ปิดประตูความชั่ว เปิดประตูความดี
คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ
ตักบีรวันอีด ดุอาอ์เริ่มคุฏบะฮฺ
الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر ، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ขอชุกูร ขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาที่ทรงให้เราได้มารวมตัวกันละหมาด ณ ที่นี้ ในวันนี้ วันที่ 1 เดือนเชาวาล เป็นวันอีดิ้ลฟิฏรฺ เป็นวันเฉลิมฉลองหลังจากที่เราได้เสร็จสิ้นภารกิจต่างๆจากการถือศีลอดในเดือนร่อมะฎอนในปีนี้แล้ว เราเฉลิมฉลอง ไม่ใช่เพราะเราดีใจที่เดือนร่อมะฎอนผ่านพ้นไป แต่เราเฉลิมฉลองเพราะเรารู้สึกดีใจที่ได้ปฏิบัติอิบาดะฮฺสำคัญยิ่งใหญ่ ก็คือได้ถือศีลอดเดือนร่อมะฎอน ซึ่งเป็นรุกุ่นสำคัญประการที่สี่ของหลักปฏิบัติอิสลาม และยังได้มีโอกาสทำอิบาดะฮฺต่างๆอีกมากมาย เช่น ละหมาดกิยามุลลัยน์ อ่านอัลกุรอาน ขอดุอาอ์ บริจาค ...อันเป็นอิบาดะฮฺที่จะช่วยลบล้างบาปต่างๆให้แก่เรา และยังเป็นการเพิ่มขั้นในสวรรค์ให้แก่เราอีกด้วย จึงขอให้เราได้ชุกูร ขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในนิอฺมะฮฺ ความเมตตานี้ด้วย อัลฮัมดุลิลลาฮฺ
ต่อจากนี้ไป ขอให้เราขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่เสมอๆ ขอให้พระองค์ทรงรับการทำอิบาดะฮฺทั้งหมดของเรา ขอได้โปรดอย่าให้มันสูญเปล่า อย่าให้มันไร้ค่าในวันกิยามะฮฺ ขอให้มันมีประโยชน์ต่อเราที่จะช่วยเราให้รอดพ้นจากการถูกทรมานในกุบูร ช่วยเราให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษในไฟนรก และขอได้ทรงอภัยโทษในบาปทั้งหมดของเรา และลบล้างบาปทั้งหมดของเราให้มันหมดสิ้นไป
และขอให้การถือศีลอดของเรา นำเราไปสู่การเป็นผู้ที่มีอัตตักวา ...ผู้ที่มีอัตตักวา ก็คือ ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างสุดความสามารถ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง และปฏิบัติตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่นก็คือ ไม่ทำบิดอะฮฺ... ซึ่งการเป็นผู้ที่มีอัตตักวานี้ถือเป็นเป้าหมายของการถือศีลอดที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงวางบทบัญญัติไว้
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลบะก่อเราะฮฺ อายะฮฺที่ 183 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ كُتِبَ عَلَيۡكُمُ ٱلصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى ٱلَّذِينَ مِن قَبۡلِكُمۡ لَعَلَّكُمۡ تَتَّقُونَ
”ผู้ศรัทธาทั้งหลาย การถือศีลอดได้ถูกกำหนดเป็นฟัรฎู(คือเป็นข้อบังคับ)แก่พวกเจ้า ดั่งเช่นที่ได้ถูกกำหนดแก่ประชาชาติก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้ว เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ تَتَّقُونَ ...จะได้ยำเกรง(ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา”
ซึ่งผลตอบแทนหรือรางวัลที่ผู้ที่ตักวา ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะได้รับในโลกดุนยานี้ก็คือ การได้รับทางออกในชีวิต และได้รับริสกี ปัจจัยยังชีพอย่างมากมาย
ในอัลกุรอานซูเราะฮอัฏฏ่อล๊าก อายะฮฺที่ 2 - 3 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَمَن يَتَّقِ اللَّهَ يَجْعَل لَّهُ مَخْرَجًا ( 2 )
“...และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงให้ทางออกแก่เขา”
ก็คือ หากเรามีปัญหาอะไรในชีวิต ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงชี้แนะแนวทาง จะประทานความสะดวกง่ายดาย จะทรงให้เราแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างง่ายดาย เราจะไม่กลัดกลุ้มกับปัญหาที่มารุมเร้าจนต้องคิดฆ่าตัวตาย เราจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงให้ทางออกแก่เรา
وَيَرْزُقْهُ مِنْ حَيْثُ لَا يَحْتَسِبُ ۚ ( 3 )
“และจะประทานริสกีปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด...”
