ระบบการศึกษา ของอิสลามที่แท้จริง
โดย : เชคอาลี อีชา ร่อฮิมะฮุลลอฮ์
ประโยคแรกจากคัมภีร์อัลกรุอานที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ประทานให้แก่ประชาชาติมุสลิมนั้นคือ การกำชับให้ศึกษา ซึ่งเป็นการประกาศว่าเป้าหมายประการแรกแห่งอิสลามนั้นคือการส่งเสริมในด้าน การศึกษาและหาความรู้ เพราะการศึกษาเป็นกุญแจที่จะนำไปสู่ความเข้าใจอิสลามอย่างแท้จริง ตลอดจนหน้าที่ที่มุสลิมจะต้องปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อจะได้บรรลุถึงการมีชีวิตเป็นอยู่ที่ดีทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
การที่อิสลามให้ความสนใจเช่นนี้ ก็เพราะอิสลามคำนึงถึงความสำคัญของการศึกษาในการพัฒนาบุคคลให้เป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างสังคมที่ดี มีจริยธรรม และประพฤติที่ดีงาม
และเป้าหมายนี้เอง ที่ทำให้ระบบการศึกษาในอิสลาม ผิดกับระบบการศึกษาทั่วๆไป กล่าวคือ อิสลามถือว่าการศึกษาที่จะก่อให้เกิดผลแก่ผู้ศึกษาเองและผู้อื่นด้วยนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางด้านจริยธรรม ถ้ามิเช่นนั้น การศึกษาหรือการแสวงหาวิชาความรู้ อาจจะเป็นพิษเป็นภัยแก่บุคคลและสังคมได้อีกด้วย
ผู้ที่ศึกษาแนวทางอิสลามในด้านนี้จะพบว่า ท่านร่อซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในฐานะเป็นผู้ประกาศศาสนา ของอัลลอฮ์ และเป็นแบบฉบับอันดีงามสำหรับผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านได้วางระบบการศึกษาที่มั่นคงและสมบูรณ์ ที่ทำให้บรรลุเป้าหมายอันดีงาม นับตั้งแต่ท่านได้รับมอบหมายให้ประกาศศาสนาของอัลลอฮ์
แรกเริ่มท่านมุ่งไป ในด้านการสร้างความประพฤติที่ดีงาม ด้วยการปลูกฝังหลักการศรัทธา เพราะการศรัทธาเท่านั้นที่เป็นหนทางที่ดี ทำให้บุคคลละทิ้งมารยาทที่ไม่ดีงาม หันกลับมายึดในสิ่งที่ดีงาม ซึ่งการกระทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการปูทางไปสู่วิชาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ฉะนั้น มุสลิมในยุคแรกจึงเปรียบเทียบหัวใจของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยพลังการศรัทธา ประหนึ่งว่าเป็นภาชนะที่สะอาดบริสุทธิ์ ถ้าหากว่าเราทำสิ่งที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นนมสดหรือน้ำผึ้ง ใส่ลงไปในภาชนะที่มีลักษณะเช่นนั้น มันก็สามารถเก็บรักษาสิ่งที่เราใส่ลงไปไว้ได้นานแสนนานโดยไม่บูดเสีย
ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากว่าภาชนะนั้นยังเปรอะเปื้อนไม่สะอาดบริสุทธิ์ เมื่อเราเอาสิ่งที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นนมสดหรือน้ำผึ้งใส่ลงไปในภาชนะที่มีลักษณะเช่นนั้น แน่นอน สิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นก็จะอยู่ได้ไม่นาน และเกิดการบูดเสียได้ง่าย
แบบฉบับที่ท่านร่อซูล ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้วางไว้นั้น ได้รับถ่ายทอดกันต่อๆมาในด้านงานปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง จึงเป็นผลทำให้คำสอนของอิสลามมีความเข้มแข็งอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้
แต่เนื่องจากศัตรูของอิสลามได้สัมผัสกับความเข้มแข็งนี้ และคำนึงว่าตราบใดที่ระบบการศึกษาในอิสลามยังคงรักษาแบบฉบับเดิมอยู่ แน่นอน รัศมีแห่งอิสลามก็ไม่มีวันดับมอดลงไปจากโลกนี้ได้ พวกเขาจึงหันมาใช่วิธีการใหม่ที่ผิดกับระบบอิสลามโดยอาศัยหลักสองประการ ดังนี้ต่อไปนี้
ก. ให้แยกการศึกษาทางด้านสามัญออกจากการศึกษาด้านศาสนา
ข. ให้ความสำคัญในด้านวิชาการ โดยไม่คำนึงถึงหลักจริยธรรมหรือการอบรมบ่มนิสัย
พวกเขาสามารถบรรลุความสำเร็จตามหลักสองประการดังกล่าว เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศในโลกมุสลิมเกือบทั้งหมดตกเป็นอาณานิคมของศัตรูอิสลามในศตวรรษที่ 19 และ 20 แห่งคริสต์ศักราช และเมื่อประเทศมุสลิมตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น ผู้เชี่ยวชาญในด้านการศึกษาชาวตะวันตกจึงรีบเร่งเปลี่ยนระบบการศึกษาในโลกมุสลิม เพื่อให้บรรลุความต้องการของพวกเขา เท่ากับเป็นการถอดถอนวิญญาณแห่งอิสลามออกไป เหลือไว้แต่เพียงโครงร่างของอิสลามที่ปราศจากจิตวิญญาณเท่านั้น
ในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่ากองกำลังของจักรวรรดินิยมได้ถอนตัวออกไปจากดินแดนมุสลิมแล้ว และประเทศมุสลิมได้รับเอกราชแล้วก็ตาม แต่ระบบการศึกษาที่พวกเขาวางไว้ ตลอดจนแนวความคิดของพวกเขายังคงฝังแน่นอนอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้
เมื่อเราพินิจพิจารณาระบบการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าประเทศมุสลิมไม่ได้ให้ความสำคัญแก่ระบบการศึกษาที่อิสลามได้ไว้วางแม้แต่น้อย จึงเป็นสาเหตุที่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนมุสลิม และในขณะเดียวกันก็ทำให้สังคมมุสลิมออกห่างจากแบบแผนที่ดีงามของอิสลามไปด้วย
สภาพเช่นนี้ไม่เพียงจะมีอยู่ตามสถานศึกษาทั่วๆไปเท่านั้น หากแต่ยังปรากฎอย่างชัดเจนในสถาบันศึกษาวิชาการทางด้านศาสนา ไม่ว่าในระดับมัธยมหรืออุดมศึกษา จึงเป็นเหตุทำให้ผู้ที่จบการศึกษาจากสถาบันดังกล่าว ไม่ว่าจะจบในระดับสูงเพียงใดก็ตาม ยังขาดวิญญาณแห่งอิสลาม และไม่มีความจริงใจในการปฏิบัติ ซ้ำยังเชิญชวนผู้คนมิให้ดำเนินตามแนวทางของอิสลาม
ดังนั้น พวกเราจึงจำเป็นจะต้องรีบทบทวนและเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับระบบที่อิสลามได้วางไว้ มิเช่นนั้นแล้วความหายนะต้องประสบกับสังคมมุสลิมอย่างไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย
ที่มา วารสารสายสัมพันธ์