ฐานะของบรรดาอัครสาวก (ซอฮาบะฮฺ) ใน อัลกุรฺอานและอัซซุนนะฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  3103

 

ฐานะของบรรดาอัครสาวก (ซอฮาบะฮฺ) ใน อัลกุรฺอานและอัซซุนนะฮฺ

 

แปลโดย . มุหำหมัด บินต่วน

 

          ซอฮาบี่ย์ (เอกพจน์ของซอฮาบะฮฺ) คือ ผู้ที่ได้พบกับท่านศาสนทูตมูฮัมมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) และได้ศรัทธาต่อท่าน และเสียชีวิตในสภาพที่เป็นมุสลิม

 

          ซอฮาบะฮฺ คือบรรดาผู้ซึ่งศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อศาสนทูต และพวกเขาได้ศึกษาร่ำเรียนจากท่านศาสนทูตมูฮัมมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) และได้ทำการสืบทอดแนวทางแห่งศาสนานี้ด้วยความยากลำบาก ท่านศาสนทูตมูฮัมมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)ได้เสียชีวิตในสภาพที่ปิติยินดีพอใจต่อพวกเขา

 

          อัลลอฮฺได้ตรัสถึงซอฮาบะฮฺไว้ในอัลกุรอานดังนี้

 

{وَالسَّابِقُونَ الْأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهَاجِرِينَ وَالْأَنْصَارِ وَالَّذِينَ اتَّبَعُوهُمْ بِإِحْسَانٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمْ وَرَضُوا عَنْهُ وَأَعَدَّ لَهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي تَحْتَهَا الْأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا أَبَدًا ذَلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ } التوبة /الآية:100

 

     “บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ(ชาวอันซอรฺ)จากมะดีนะฮฺ และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยความดีงามนั้น

     อัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั้นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง

( ซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ โองการที่ 100)

 

และพระองค์อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้อีกว่า 

 

{لِلْفُقَرَاءِ الْمُهَاجِرِينَ الَّذِينَ أُخْرِجُوا مِنْ دِيَارِهِمْ وَأَمْوَالِهِمْ يَبْتَغُونَ فَضْلًا مِنَ اللَّهِ وَرِضْوَانًا وَيَنْصُرُونَ اللَّهَ وَرَسُولَهُ أُولَئِكَ هُمُ الصَّادِقُونَ} الحشر / الآية:8

 

     “(สิ่งที่ยึดมาได้จากพวกยะฮูด(ยิว) เป็นกรรมสิทธิของบรรดาผู้อพยพที่ขัดสนซึ่งถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา และทอดทิ้งทรัพย์สินของพวกเขาเพื่อแสวงหาความโปรดปราน ความปิติยินดีจากอัลลอฮฺ และช่วยเหลืออัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์ ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้สัจจริง” 

(ซูเราะฮฺ อัลหัชร์ โองการที่ 8)

 

          และพระองค์อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้อีกว่า

 

{مُحَمَّدٌ رَسُولُ اللَّهِ وَالَّذِينَ مَعَهُ أَشِدَّاءُ عَلَى الْكُفَّارِ رُحَمَاءُ بَيْنَهُمْ تَرَاهُمْ رُكَّعًا سُجَّدًا يَبْتَغُونَ فَضْلًا مِنَ اللَّهِ وَرِضْوَانًا سِيمَاهُمْ فِي وُجُوهِهِمْ مِنْ أَثَرِ السُّجُودِ ذَلِكَ مَثَلُهُمْ فِي التَّوْرَاةِ وَمَثَلُهُمْ فِي الْإِنْجِيلِ كَزَرْعٍ أَخْرَجَ شَطْأَهُ فَآزَرَهُ فَاسْتَغْلَظَ فَاسْتَوَى عَلَى سُوقِهِ يُعْجِبُ الزُّرَّاعَ لِيَغِيظَ بِهِمُ الْكُفَّارَ وَعَدَ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ مِنْهُمْ مَغْفِرَةً وَأَجْرًا عَظِيمًا (29)} الفتح/الآية:29

