ขายดุนยาเพื่ออาคิเราะฮฺ หรือขายอาคิเราะฮฺเพื่อดุนยา !
  จำนวนคนเข้าชม  4319


ขายดุนยาเพื่ออาคิเราะฮฺ หรือขายอาคิเราะฮฺเพื่อดุนยา !

คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ

 

           ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดความสามารถของเรา ในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺให้อยู่ในแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมด้วย นั่นก็คือ ต้องไม่ทำบิดอะฮฺนั่นเอง

 

           ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย มีคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมอยู่บทหนึ่ง ที่อุละมาอ์บอกว่า เมื่อเราได้ยินได้ฟังแล้ว เราจะได้รับประโยชน์ เมื่อเรานำมาปฏิบัติ เราจะได้รับความดีอย่างมากมาย เป็นอัลหะดีษที่ครอบคลุมเรื่องของความดีไว้เกือบทั้งหมดในชีวิตของเรา คำสอนนี้อยู่ในบันทึกของอิมามมุสลิม เป็นหะดีษที่ยาว แต่ไม่ได้ยาวมาก บอกถึงความดีต่างๆ เป็นอัลหะดีษที่รายงานมาจากท่านอบีมาลิก อัลฮาริษ บินอาศิม อัลอัชอะรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

الطَّهُورُ شَطْرُ الْإِيمَانِ،

ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของการศรัทธา

 

          ความสะอาดที่เราจะพูดต่อไปนี้ มันเป็นถึงครึ่งหนึ่งของการศรัทธา ก็หมายความว่า เมื่อเราปฏิบัติในเรื่องของความสะอาดนี้ ก็เท่ากับเราปฏิบัติครึ่งหนึ่งของการศรัทธาแล้ว...การศรัทธาก็จะครอบคลุมในเรื่องของการที่เชื่อฟังและปฏิบัติในสิ่งที่เป็นคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และในขณะเดียวกัน ต้องออกห่าง ต้องละเว้น ต้องไม่ทำในสิ่งที่เป็นคำสั่งห้ามของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วย ดังนั้น เมื่อเราปฏิบัติในเรื่องความสะอาดนี้ จะทำให้เราได้รักษาการศรัทธาของเราไว้แล้วครึ่งหนึ่ง และเราก็จะได้รับผลตอบแทนด้วย แต่ถ้าหากเราละทิ้งความสะอาดนี้ ก็เท่ากับเราละทิ้งการศรัทธาของเราไปถึงครึ่งหนึ่งเช่นกัน

 

     الطَّهُورُ ความสะอาดอะไรบ้างที่พูดถึงในอัลหะดีษนี้ อุละมาอ์อธิบายความหมายของความสะอาดนี้ใน 2 ความหมายด้วยกัน

 

          หนึ่ง ความสะอาดในหัวใจของเรา การที่เรามีหัวใจที่สะอาด พร้อมที่จะตออัต เชื่อฟังอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ...เป็นหัวใจที่มีหลักอะกีดะฮฺที่ถูกต้อง เป็นหัวใจที่สะอาดปราศจากชิริก ทั้งชิริกใหญ่และชิริกเล็ก เป็นหัวใจที่ไม่คิดทำในเรื่องของการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นหัวใจที่มีอิคลาศ ไม่มีการโอ้อวด ไม่มีการอิจฉาริษยาใดๆทั้งสิ้น

 

          ความสะอาดอย่างที่สอง เป็นความสะอาดภายนอก เป็นความสะอาดจากหะดัษเล็ก ด้วยการอาบน้ำละหมาด ... เวลาละหมาดต้องอาบน้ำละหมาด ต้องมีน้ำละหมาดอยู่เสมอ ...และเป็นความสะอาดจากหะดัษใหญ่ ด้วยการอาบน้ำอัลฆุสล์ เป็นการอาบน้ำอันเนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรืออันเนื่องมาจากการหมดเลือดประจำเดือนของสตรี หรือการอาบน้ำอันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหลของอสุจิ นั่นก็คือเรื่องของความสะอาด

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษบอกต่อไปอีกว่า

 

وَالْحَمْدُ لِلَّهِ تَمْلَأُ الْمِيزَانَ،

“(การกล่าวคำว่า) “อัลฮัมดุลิลลาฮฺจะทำให้เต็มตาชั่ง

 

          เราได้ทราบกันมาแล้วว่า ในวันกิยามะฮฺนั้น หลังจากที่กระบวนการสอบสวนของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาสิ้นสุดลง อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงวางตาชั่งที่มีความเที่ยงตรง มีลักษณะเป็นจานสองด้านที่จับต้องมองเห็นได้ ไว้สำหรับนำมาชั่งน้ำหนักความดีและความชั่วของเราทุกๆคนที่เราได้กระทำไว้บนโลกดุนยานี้ 

 