นอกจากจะทรงให้ทางออกแก่เราแล้ว ยังได้ประทานริสกีปัจจัยยังชีพให้แก่เรา โดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ ...วันหนึ่งมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ไม่มีเงิน หรือมีเงินไม่พอ หากเราเป็นผู้ที่มีตักวา เป็นผู้ที่มีความยำเกรงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างแท้จริง เราจะพบว่า อยู่ๆเราก็ได้รับริสกี ได้รับเงินมาใช้จนเพียงพอ โดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะได้มาจากไหน
อุละมาอ์กล่าวว่า ริสกีปัจจัยยังชีพต่างๆ ...ไม่ใช่แต่เฉพาะเงินทองทรัพย์สมบัติ แต่รวมถึงความดีงามทุกอย่างนั้น มีรากฐานมาจากอัตตักวาทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้าใครมีความต้องการ มีความปรารถนาอยากจะได้ริสกี อยากจะได้ปัจจัยยังชีพ เขาก็ต้องมีอัตตักวา มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างจริงใจ อย่างถูกต้อง
♦ ถ้าใครปรารถนาอยากจะให้ริสกีของเขาได้รับบะร่อกะฮฺ ได้รับความจำเริญ เขาก็ต้องมีอัตตักวา มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างจริงใจ อย่างถูกต้อง
♦ และถ้าใครต้องการได้รับริสกีอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เขาก็ต้องดำรงรักษาอัตตักวา รักษาการยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาต่อไปเรื่อยๆ อย่าได้ขาด
الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر ، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย การที่คนๆหนึ่งจะรักษาอัตตักวาของตัวเองไว้ให้ได้ตลอดเวลานั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เหตุเพราะ เรามีชัยฏอนคอยประกบตัวเราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า ชัยฏอนนั้นมันเป็นศัตรูถาวรของเราตลอดกาล และมันจะทำทุกวิถีทาง ใช้วิธีล่อลวงทุกอย่างที่จะทำให้เราหันห่างออกจากความดีความถูกต้อง หันห่างออกจากการตักวาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ด้วยเหตุนี้ ชัยฏอนมันจึงเป็นผู้ที่เปิดประตูความชั่วให้แก่เรา
โดยอุละมาอ์บอกว่า ประตูความชั่วที่ชัยฏอนใช้เปิด หรือใช้ล่อลวงมนุษย์แต่ละคนนั้นมาใน 3 ช่องทางคือ
1. ชะฮฺวะฮฺ คือ ความใคร่ใฝ่ต่ำ ความอยากได้ใคร่ดีที่อยู่ในตัวมนุษย์
อุละมาอ์บอกว่า ชะฮฺวะฮฺนี้จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ทำร้ายตัวเอง เช่น ความตระหนี่ถี่เหนียว เป็นผลอย่างหนึ่งที่มาจากชะฮฺวะฮฺ ทำให้เกิดการทำร้ายตัวเอง.. เพราะขี้เหนียวไม่ยอมบริจาค ไม่ยอมจ่ายซะกาต ไม่ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน อย่างนี้ก็เป็นเหตุผลให้ตัวเองต้องได้รับการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพราะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างนี้ถือเป็นการทำร้ายตัวเอง อธรรมต่อตัวเอง
2. ความโกรธ
อุละมาอ์บอกว่า ความโกรธ เป็นเรื่องที่หนักกว่าชะฮฺวะฮฺ เพราะด้วยกับความโกรธ ทำให้มนุษย์ทำร้ายทั้งตัวเองและผู้อื่น ผลของความโกรธก็เช่น ทำให้เกิดการหลงทะนงตัวเอง ทำให้เกิดความหยิ่งยโสโอหัง
