบุญยิ่ง”
อัตเตาฟีกที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะประทานให้แก่บ่าวของพระองค์นั้น มีหลายรูปแบบ ดังเช่น
♣- ประทานในรูปแบบที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้เสนอความดีให้แก่มนุษย์ แล้วพวกเขาก็ต่อต้านไม่ยอมรับ จนกระทั่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงเปิดหัวใจให้แก่พวกเขา
ดังเช่นที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เชิญชวนกลุ่มต่าง ๆ ให้ตอบรับการเข้าสู่อัลอิสลาม แต่พวกเขาก็ไม่ตอบรับการเชิญชวนของท่านนบี พวกเขาจึงไม่ได้เป็นมุสลิมเสียที จนกระทั่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ประทานอัตเตาฟีกให้แก่ชาวอันศ็อร ให้ได้รับทางนำ ทำให้ชาวอันศ็อรได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่จากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ
สำหรับเราก็เช่นกัน ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านเรื่องราวบทบัญญัติศาสนาแล้ว เราเชื่อฟังและได้นำมาปฏิบัติตามอย่างจริงใจอย่างเต็มใจ นั่นก็เท่ากับเราได้รับอัตเตาฟีกเหมือนกัน แต่ถ้าเรายังดึงดัน ยังหาข้ออ้างต่าง ๆ นานา นั่นแสดงว่าเรายังไม่ได้รับอัตเตาฟีก
♣- อัตเตาฟีก อาจอยู่ในรูปของการที่บ่าวได้ทำอะมัลซอและฮฺ หรือทำอิบาดะฮฺเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้รับผลบุญมหาศาล
ดังตัวอย่างที่ปรากฏในอัลฮะดิษ บันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม รายงานจากท่านอัลอัรรออฺ เราะฎิยัลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ชายสวมเกราะคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วถามว่า
โอ้ ท่านร่อซูลุลอฮฺ จะให้ฉันออกรบก่อน หรือจะให้ฉันเข้ารับอิสลามก่อน?
ท่านนบีตอบว่า : “เข้ารับอิสลามก่อนแล้วออกรบ”
ชายคนนั้นจึงเข้ารับอิสลามแล้วออกไปรบ และถูกฆ่าเสียชีวิต ...
ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงได้กล่าวว่า : “เขาทำงานนิดเดียว แต่ได้รับผลตอบแทนมหาศาล”
นั่นคือ เขาได้รับผลบุญตอบแทนจากการตายชะฮีดของเขา ซึ่งเป็นผลบุญที่ยิ่งใหญ่ ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งเข้ารับอิสลาม ยังไม่ได้ทำอิบาดะฮฺอะไรมากมายเลย แต่ถ้าเขาออกรบก่อน และถูกฆ่าเสียชีวิตก่อนที่จะเข้ารับอิสลาม เขาก็จะเสียชีวิตในสภาพของผู้ปฏิเสธศรัทธา อันเป็นสภาพที่ขาดทุนป่นปี้ ...นี่ก็เป็นเพราะเขาได้รับฮิดายะฮฺเตาฟีก
ดังนั้น เป็นความจำเป็นที่สุดที่เราต้องขอให้ตัวเราได้รับอัตเตาฟีกจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือฮิดายะฮฺเตาฟีก อุละมาอฺได้กล่าวไว้ว่า
“ผู้ใดก็ตามที่มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างดี อีกทั้งมีความอิคลาศต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างจริงจังจริงใจ พร้อมทั้งขอดุอาอฺอยู่อย่างสม่ำเสมอ เขาผู้นั้นก็คือ ผู้ที่กุมหัวใจแห่งอัตเตาฟีกไว้แล้ว “
ซึ่งนี่ก็คือแนวทางให้เราได้ปฏิบัติตาม ให้เราได้พยายามสร้างอัตตักวาให้เกิดขึ้นในหัวใจของเรา และพยายามให้การงานของเรามีอิคลาศ พร้อมทั้งขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้ได้รับจากอัตเตาฟีกจากพระองค์
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โปรดเมตตาเรา โปรดปรานเรา ให้เราได้รับอัตเตาฟีก จากพระองค์ตลอดไป
ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร (25 มกราคม 2563)