มารยาทและความประเสริฐของวันอะเราะฟะฮฺ
อับดุลวาเฮด สุคนธา
อะเราะฟะฮฺ คือ ภูเขาที่ตั้งอยู่ห่างจากนครมักกะห์ประมาณ 22 กิโลเมตร และห่างจากมีนาประมาน 10 กิโลเมตร และห่างจากมุซดะริฟะห์ประมาน 6 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุด ในการใช้ประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งถูกเรียกว่า การวุกูฟ ซึ่งหมายถึง คนที่ทำฮัจญ์ทั้งหมดจะต้องไปขอดุอาอฺ ณ สถานที่ตรงนี้
การวุกูฟที่อะเราะฟะฮฺจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 ซุ้ลฮิจยะห์ และการวุกุฟที่อะเราะฟะฮฺท่านนบีกล่าวว่า
((«الحَجُّ عَرَفَةُ)) ฮัจย์ คือ การวุกูฟที่อะเราะฟะฮฺ
อารอฟะห์ แปลว่า การทำความรู้จัก
มีสายรายงาน ว่า ท่านนบีอาดัม กับพระนางฮาวาได้มาพบกัน ณ สถานที่ ตรงนี้จากหลังที่อัลลอฮฺให้ออกจากสวรรค์ เรียกว่า อารอฟะห์
มีอีกรายงานหนึ่งว่า ญิบรีลได้พาท่านนบีอิบรอมฮีมไปยังสถานที่ต่างๆในการทำฮัจญ์ทั้งหมด
ญิบรีล กล่าวแก่ท่านนบีอิบรอมฮีม ว่า ท่านรู้หรือยัง ทราบแล้วหรือยัง
ท่านนบี อิบรอมฮีมตอบ ว่า ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว
(ที่มาของการเรียกว่า อารอฟะห์ ในหนังสือ อิมาม อธิบายกรุอ่านของอิม่าม กุรตุบีย์)
ความประเสริฐของ วันอะเราะฟะฮฺ
- วันอะเราะฟะฮฺเป็นวันหนึ่งในเดือนต้องห้าม
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
(إِنَّ عِدَّةَ الشُّهُورِ عِنْدَ اللَّهِ اثْنَا عَشَرَ شَهْرًا فِي كِتَابِ اللَّهِ يَوْمَ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ مِنْهَا أَرْبَعَةٌ حُرُمٌ) [سورة التوبة : 36]
“แท้จริงจำนวนเดือน ณ อัลลอฮ์นั้นมีสิบสองเดือน ในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ตั้งแต่วันที่พระองค์ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินจากเดือนเหล่านั้นมีสี่เดือน ซึ่งเป็นเดือนที่ต้องห้าม”
- วันอะเราะฟะฮฺเป็นวันหนึ่งในวันต่างๆของเดือนฮัจญ์
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
(الْحَجُّ أَشْهُرٌ مَعْلُومَاتٌ) [سورة البقرة : 197]
“เวลาของ การทำฮัจญ์นั้นมีหลายเดือนอันเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว”
เดือนแห่งการทำฮัจญ์ เดือนเชาวาล ชุลเกาะดะฮฺ สิบวันของเดือนซุลฮิจยะห์
- วันอะเราะฟะฮฺเป็นวันหนึ่งถูกกล่าวเอาไว้ในกรุอาน
ในคัมภีร์อัล-กุรอาน พระองค์อัลลอฮ์จะสาบานด้วยสิ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เช่นพระองค์ได้สาบานด้วยวันอะเราะฟะฮ์ โดยมีหลักฐานจากหะดีษที่ท่านเราะซูล ได้กล่าวว่า
أنَّ النبِيَّ قالَ : اليومُ المَوعُودُ : يومُ القِيامة واليومُ المشْهودُ يومُ عرفة والشاهِد يومُ الجُمُعة) (رواه التِّرمدي)
“ (اليوم الموعود )
“วันที่ได้นัดไว้ที่พระองค์ได้สาบานในอัล-กุรอาน หมายถึงวันโลกหน้า (اليوم المشهود )”
“วันที่มนุษย์ได้เห็น คือวันอะเราะฟะฮฺ “
“ส่วนวัน (الشاهِد ) วันที่เป็นพยาน คือวันศุกร์”
อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า
(لِيَشْهَدُوا مَنَافِعَ لَهُمْ وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَعْلُومَاتٍ) [سورة الحج:28].
“เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วม เป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา และกล่าวพระนามอัลลอฮ์ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว”
ท่านอิบนุ อับบาส กล่าวว่า (أَيَّامٍ مَعْلُومَاتٍ) สิบวันแรกของเดือนซุลอิจญะฮ์
- วันอะเราะฟะฮฺ เป็นวันที่อัลลอฮฺได้สาบาน
อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า
والفجْرِ ، وليالٍ عشْرٍ ، والشَّفْعِ ، والوَتْرِ ، واللَّيْلِ إدا يَسْرِ هل في دلك قسَمٌ لِدي حجْرٍ الفجْر/1-5
“ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณ และด้วยค่ำคืนทั้งสิบ และด้วยสิ่งที่เป็นคู่และที่เป็นคี่ และด้วยเวลากลางคืนเมื่อมันโคจรไป ดังกล่าวนั้นเป็นการสาบานสำหรับผู้ที่มีปัญญามิใช่หรือ”
อธิบายของอิบนุอับบาส อิบนุ ซุบัยรฺ มุญาฮิด “และด้วยค่ำคืนทั้งสิบ” คือ 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮฺ และคำกล่าวอีกหลาย ๆ ท่าน
- วันอะเราะฟะฮฺ เป็นวันที่ประเสริฐที่สุดในรอบปี
จากอิบนุอับบาส จากท่านศาสดา ขออัลลอฮฺทรงให้พรและความสันติแด่ท่าน ได้กล่าวว่า
"مَا مِنْ أَيَّامٍ العَمَلُ الصَّالِحُ فِيهِنَّ أَحَبُّ إِلَى اللَّهِ مِنْ هَذِهِ الأَيَّامِ العَشْرِ"، فَقَالُوا: يَا رَسُولَ اللَّهِ، وَلَا الجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ؟ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: "وَلَا الجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ، إِلَّا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فَلَمْ يَرْجِعْ مِنْ ذَلِكَ بِشَيْءٍ"
"ไม่มีวันใดที่การทำความดีในนั้นจะเป็นที่รักสำหรับอัลลอฮฺมากไปกว่าสิบวันนี้"
พวกเขาถามว่า "ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ไม่แม้แต่การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺหรือ?"
ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ตอบว่า "ไม่ แม้แต่การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ นอกจากผู้ที่ออกไปทั้งตัวและทรัพย์สิน และไม่ได้กลับมาอีกเลย"
(บันทึกโดยบุคอรีย์)
รายงานโดยท่านอิบนุอับบาสจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَا مِنْ عَمَلٍ أَزْكَى عِنْدَ اللَّهِ عَزَّ وَجَلَّ ، وَلَا أَعْظَمَ أَجْرًا ، مِنْ خَيْرٍ يَعْمَلُهُ فِي عَشْرِ الْأَضْحَى " . قِيلَ : وَلَا الْجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ ؟ قَالَ : " وَلَا الْجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ عَزَّ وَجَلَّ ، إِلَّا رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فَلَمْ يَرْجِعْ مِنْ ذَلِكَ بِشَيْءٍ
“ไม่มีวันใดๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮฺทรงโปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่งดีๆในบรรดาวันนี้(คือสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ)”
