ความสัตย์จริง
  จำนวนคนเข้าชม  2633


ค ว า ม สั ต ย์ จ ริ ง

 

คุตบะฮฺวันศุกร์ โดย อาจารย์มาลิก โยธาสมุทร

 

          พี่น้องผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย พวกท่านถูกให้เกิดขึ้นมาให้มีมารยาทเหมือนกับนบีของพวกท่าน และพึงรู้เถิดว่า ความสัตย์จริงนั้น ก็เป็นคุณลักษณะของนบีของพวกท่าน ความสัตย์จริงนั้น เป็นคุณลักษณะของบรรดาร่อซูลท่านก่อน ที่ถูกส่งมาแล้ว

 

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นที่รู้จักกันในหมู่คณะของท่านว่า เป็นผู้ที่สัตย์จริง (อัซซอดิ๊ก) เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ (อัลอะมีน) ก่อนที่ท่านจะได้รับวะฮีย์ แต่งตั้งให้ท่านเป็นนบีและร่อซูลของอัลลอฮฺเสียอีก ครั้นเมื่อท่านนำความจริงจากอัลลอฮฺมาเผยแพร่  หมู่คณะของท่านกลับชื่นชอบความมืดบอดยิ่งกว่าแสงแห่งแนวทางอันเที่ยงตรงเสียอีก พวกเขากลับชอบเดินตามย่างก้าวของชัยฏอนดังอัลกุรอาน ระบุว่า

 

     “และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า : ท่านนั้นมิได้เป็นร่อซูลที่ถูกส่งมาแต่ประการใด 

     (มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิดว่า : เป็นการเพียงพอแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน ระหว่างฉันกับพวกท่าน และผู้ที่มีความรู้ในหมู่ผู้ที่ได้รับคัมภีร์มาก่อน (อะฮ์ลุ้ลกิตาบ) ด้วยเช่นกัน

(อัรเราะอฺดฺ 13 : 43)

 

          การพูดแต่ความจริง การรักษาสัญญา (อะมานะฮ์) การมีจิตใจอ่อนโยน ฯลฯ ล้วนเป็นคุณลักษณะของผู้ศรัทธา การพูดจาโกหก บิดพลิ้ว ใฝ่ชั่ว สงสัย นับเป็นเครื่องหมายของมุนาฟิก (หน้าไหว้หลังหลอก)

อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

 

     “และในหมู่มนุษย์นั้น มีผู้ที่คำพูดของเขาทำให้เจ้าพึงพอใจในความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ และเขาจะอ้างอัลลอฮฺเป็นพยานในสิ่งที่จิตใจของเขามีความต้องการ (แต่ที่จริงแล้วหาใช่เช่นนั้นไม่) และขณะเดียวกัน เขาก็เป็นผู้โต้เถียงที่ฉกาจฉกรรจ์ยิ่งนัก

(อัลบะเกาะเราะฮฺ 2 : 204)

 

          เขาซื้อขายความหลงผิดด้วยหนทางที่ถูกต้อง และซื้อขายการลงโทษด้วยการอภัยโทษ และซื้อขายการรีบเร่งด้วยการล่าช้า และขายดุนยาด้วยอาคิเราะฮฺ เขาจึงเป็นผู้ขาดทุนในโลกอาคิเราะฮฺ และด้วยการอธรรมของเขา และการโกหกของเขานี่เอง เขาจึงอยู่นอกเหนือไปจากผู้ที่อัลลอฮฺทรงกล่าวถึง ดังคำดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ว่า

 

     “โอ้ บรรดาผู้ที่ศรัทธาแล้วทั้งหลาย จงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด และจงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่สัตย์จริง

(อัตเตาบะฮฺ 9 : 119)

 

          คนชั่ว คนเลว คนโกหก ล้วนอยู่ในหมู่ผู้ที่สร้างความเสียหายแก่แผ่นดิน และอัลลอฮฺมิทรงรักบรรดา ผู้ก่อความเสียหาย และทรงห่างไกลจากผู้ที่มีลักษณะดังกล่าว ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า

 

     “บรรดาผู้ที่ทำให้สัญญาขออัลลอฮฺครบถ้วน และไม่บิดพลิ้วพันธะสัญญา และบรรดาผู้ที่เชื่อมสัมพันธ์ซึ่งอัลลอฮฺทรงมีบัญชามา และเขาเกรงกลัวอัลลอฮฺ พระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาหวาดกลัวการคิดบัญชีที่เลวร้าย

(อัรเราะอฺดฺ 13 : 20 - 21)

 

          พวกเขาเหล่านี้แหละ อัลลอฮฺจะทรงให้เขามีที่พำนักที่ดีในบั้นปลาย ก็คือในสวรรค์นั่นเอง

 