 

     “มูฮัมมัดเป็นรอซูล(ศาสนทูต)ของอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา เป็นผู้เข็มแข็งกล้าหาญต่อพวกปฏิเสธศรัทธาเป็นผู้เมตตาสงสารระหว่างพวกเขาเอง

     เจ้าจะเห็นพวกเขาเป็นผู้รูกั๊วะอฺ ผู้สุญูดโดยแสวงหาความโปรดปรานและความปิติยินดีจากอัลลอฮฺ เครื่องหมายของพวกเขาปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขาเนื่องจากร่องรอยแห่งการสุญูด นั้นคืออุปมาของพวกเขาที่อยู่ในคัมภีร์อัตเตารอต

     และอุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในคัมภีร์อัลอินญีลประหนึ่งเมล็ดพืชที่งอกหน่อหรือกิ่งก้านของมันออกมา แล้วทำให้มันงอกเงยแล้วมันก็เติบโตแข็งแรงและทรงตัวอยู่ได้บนลำต้นของมัน นำความปลื้มปิติมาให้แก่ผู้หว่าน เพื่อที่พระองค์จะก่อความโกรธแค้นแก่พวกปฏิเสธศรัทธา เพราะพวกเขา(มุสลิมีน)

     และอัลลอฮฺทรงสัญญาต่อบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายในหมู่พวกเขาว่าจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง

( ซูเราะฮฺ อัลฟัตฮฺ โองการที่ 29)

 

ในอัลหะดีษ 

 

          รายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูด (รอฏิยัลลลอฮุอันฮุ) ได้กล่าวว่า ท่านศาสนทูตมูฮัมมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ) ได้กล่าวว่า 

 

«خَيْرُ النَّاسِ قَرْنِي، ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ، ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ، ثُمَّ يَجِيءُ أَقْوَامٌ تَسْبِقُ شَهَادَةُ أَحَدِهِمْ يَمِينَهُ، وَيَمِينُهُ شَهَادَتَهُ» - رواه البخاري و مسلم

 

     “มนุษย์ที่ดีเลิศที่สุดคือผู้ที่อยู่ในศตวรรษของฉัน หลังจากนั้นคือบรรดาผู้ที่อยู่ในศตวรรษถัดมา หลังจากนั้นคือบรรดาผู้ที่อยู่ในศตวรรษถัดมา

     หลังจากนั้นจะมาถึงยุคที่กลุ่มชนทั้งหลายที่การเป็นพยาน(ชะฮาดะฮฺ)ของเขา จะนำหน้าการสาบานของเขา

     และการสาบานของเขาจะนำหน้า การเป็นพยาน(ชะฮาดะฮฺ)ของเขา (หมายถึงเป็นยุคที่ผู้คนมีการโกหกกันอย่างแพร่หลาย)”

(บันทึกโดย อัลบุคคอรีย์และมุสลิม)

 

          และมีรายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ และท่านสะอีด อัลคุดรีย์ ได้กล่าวว่า ท่านศาสนทูตมูฮัมมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ) ได้กล่าวว่า 

 

«لَا تَسُبُّوا أَحَدًا مِنْ أَصْحَابِي، فَإِنَّ أَحَدَكُمْ لَوْ أَنْفَقَ مِثْلَ أُحُدٍ ذَهَبًا، مَا أَدْرَكَ مُدَّ أَحَدِهِمْ، وَلَا نَصِيفَهُ»-رواه البخاري و مسلم

 

     “ท่านทั้งหลายอย่าได้ด่าทอบรรดาสาวก(ซอฮาบะฮฺ)ของฉัน เพราะหากแม้มีผู้หนึ่งผู้ใดในหมู่พวกท่าน ได้ทำการบริจาคทานด้วยกับทองคำขนาดเท่ากับภูเขาอุหุด ผลบุญที่ได้ก็ไม่เท่ากับการที่พวกเขาบริจาคทานแค่เพียงหนึ่งกอบมือ หรือครึ่งกอบมือของพวกเขา

( บันทึกโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม)