ฟิตนะห์จากทรัพย์สินเงินทอง
คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดความสามารถของเรา ในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺให้อยู่ในแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมด้วย นั่นก็คือ ต้องไม่ทำบิดอะฮฺนั่นเอง
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม รายงานมาจากท่านหุซัยฟะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
«تُعْرَضُ الْفِتَنُ عَلَى الْقُلُوبِ كَالْحَصِيرِ عُودًا عُودًا،
“ ฟิตนะฮฺต่างๆจะส่งผลต่อบรรดาหัวใจ
ดั่งเช่น เสื่อที่สร้างริ้วรอยของเสื่อไว้บนผิวหนังของคนที่นอนลงบนมัน...”
เราจะพบว่า เมื่อเวลาที่คนเรานอนลงไปบนเสื่อเป็นเวลานานๆ ก็จะเกิดริ้วรอยของลวดลายเสื่อที่ผิวหนังของเรา นั่นแหละ ที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ได้เปรียบฟิตนะฮฺต่าง ๆที่เราประสบ ที่เราพบที่เราเจอว่ามันจะส่งผลต่อหัวใจของเรา เหมือนดั่งเช่น เสื่อที่มันส่งผลให้เกิดริ้วรอยของเสื่อบนผิวหนังของเรา ... ซึ่งฟิตนะฮฺต่างๆนั้นมันจะส่งผลต่อหัวใจของเรา
فَأَيُّ قَلْبٍ أُشْرِبَهَا نُكِتَ فِيهِ نُكْتَةٌ سَوْدَاءُ،
” ท่านนบีบอกว่า ฟิตนะฮฺนั้น มันจะส่งผลต่อหัวใจดังนี้
หัวใจของผู้ใดที่ดื่มด่ำไปกับฟิตนะฮฺ หรือซึมซับไปกับมัน ( คือไปยอมให้กับฟิตนะฮฺนั้น ) มันก็จะทำให้หัวใจของคนผู้นั้นเกิดจุดดำขึ้นจุดหนึ่ง
(ฟิตนะฮฺอย่างหนึ่งทำให้เกิดจุดดำขึ้นจุดหนึ่ง ถ้าฟิตนะฮฺหลาย ๆอย่าง ก็จะเกิดจุดดำขึ้นหลายๆจุด ถ้าไปยอมให้กับฟิตนะฮฺทั้งหมด ก็จะทำให้หัวใจของคนนั้นกลายเป็นหัวใจที่มืดบอด )
وَأَيُّ قَلْبٍ أَنْكَرَهَا نُكِتَ فِيهِ نُكْتَةٌ بَيْضَاءُ،
“ท่านนบีบอกต่อไปอีกว่า...แต่หากหัวใจของผู้ใดปฏิเสธมัน (คือไม่ยอมรับมัน ไม่ยอมให้กับฟิตนะฮฺนั้น) มันก็จะทำให้หัวใจของคนผู้นั้น เกิดจุดขาวขึ้นหนึ่งจุด”
حَتَّى تَصِيرَ عَلَى قَلْبَيْنِ عَلَى أَبْيَضَ مِثْلِ الصَّفَا فَلَا تَضُرُّهُ فِتْنَةٌ مَا دَامَتْ السَّمَاوَاتُ وَالْأَرْضُ،
นั่นแสดงว่า เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับฟิตนะฮฺ มันก็จะทำให้หัวใจของเราแบ่งเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งมีความขาว ( มีความบริสุทธิ์ ) เสมือนหินเกลี้ยง(ที่มีความแวววาว )
เพราะฟิตนะฮฺใด ๆ ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้หัวใจของคนนั้นได้ ตราบเท่าที่บรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินยังคงดำรงอยู่”
وَالْآخَرُ أَسْوَدُ مُرْبَادًّا كَالْكُوزِ مُجَخِّيًا لَا يَعْرِفُ مَعْرُوفًا وَلَا يُنْكِرُ مُنْكَرًا إِلَّا مَا أُشْرِبَ مِنْ هَوَاهُ»
“ส่วนหัวใจอีกด้านหนึ่งนั้น เมื่อมันเผชิญกับฟิตนะฮฺ มันจะดำมืด (เพราะไปยอมให้กับฟิตนะฮฺ) เสมือน الْكُوزِ ( ซึ่งเป็นภาชนะชนิดหนึ่ง) หรือเสมือนเหยือกน้ำที่วางคว่ำไว้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร
เปรียบเหมือนหัวใจที่ไม่รู้จักความดีงามใดๆ เป็นหัวใจที่ไม่ปฏิเสธความชั่วความผิด เป็นหัวใจที่ยอมให้กับอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเองเท่านั้น”
ฟิตนะฮฺจึงส่งผลถึงหัวใจ ถ้าหัวใจของเราไม่ยอมให้กับฟิตนะฮฺนั้น คอยต่อสู้ คอยขัดขืนมัน จะทำให้หัวใจของเรามีนูร มีรัศมี และจะนำเราไปสู่การใกล้ชิดอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา...แต่ถ้าหัวใจของเราไปยอมให้กับฟิตนะฮฺ ปล่อยมันไปตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ ปล่อยมันไปตามการล่อลวงของชัยฏอน ก็จะทำให้หัวใจของเรามืดบอด เพราะมันจะนำเราไปสู่การออกห่างจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ฟิตนะฮฺ ( اَلْفِتْىنَةَ ) ที่ส่งผลต่อหัวใจของเรานั้น คืออะไร ?
“ ฟิตนะฮฺ”ครอบคลุมความหมายในหลายๆความหมาย ...ความหมายโดยสรุปก็คือ สิ่งที่มนุษย์ทุกๆคนถูกทดสอบในการดำเนินชีวิตประจำวันของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นำไปสู่กุฟุรฺ การปฏิเสธศรัทธา ...เรื่องที่ทำให้เกิดชิริก หรือการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานูวะตะอาลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง เรื่องสตรีก็ถือเป็นหนึ่งในฟิตนะฮฺ เรื่องของเกียรติยศชื่อเสียง อำนาจบารมี เรื่องของภัยพิบัติ เรื่องของการเข่นฆ่าประหัตประหารกัน เรื่องของการสู้รบ เรื่องความสับสนวุ่นวาย ความเสียหายต่างๆ เรื่องของผู้นำที่อธรรม หรือทุกๆสิ่งเลวร้าย ที่ทำให้เราออกห่างจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูอาลา หรือทำให้เราออกห่างจากบทบัญญัติของพระองค์ ...สิ่งต่างๆเหล่านี้คือฟิตนะฮฺ ...
ซึ่งฟิตนะฮฺอย่างหนึ่งที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมบอกว่า เราจะประสบกับมันในชีวิตประจำวันของเรา ก็คือฟิตนะฮฺจากทรัพย์สินเงินทอง
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอะหฺมัด รายงานโดยท่านอิยาฏ บิน หิมารฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า:
«إِنَّ لِكُلِّ أُمَّةٍ فِتْنَةً ، وَإِنَّ فِتْنَةَ أُمَّتِي المَالُ»
“แท้จริง ทุกๆ ประชาชาติจะต้องประสบกับฟิตนะฮฺ
และฟิตนะฮฺที่ประชาชาติของฉันจะต้องประสบก็คือ(ฟิตนะฮฺที่เกิดจาก)ทรัพย์สินเงินทอง”
เพราะว่า ทรัพย์สินเงินทองถือเป็นสิ่งยั่วยวนในชีวิตของคนเรา ซึ่งนำมาซึ่งความสุขกายสบายใจ เป็นสิ่งที่คนเราปรารถนาอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง ยิ่งได้มามากแล้ว ก็ยังอยากได้อีก อันเป็นอุปนิสัยของคนที่มักเป็นผู้ที่มีความโลภ มีความหลงใหลในทรัพย์สินเงินทอง แม้จะมีอยู่มากมายแล้ว ก็จะไม่พอใจ มีความโลภอยากจะได้อีก
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์และมุสลิม รายงานจากท่านอิบนิอับบาส และท่านอนัส บินมาลิก เราะฏิยัลลอฮุอันฮุมได้เล่าว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
لَوْ أَنَّ لِابْنِ آدَمَ وَادِيًا مِنْ ذَهَبٍ أَحَبَّ أَنْ يَكُونَ لَهُ ثَانِيًا , وَلَنْ يَمْلأَ فَاهُ إِلا التُّرَابُ ، وَيَتُوبُ اللَّهُ عَلَى مَنْ تَابَ
“ถ้าหากมนุษย์มีหุบเขาทองคำหนึ่งแห่ง เขาก็อยากจะให้มีอีกสองแห่ง แต่จะไม่มีอะไรเต็มปากของเขานอกจากดินเท่านั้น และอัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ที่ขออภัยโทษต่อพระองค์เท่านั้น”
ถ้าเราปล่อยให้ความโลภเข้ามาครอบงำหัวใจของเรา จนทำให้เราทำเรื่องที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนา นั่นแหละ มันก็คือฟิตนะฮฺต่อตัวเรา ซึ่งจะทำให้หัวใจของเรามืดบอด และทำให้เราออกห่างจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ดังนั้น ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงได้เตือนเรา ให้เราระวังฟิตนะฮฺในเรื่องนี้
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์และอิมามมุสลิม รายงานจากท่านอัมรฺ บินเอาฟฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