          จานด้านหนึ่งชั่งความดี ส่วนจานอีกด้านหนึ่งเอาไว้ชั่งความชั่ว ...การงานทุกอย่างของเราจะถูกนำมาวางบนตาชั่งนี้ ไม่เว้นแม้สิ่งเล็กสิ่งน้อยที่มีน้ำหนักเพียงเถ้าธุลีก็จะถูกนำมาชั่งเช่นกัน ..แต่การกล่าวคำว่าอัลฮัมดุลิลลาฮฺเป็นคำที่กล่าวได้อย่างง่ายๆ แล้วก็ไม่ได้มีนำหนักอะไรในโลกดุนยา แต่ในวันกิยามะฮฺ มันกลับทำให้น้ำหนักในตาชั่งความดีของเรา มันเต็ม มันหนัก เมื่อมันเต็ม มันหนัก ก็หมายความว่า มันนำเราไปสู่สวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

         อัลหะดีษบอกต่อไปอีกว่า

 

وَسُبْحَانَ اللَّهِ وَالْحَمْدُ لِلَّهِ تَمْلَآنِ -أَوْ: تَمْلَأُ- مَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالْأَرْضِ،

“(การกล่าวคำว่า) ซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺทั้งสองนั้นจะทำให้เต็ม

หรือมันจะทำให้(ความดี)เต็มระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน

 

           เรากล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮฺ คำเดียวก็ทำให้ตาชั่งความดีของเรามันเต็มมันหนักแล้ว แต่ถ้าเรากล่าวให้มากกว่านั้น คือกล่าวทั้งสองคำทั้งซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮ มันก็ทำให้ตาชั่งความดีของเราเต็มเช่นกัน ได้รับผลบุญมากมาย เต็มช่วงทั้งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน

          อัลหะดีษบอกต่อไปอีกว่า

 

وَالصَّلَاةُ نُورٌ،

การละหมาดนั้นเป็นรัศมี

 

          การละหมาดไม่ว่าจะเป็นละหมาดฟัรฏู ไม่ว่าจะเป็นละหมาดซุนนะฮฺ มันจะทำให้เราได้รับรัศมี ได้รับทางนำ ได้รับทางสว่าง ..รัศมีจะเกิดในหัวใจของเราก่อน แล้วก็จะเกิดที่ใบหน้าของเรา เมื่อเราเสียชีวิตลง รัศมีจะเกิดในกุบูรของเรา ในวันกิยามะฮฺ เราก็จะได้รับรัศมี

          แต่การละหมาดที่จะมาเป็นรัศมีให้แก่เรานั้น จะต้องไม่ใช่การละหมาดที่สักแต่ว่าทำให้เสร็จๆไป แต่จะต้องเป็นการละหมาดที่ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง คือเป็นการละหมาดที่มีความนอบน้อมถ่อมตนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทำทุกๆอิริยาบทในสภาพที่คอชิอีน คือมีคุชัวอฺ มีเฏาะมะนีนะฮ การแต่งกายก็ต้องแต่งตัวให้สุภาพ เรียบร้อย มีการรักษารูปแบบของการละหมาดให้ตรงตามแบบฉบับหรือแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่นจะทำให้การละหมาดของเรานั้นเป็นรัศมีให้แก่เรา

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษได้บอกต่อไปอีกว่า

 

وَالصَّدَقَةُ بُرْهَانٌ،

การบริจาคเป็นหลักฐาน

 

          เป็นหลักฐานว่า หัวใจของคนที่บริจาคนั้น เขายึดมั่นต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลามากแค่ไหน เพราะว่าโดยปกติของคนเราย่อมมีความรัก ความหวงในทรัพย์สมบัติเงินทอง ไม่อยากที่จะจ่ายออกไป ไม่อยากสูญเสียมันไป แต่เขากล้าที่จะบริจาค เพราะเขายึดมั่นต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และเชื่อมั่นในคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าเขาจะได้รับรางวัลตอบแทนสำหรับการบริจาคของเขา และการบริจาคนั้นมันเป็นเครื่องแบ่งแยกระหว่างการเป็นมุอ์มินกับการเป็นมุนาฟิก ดังนั้น การบริจาคของคนๆหนึ่งจึงเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า เขานั้นเป็นมุอ์มิน

      ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษได้บอกต่อไปอีกว่า

 

وَالصَّبْرُ ضِيَاءٌ،

ความอดทนเป็นแสงสว่าง

 

อุละมาอ์แบ่งการอดทนออกเป็น 3 แบบ 

     1. อดทนที่จะไม่ทำมะอ์ศิยะฮฺ การที่เราจะไม่ทำมะอ์ศิยะฮฺ ไม่ทำสิ่งที่มันฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนานั้น มันต้องใช้ความอดทน ถ้าเราอดทนได้ เราก็ได้รับแสงสว่าง ได้รับรางวัล

 

     2. อดทนในการทำความดี การที่เราจะทำความดีตามที่บทบัญญัติศาสนาสั่งให้ได้นั้น ก็ต้องอาศัยความอดทนเช่นกัน ถ้าเราอดทนทำความดีได้ เราก็ได้รับแสงสว่าง ได้รับรางวัล

 

     3. อดทนต่อการกำหนดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อดทนทั้งทางด้านคำพูดและการกระทำ หมายความว่า เมื่อเราได้รับหรือต้องเผชิญกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เราไม่ชอบ ไม่สบอารมณ์ เราสามารถอดทนได้ที่จะไม่พูด ไม่กระทำในสิ่งที่เป็นการแสดงอารมณ์โกรธ โมโห อารมณ์น้อยเหนือต่ำใจ แต่อดทนนิ่งเงียบได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการอดทนระดับน้อยที่สุด ...

     การอดทนระดับสูงสุดคือ การพอใจในสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงกำหนดให้แก่เรา ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี นี่คือความอดทนระดับสูง พอใจยอมรับได้หมด ไม่เอะอะโวยวาย ไม่ต่อว่าต่อขาน

 

          ในขณะที่ การละหมาดเป็นนูร เป็นรัศมี เป็นแสงสว่างที่เย็นใจ สบายใจ ส่วนความอดทนเป็นดิยาอ์ เป็นแสงสว่าง แสงสว่างที่แฝงไปด้วยความร้อน ความเจ็บปวด ความเสียใจ และเราจะได้รับแสงสว่างนี้ได้ก็ด้วยการที่เราพอใจต่อการกำหนดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ถึงแม้ว่าเราจะได้รับความเสียใจ ได้รับความเจ็บปวดในเรื่องต่างๆที่เราประสบ เราก็พอใจต่อการกำหนดของพระองค์

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษได้บอกต่อไปอีกว่า

 

وَالْقُرْآنُ حُجَّةٌ لَك أَوْ عَلَيْك،

อัลกุรอานเป็นหลักฐานอยู่ข้างท่าน หรือเป็นปฏิปักษ์แก่ท่าน

 

          ในอัลกุรอานนั้นมีคำสั่งใช้ มีคำสั่งห้ามให้เรายึดมั่นปฏิบัติตาม เมื่อเราอ่านอัลกุรอาน เราเรียนรู้แล้ว เราปฏิบัติตามแล้ว ในวันกิยามะฮฺ อัลกุรอานก็จะเป็นหลักฐานยืนยันความดีให้แก่เรา แต่ถ้าหากเราฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตาม อัลกุรอานก็จะมาเป็นหลักฐานยืนยันการลงโทษสำหรับเรา

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เราจะพบว่า คำสอนของท่านนบีบทนี้บอกถึงความดีต่างๆที่หากว่าเรานำมาปฏิบัติ มันจะเพิ่มพูนผลบุญความดีงามให้แก่เรา มันจะนำเราให้เราได้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แล้วท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้จบคำสอนนี้ด้วยคำสอนที่ว่า

 

كُلُّ النَّاسِ يَغْدُو،

มนุษย์ทุกๆคนนั้นต่างแสวงหาเพื่อตัวเอง

 

           คำว่า يَغْدُو คือการออกไปในตอนเช้า ไปแสวงหาริสกี แสวงหาในเรื่องต่างๆ โดยเอาตัวเองออกไปขาย ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงบอกเราให้เราเป็นนักธุรกิจ บอกให้เราเป็นพ่อค้า ทำการค้าที่ไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นการค้าที่จะมาปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากไฟนรกของพระองค์

 

فَبَائِعٌ نَفْسَهُ فَمُعْتِقُهَا أَوْ مُوبِقُهَا".

     “บางคนขายตัวของเขา แล้วเขาสามารถที่จะปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากการลงโทษอันเจ็บปวดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ (เพราะเขาเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนา ทำความดีต่างๆที่ท่านนบีแนะนำ คนประเภทนี้คือคนที่ขายดุนยาเพื่ออาคิเราะฮฺ) ...(ในขณะที่)บางคนขายตัวของเขาให้แก่ชัยฏอน และอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำของเขา(ไม่นำพาต่อบทบัญญัติของพระองค์ เขาจึงขายอาคิเราะฮฺให้กับดุนยา) (สิ่งนี้แหละ) เขาก็เป็นผู้ทำให้ตัวเองได้รับความหายนะ ได้รับความพินาศ

 

          นี่ก็เป็นเรื่องที่นำมาให้เราได้ตัดสินใจว่า เราจะขายดุนยาเพื่ออาคิเราะฮฺ หรือจะขายอาคิเราะฮฺเพื่อดุนยา

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราได้เป็นนักธุรกิจ เป็นพ่อค้าที่ขายดุนยาเพื่ออาคิเราะฮฺที่ได้ผลตอบแทนเป็นการปลดปล่อยตัวเองให้ออกจากไฟนรก ขอให้เราเป็นคนที่มีลิ้นที่ชุ่มไปด้วยกับการรำลึกถึงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ขอให้เราได้รับความดีงามต่างๆ นำไปสู่การได้เป็นชาวสวรรค์

 

 

คุฏบะฮฺวันศุกร์