     “และบรรดาผู้ที่อดทน หวังในพระพักตร์ของพระเจ้าของพวกเขา และเขาดำรงละหมาด และบริจาค สิ่งที่เรา (อัลลอฮฺ) ได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาโดยลับ และเปิดเผย และพวกเขาลบล้างความชั่วด้วย ความดี ชนเหล่านี้แหละ สำหรับพวกเขานั้นจะได้รับที่พำนักที่ดีในบั้นปลาย

(อัรเราะอฺดฺ 13 :22)

 

          ชัยฏอนนั้น มันได้ปฏิเสธศรัทธามาแล้ว ขณะที่มันอ้างว่ามันดีกว่าอาดัม เมื่ออัลลอฮฺทรงมีบัญชาให้มันสุญูดต่ออาดัม แล้วอัลลอฮฺก็ทรงลงโทษมัน อันเนื่องมาจากการโกหก การปฏิเสธศรัทธา และการยโสโอหังของมัน ด้วยการขับมันออกจากสวรรค์และสาปแช่งมัน จนกระทั่งวันกิยามะฮฺ ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า

 

     “มันกล่าวว่า : ฉันดีกว่าเขา (อาดัม) พระองค์ทรงสร้างฉันมาจากไฟ และทรงสร้างเขามาจากดิน 

     พระองค์ตรัสว่า : ดังนั้น เจ้าจงออกไปจากที่นี่ (สวรรค์) เพราะแท้จริง เจ้าเป็นผู้ที่ถูกขับไล่ แลแท้จริง การสาปแช่งของข้านั้น จะยังคงอยู่กับเจ้าตลอดไป จนกระทั่งถึงวันแห่งการตอบแทน (กิยามะฮ)”

(ศ็อด 38 : 76-78)

 

          พวกยิวและพวกคริสต์ ต่างก็เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธากันมาแล้ว จากคำพูดของพวกเขาที่ว่า พวกเรานั้น เป็นพระบุตรของอัลลอฮฺ และเป็นที่รักของพระองค์ อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จึงทรงตอบโต้พวกเขา ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า

 

     “แต่ทว่า พวกเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาจากผู้ที่พระองค์ทรงบังเกิดขึ้นมาต่างหาก พระองค์จะทรงอภัยโทษผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์

(อัลมาอิดะฮฺ 5 : 18)

 

     ♣ เมื่อผู้รู้มีความสัตย์จริงในการสอน และมีความบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่ แนะนำตักเตือน หวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ก็จะยังประโยชน์ส่งผลในการทำหน้าที่ของเขา มีการตอบรับการเรียกร้องเชิญชวนของเขา ทำให้ประสบผลสำเร็จในการทำหน้าที่ ด้วยการประทานความสำเร็จจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

     ♣ เมื่อผู้พิพากษามีความสัตย์จริง พ่อค้ามีความซื่อสัตย์สุจริต ก็จะเป็นที่ไว้วางใจของทุกคน สังคมจะมีแต่ความสงบสุข 

 

อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

 

     “และสิ่งใดที่ผู้เป็นร่อซูลได้นำมายังพวกเจ้า ก็จงยึดเอาไว้ และสิ่งใดที่ท่านได้ห้ามพวกเจ้า ก็จงเลิกเสีย และพวกเจ้าจงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรงยิ่งนัก

(อัลฮัซร์ 59 : 7)

 

พี่น้องผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย 

หากท่านสัตย์จริงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในการทำอิบาดะฮฺของท่าน แน่นอน ย่อมส่งผลต่อท่านในการปราบปรามการฝ่าฝืน และการทำชั่วให้หมดสิ้นไป

 หากท่านสัตย์จริงในการทำหน้าที่ ใช้ให้กระทำความดี และหักห้ามมิให้กระทำความชั่ว แน่นอน ท่านจะเป็นแบบอย่างที่ดีอันสูงส่งแก่ผู้คน ทั้งในจรรยามารยาทอันสูงส่งและดีงาม

 หากท่านสัตย์จริงในการงานของท่าน ท่านจะเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ เป็นที่ไว้วางใจได้ ท่านจะเป็นที่ยอมรับของผู้คน อันเนื่องจากความดีของท่าน

 หากท่านสัตย์จริงในการค้าขายของท่าน การให้ การรับของท่าน ตลอดจนกิจการงานทั้งหลายทั้งปวงของท่าน แน่นอน ท่านจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ในกิจการของท่าน

 

แล้วปัจจุบัน ความสัตย์จริง และผู้ที่สัตย์จริง ไปอยู่เสียที่ไหนกันเล่า !

แล้วปัจจุบัน ความซื่อสัตย์ และผู้ที่ซื่อสัตย์ ไปอยู่เสียที่ไหนกันเล่า !

 

 

วารสารสายสัมพันธ์