ليكُمْ كما بُسِطَتْ على مَنْ نْيا عَولكنِّي أَخْشَى أَنْ تُبْسَطَ الدُّ ،ليكُمْ مَا الفَقْرَ أَخْشَى عَفَوَاللّهِ« »فتُهْلِكَكُمْ كما أهلَكَتْهُم ،فَتَنافَسُوها كَما تَنافَسُوها م،كانَ قبلَكُ
“ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ..ไม่ใช่ความยากจนที่ฉันเกรงว่าจะประสบกับพวกท่าน
แต่ฉันเกรงว่าโลกดุนยาจะถูกเปิดแผ่ให้กับพวกท่าน เหมือนกับที่เคยถูกเปิดแผ่ให้กับประชาชาติก่อนหน้าพวกท่าน(มาแล้ว)
แล้วพวกท่านจะแก่งแย่งชิงกัน เหมือนกับที่พวกเขาเคยแก่งแย่งชิงกันมาก่อนแล้ว
และมันจะทำลายพวกท่านเช่นเดียวกับที่เคยทำลายผู้คนก่อนหน้าพวกท่านมาแล้ว"
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านนบีเล่าให้เราฟังว่า ในสมัยของประชาชาติก่อน ๆนั้น โลกดุนยาถูกเปิดแผ่ให้แก่พวกเขา ก็หมายความว่า พวกเขาได้รับทรัพย์สินเงินทอง ได้รับปัจจัยยังชีพ ได้รับความสุขความสบายต่าง ๆ นานามากมาย แต่แทนที่พวกเขาจะขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ใช้จ่ายสิ่งต่างๆเหล่านั้นให้ถูกต้อง ใช้ไปในหนทางของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่กลับมาทะเลาะแก่งแย่งกัน ทำสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนา จนในท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้รับความพินาศ เพราะพวกเขาไปยอมให้กับฟิตนะฮฺต่างๆ ยอมให้ฟิตนะฮฺมันมาครอบงำหัวใจของพวกเขา...
ท่านนบีจึงมีความเป็นห่วงพวกเรา เกรงว่าพวกเราจะเป็นเหมือนพวกเขา กลัวว่าจะไม่สามารถยืนหยัดอดทนต่อสิ่งเย้ายวนต่าง ๆ ได้ ท่านนบีจึงให้เราระมัดระวังตัวเอง อย่าปล่อยให้ฟิตนะฮฺเข้ามาครอบงำหัวใจของเรา จนทำให้เราทำในสิ่งที่ผิดบทบัญญัติศาสนา ทำให้เราหวงแหนในทรัพย์สิน ไม่ยอมจ่ายซะกาต ไม่ยอมบริจาค แล้วก็แก่งแย่งกัน ใส่ร้ายกัน นำมาซึ่งหัวใจที่มืดบอด หัวใจที่ออกห่างจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
ดังนั้น เราต้องพยายามระมัดระวังรักษาตัวเรา อย่าปล่อยให้ฟิตนะฮฺมามีอิทธิพลเหนือหัวใจของเรา มาทำให้เกิดจุดดำในหัวใจของเรา ....แต่หากพลาดพลั้งไป เราก็ต้องรู้สำนึกตัวเอง หรือยอมให้ผู้อื่นตักเตือนตัวเรา แล้วก็ต้องเตาบะฮฺ กลับเนื้อกลับตัว อย่าปล่อยให้ ฟิตนะฮฺมันฝังรกรากอยู่ในหัวใจ จนยากที่จะถอนรากถอนโคนออกไปได้ เพราะมันจะทำให้หัวใจของเรามืดบอด ไม่ได้รับรัศมี ไม่ได้รับทางนำของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นำมาซึ่งความพินาศแก่ตัวเราทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัตติรฺมีซีย์ รายงานจากท่านอบูหุรอยเราะฮฺ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
( إِنَّ العَبْدَ إِذَا أَخْطَأَ خَطِيئَةً نُكِتَتْ فِي قَلْبِهِ نُكْتَةٌ سَوْدَاءُ ، فَإِذَا هُوَ نَزَعَ وَاسْتَغْفَرَ وَتَابَ سُقِلَ قَلْبُهُ ، وَإِنْ عَادَ زِيدَ فِيهَا حَتَّى تَعْلُوَ قَلْبَهُ ، وَهُوَ الرَّانُ الَّذِي ذَكَرَ اللَّهُ ( كَلاَّ بَلْ رَانَ عَلَى قُلُوبِهِمْ مَا كَانُوا يَكْسِبُونَ ) .