เศาะฮาบะฮฺได้กล่าวว่า “แม้กระทั่ง(ดีกว่า)การทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ”
ท่านนบีตอบว่า “แม้ กระทั่งการทำญิฮาด(หมายถึงจะไม่ดีกว่าการทำความดีในสิบวันแรกของซุลฮิจญะฮฺ) เว้นแต่ชายคนหนึ่งออก(จากบ้าน)ด้วยชีวิตและทรัพย์สิน(เพื่อทำญิฮาดในหนทาง ของอัลลอฮฺ)
และไม่มีสิ่งใดจากนั้น(ชีวิตและทรัพย์สิน)ได้กลับมาเลย(คือ เสียทรัพย์สมบัติและชีวิตของเขาไปในการญิฮาดเพื่ออัลลอฮฺตะอาลา แต่การญิฮาดอื่นๆจากนี้ก็ไม่ประเสริฐกว่าการปฏิบัติอิบาดะฮฺในสิบวันแรกของ ซุลฮิจญะฮฺ )”
(บันทึกบุคอรีย์และอบูดาวูด)
- วันอะเราะฟะฮฺ เป็นวันที่ศาสนาสมบูรณ์
จากท่านอุมัร บิน ค็อตต็อบ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ
“มีชายคนหนึ่งจากเผ่ายิวได้กล่าวต่อหน้าท่านอุมัร บิน อัล-ค๊อฏฏ็อบว่า โอ้ อะมีรของบรรดามุอมิน มีอายะฮ์ที่พวกท่านได้อ่าน หากว่าอายะฮ์นี้ได้ประทานมาให้แก่พวกเราบรรดาชาวยิว พวกเราจะถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของพวกเรา
อุมัรถามว่า อายะฮ์อะไรที่คุณหมายถึง ชาวยิวท่านนั้นกล่าวว่า อายะฮ์ที่มีความหมายว่า
( الْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمْ الْإِسْلَامَ دِينًا) [ سورة المائدة:5].
“วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้า และข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้วซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว”
ท่านอุมัรได้ตอบว่า “พวกเรารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นและสถานที่ที่ประทานอายะฮ์นั้น คือประทานลงมาในขณะที่ท่านเราะซูล ยืนอยู่ ณ ที่ทุ่งอะเราะฟะฮ์ในวันศุกร์ “
(บันทึกโดยบุคคอรี,และมุสลิม )
- ส่งเสริมให้ถือศีลอดในวันอะเราะฟะฮฺ
มีรายงานจากบรรดาภรรยาของท่านนบีกล่าวว่า
(كان النبي صلى الله عليه وسلم يصوم تسع ذي الحجة ويوم عاشوراء وثلاثة أيام من كل شهر)
“ปรากฎว่าท่านนบนีนั้น ถือศิลอดในวันที่ 9 เดือนซุ้ลฮิจยะห์ และวัน อาชูรอ และทุกๆสามวันกลางเดือน”
( บันทึก อบูดาวูด)
- ถือศีลอดในวันอะเราะฟะฮฺ จะถูกลบล้างความผิด
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أَحْتَسِبُ عَلَى اللَّهِ أَنْ يُكَفِّرَ السَّنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ
"การถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น ข้าพเจ้าหวังว่า อัลเลาะฮ์ จะทรงลบล้างความผิดในปีที่ก่อนวันอะรอฟะฮ์และในปีหลังจากวันอะเราะฟะฮฺ"
(บันทึกโดยมุสลิม)
- วันอะเราะฟะฮฺ คือ อีดของคนฮัจญ์
รายงานจากท่านอุกบะ บิน อามีร ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
يَوْمُ عَرَفَةَ وَيَوْمُ النَّحْرِ وَأَيَّامُ التَّشْرِيْقِ عِيْدُنَا أَهْلَ الإِسْلاَمِ وَهِيَ أَيَّامُ أَكْلٍ وَشُرْبٍ
" วันอะรอฟะฮฺ วันนะหฺรุและวันตัชรีก เป็นวันรื่นเริงของเรา โอ้ชาวอิสลามมันคือวันแห่งการกิน และดื่ม”
( บันทึกโดย อบูดาวูด ติรมีซีย์)
- ดุอาอฺที่ประเสริฐที่สุดคือดุอาอ์ในวันอะเราะฟะฮฺ
ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
خَيْرُ الدُّعَاءِ دُعَاءُ يَوْمِ عَرَفَةَ
“ดุอาอ์ที่ประเสริฐที่สุดคือดุอาอ์ในวันอะเราะฟะฮฺ”
และบทดุอาอ์ที่ประเสริฐที่สุดที่ฉันและบรรดานบีก่อนหน้าฉันกล่าว (ในวันนั้น) คือ
«لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيْكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ، وَلَهُ الْحَمْدُ، وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ»
“ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว โดยปราศจากการตั้งภาคีใดๆ พร้อมพระองค์ การปกครองดูแลเป็นของพระองค์ และมวลการสรรเสริญก็เป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงปรีชาสามารถเหนือทุกๆ สิ่ง “
(บันทึกโดย อิมาม มาลิก ใน อัล-มุวัฏเฏาะอ์ อัต-ติรมิซีย์)
อิบนุ อับดิลบัร กล่าวว่า การขอดุอาอ์ในวันอะเราะฟะฮฺเป็นสิ่งที่ประเสริฐกว่าการขอดุอาอ์ในวันอื่นๆ
- วันอะเราะฟะฮฺ คือ วันที่ อัลลอฮฺทรงปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรกมากที่สุด
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَا مِنْ يَوْمٍ أَكْثَرَ مِنْ أَنْ يُعْتِقَ اللَّهُ فِيهِ عَبْدًا مِنْ النَّارِ مِنْ يَوْمِ عَرَفَةَ
"ไม่มีวันใดที่อัลเลาะฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่า วันอะเราะฟะฮฺ"
(บันทึกโดยมุสลิม)
- วันอะเราะฟะฮฺ คือ วันที่ อัลลอฮฺทรงเอาบ่าวไปอวดต่อบรรดามะลาอิกะฮ์
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮารายงานว่า ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
ما مِن يومٍ أكْثَرَ مِن أن يعْتِقَ اللهُ فيهِ عبْداً منِن النَّارِ مِن يومِ عرفةَ وإنَّه لَيدنُو ثمَّ يباهِي بِهم الملائكةُ فيقولُ : ما أرادَ هؤلاء ؟
“ไม่มีวันใดที่พระองค์อัลลฮฺจะปล่อยปวงบ่าวของพระองค์ให้พ้นจากขุมนรกมาก นอกจากในวันอะเราะฟะฮ์ มะลาอิกะฮ์จะเข้าใกล้พวกเขาและจะอวดพวกเขาโดยกล่าวว่า พวกเขาอยากได้อะไร”
(บันทึกโดยมุสลิม)
- วันนะหัร (วันอีด)
อับดุลลอฮฺ บิน กุรฏ์ อัษษะมาลีย์ เล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«إِنَّ أَعْظَمَ الْأَيَّامِ عِنْدَ اللهِ تَبَارَكَ وَتَعَالَى يَوْمُ النَّحْرِ، ثُمَّ يَوْمُ الْقَرِّ»
“บรรดาวันต่างๆที่ประเสริฐที่สุด ณ อัลลอฮฺ คือวันนะหัร หลังจากนั้นวันก็อร (วันที่พักอยู่กับที่ หมายถึงวันที่บรรดาหุจญาจญ์ พักอยู่ที่ทุ่งมีนาในวันที่ 11-13 หลังจากวันนะหัร)”
(อะหมัด อบูดาวูด)
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
وَيَذْكُرُوا اسْمَ اللَّهِ فِي أَيَّامٍ مَعْلُومَاتٍ عَلَى مَا رَزَقَهُمْ مِنْ بَهِيمَةِ الْأَنْعَامِ
“และกล่าวพระนามอัลลอฮฺในบรรดาวันที่รู้กันอยู่แล้ว ตามที่พระองค์ประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า”
(อัลหัจญฺ : 28)
- ส่งเสริมให้มีการกล่าวตักบีรให้มากๆ
การตักบีรมุฏลักและมุก็อยยัดนั้น จะรวมกันอยู่ทั้งหมดห้าวัน ตามทัศนะที่ถูกต้องที่สุดของอุละมาอ์ นั่นคือ เริ่มตั้งแต่วันอะเราะฟะฮฺ วันนะห์รฺ(วันอีด) และวันตัชรีกทั้งสาม ส่วนแปดวันก่อนหน้านั้นจะมีแต่ตักบีรมุฏลักเท่านั้น ไม่มีตักบีรมุก็อยยัด
จากอิบนุ อุมัร และอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุม ว่า
يخرجون إلى السوق يكبرون ويكبر الناس بتكبيرهما
“ทั้งสองคนได้ออกไปกล่าวตักบีรที่ตลาดในสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺ แล้วผู้คนก็กล่าวตักบีรเนื่องด้วยการตักบีรของท่านทั้งสอง”
มีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และเศาะหาบะฮฺกลุ่มหนึ่งว่า พวกเขาจะกล่าวตักบีรหลังละหมาดห้าเวลา นับตั้งแต่เวลาศุบฮี่ ของเช้าวันอะเราะฟะฮฺจนกระทั่งเวลาอัศรฺของวันที่สิบสามของซุลหิจญะฮฺ นี่เป็นในกรณีของผู้ที่ไม่ได้ทำหัจญ์
ท่านอับดุลลอฮฺอิบนุอุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَا مِنْ أَيَّامٍ أَعْظَمُ عِنْدَ اللَّهِ وَلَا أَحَبُّ إِلَيْهِ مِنْ الْعَمَلِ فِيهِنَّ مِنْ هَذِهِ الْأَيَّامِ الْعَشْرِ فَأَكْثِرُوا فِيهِنَّ مِنْ التَّهْلِيلِ وَالتَّكْبِيرِ وَالتَّحْمِيدِ
"ไม่มีวันใดอีกแล้วที่การทำความดีจะมีคุณค่าความยิ่งใหญ่และเป็นที่โปรดปรานมากที่สุด ณ ที่อัลลอฮฺ มากไปกว่าการทำความดีในช่วงสิบวันแรก ของเดือนซุลฮิจญะฮฺ ดังนั้นพวกท่านจงพยายามกล่าว ตะฮลีล ตักบีร และตะหฺมีด ให้มากๆ เถิด"
(บันทึกโดยอะหมัด)
- วันอะเราะฟะฮฺ คือ(รุกุ่น)สำคัญในการทำฮัจญ์
ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
{الحَجُّ عَرَفَةُ ) ฮัจย์ คือ การวุกูฟที่อะเราะฟะฮฺ
(บันทึกโดย บุคครีย์และมุสลิม)
ท่านอิบนุ กุดามะ กล่าวว่า ใครที่ไม่ทำการวุกูฟที่อะเราะฟะฮฺ ถือว่าฮัจญ์นั้นไม่ถูกต้อง
- วันต่างๆของ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮฺ
ท่านร่อซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
((إن العشر: عشر الأضحى، والوتر: يوم عرفة، والشفع: يوم النحر)).
“ในสิบวันหมายถึง วันอีด, ส่วนคำว่า วิตร วันคี่ หมายถึง วันอารอฟะ, วันคู่ คือ วันเชือด “
(อิบนุกะซีร ในตัฟซีรอัลกุร อ่านนุลอะซีม ซูเราะฮฺอัลหัจญฺ อายะฮฺที่ 28)
ข้อปฏิบัติมุสลิม(มาทำฮัจญ์)ในวันอะเราะฟะฮฺ
♦ จะต้องมีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺ
♦ จะต้องปฏิบัติตามแบบฉบับของท่านนบีในการทำฮัจญ์ (ที่ทุ่งอะเราะฟะฮฺ)
♦ จะต้องขอดุอาอฺต่อพระองค์ ขออภัยโทษและขอพระองค์ทรงปลดปล่อยจากไฟนรก
♦ จะต้องกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ด้วยการสารภาพบาป
♦ ยกมือขอดุอาอฺและหันหน้าไปทางบัยตุลลอฮฺ
♦ ทำการวุกูฟในเขตอะเราะฟะฮฺตั้งแต่ตะวันคล้อย(เข้าเวลาดุฮรี)จนตะวันลับขอบฟ้า (เข้าเวลามักริบ)
♦ ทำการละหมาดย่อและรวมดุฮรีสองร็อกอะ และ ฮัศรี สองร็อกอะ ในเวลาดุฮรี่ เรียกว่า (ตัมตักดีม) การรวมในเวลาแรก
♦ สมควรจะมีน้ำละหมาดในขณะขอดุอาอฺ
♦ จะต้องทำความดีให้มากในวันนั้น เช่น การช่วยเหลือผู้อื่น บริจาคทาน การรำลึกถึงอัลลอฮฺ