“แท้จริง บ่าวนั้น หากว่าเขาทำผิดหนึ่งครั้ง หัวใจของเขาจะถูกประด้วยจุดสีดำหนึ่งจุด แต่ถ้าหากเขาทำขออภัยโทษ (ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) กล่าว อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ แล้วก็ทำการเตาบะฮฺตัว จุดสีดำในหัวใจนั้นก็จะถูกลบออก ...
และหากว่าเขาทำบาปอีก จุดสีดำนั้นจะกลับมาอีก แล้วถ้าหากเขาทำบาปเพิ่มอีก มันจะกลับมาอีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสะสมมากขึ้น ๆ แล้วมันก็จะเหมือนสนิมที่ก่อตัวขึ้นมา ...
คือสนิมที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงกล่าวไว้ในอายะฮฺอัลกุรอานที่ว่า... ไม่ใช่เช่นนั้น แต่ว่าสิ่งที่พวกเขาได้ขวนขวายไว้นั้น ได้เป็นสนิมบนหัวใจของพวกเขา”
นี่ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมาก ดังนั้น ขอให้เรากล่าว อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ และทำการเตาบะฮฺตัวอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้หัวใจของเราได้ถูกชำระล้างให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สำหรับในส่วนของบุคคลที่เขาได้รับฟิตนะฮฺจากการกระทำของผู้อื่น อาจจะถูกโกงทรัพย์สินเงินทอง อาจจะถูกกล่าวหา ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกทำให้เสียเกียรติยศชื่อเสียง ไม่ว่าจะในช่องทางใดๆก็ตาม...
อุละมาอ์มีคำแนะนำที่มาจากกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺของท่านนบีว่า ให้เขามีความอดทนต่อสิ่งที่เขาประสบ อย่าออกไปหา อย่าไปคลุกคลีกับฟิตนะฮฺนั้น ไม่ไปตอบโต้ อย่าออกไปต่อสู้ อย่าไปเข่นฆ่าฟาดฟันกัน อย่าทำตามอารมณ์ อย่ายุแหย่ อย่าส่งเสริม ในเรื่องราวของฟิตนะฮฺนั้น ..แต่ให้อดทน รักษาอัตตักวา
มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่าทำชิริก ปฏิบัติตนไปตามบทบัญญัติศาสนา ปฏิบัติไปตามสิทธิที่ถูกต้องชอบธรรม ดำรงอยู่ในแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พร้อมทั้งขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาให้พ้นจากฟิตนะฮฺต่างๆ ...
นี่คือคำแนะนำบางส่วนของอุละมาอ์ที่แนะนำเรา เพื่อให้เราได้ดำรงตนอย่างถูกต้อง เมื่อต้องประสบกับฟิตนะฮฺจากการกระทำของผู้อื่น ซึ่งมันจะมีผลให้หัวใจของเราได้เป็นหัวใจที่ขาวบริสุทธิ์ ได้รับรัศมีจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นหัวใจที่ฟิตนะฮฺไม่สามารถมาทำให้เราออกห่างจาก อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราทุกคนรอดพ้นจากความชั่วร้ายของฟิตนะฮฺต่าง ๆ ขอพระองค์โปรดให้เราเป็นผู้ที่ออกห่าง ห่างไกลจากการเป็นผู้ที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ ขอให้เราเป็นผู้ที่มีหัวใจที่ยำเกรงต่อพระองค์ มีจิตใจที่มีความพอเพียง ไม่ละโมบโลภมากด้วยเถิด
คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดดารุ้ลอิห์ซาน