3. ฮะวา คือ อารมณ์
หนักกว่าความโกรธ เพราะทำให้มนุษย์ก่ออธรรมต่อตัวเองแล้วก็ไปละเมิดต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วยการตั้งภาคีต่อพระองค์ และปฏิเสธต่อพระองค์ ผลของฮะวาก็เช่น ทำให้เกิดกุฟุรฺ เกิดการทำบิดอะฮฺ
จากประตูความชั่วทั้ง 3 ช่องทางนี้ หากเราไปยอมให้กับการล่อลวงของชัยฏอน มันก็จะทำให้เราเกิดการฝ่าฝืนต่อคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นผลให้เราต้องถูกลงโทษทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ เป็นสาเหตุนำเราไปสู่การลงโทษในไฟนรกในวันกิยามะฮฺ ดังนั้น เราจึงต้องปิดประตูความชั่วนี้ด้วยตัวของเรา
الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر ، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เราจะปิดประตูความชั่วนี้อย่างไร ? ...อุละมาอ์มีคำแนะนำสำหรับการปิดประตูความชั่วนี้
1. เราต้องอีมานต้องศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยต้องเป็นการศรัทธาที่ถูกต้อง เป็นการศรัทธาที่มอบความเป็นพระเจ้าให้แก่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียว โดยไม่ยอมให้มีชิริกใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาแม้แต่เพียงนิดเดียว
เมื่อศรัทธาแล้วก็ต้องตะวักกุล ต้องมอบหมายการงาน มอบหมายความสำเร็จไปยังอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียว เพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกไว้ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนะหฺลฺ อายะฮฺที่ 99 ว่า
﴿إِنَّهُۥ لَيۡسَ لَهُۥ سُلۡطَٰنٌ عَلَى ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ وَعَلَىٰ رَبِّهِمۡ يَتَوَكَّلُونَ
“แท้จริง มัน(ชัยฏอน)ไม่มีอำนาจใดๆ เหนือบรรดาผู้ศรัทธาที่พวกเขาได้ตะวักกุลมอบหมาย (การงาน)ต่อพระเจ้าของพวกเขา”
2. ศึกษาหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนาจากแหล่งความรู้ศาสนาที่ถูกต้อง ...เราจะทราบได้อย่างไรว่า แหล่งไหนคือแหล่งความรู้ที่ถูกต้อง
คำตอบก็คือ ให้เราขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ขอด้วยอิคลาศ ขอด้วยความจริงใจ ขออย่างจริงจังเพื่อต้องการอยากจะได้รับทางนำที่ถูกต้องอย่างแท้จริง พร้อมทั้งละทิ้งการตะอัศศุบ ก็คือการยึดมั่นตัวเอง ไม่ยอมฟังใคร การยึดติดตัวบุคคลคนหนึ่งคนใดเป็นการเฉพาะ ดังกล่าวนี้แหละที่พระองค์จะประทานความสะดวก และแหล่งการเรียนรู้ที่ถูกต้องให้แก่เรา อินชาอัลลอฮฺ
3. มีความอิคลาศ มีความบริสุทธิ์ใจในกิจการงานศาสนา ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียว เพราะพระองค์ตรัสไว้ในอัลกุรอานซูเราะฮฺศ็อด อายะฮฺที่ 82 – 83 ว่า
قَالَ فَبِعِزَّتِكَ لَأُغْوِيَنَّهُمْ أَجْمَعِينَ ( 82 )
“มัน(ชัยฏอน)กล่าวว่า ดังนั้นด้วยอำนาจของพระองค์ แน่นอนข้าพระองค์ก็จะทำให้พวกเขาทั้งหมดหลงผิด
إِلَّا عِبَادَكَ مِنْهُمُ الْمُخْلَصِينَ(83)
เว้นแต่ปวงป่าวของพระองค์ในหมู่พวกเขาที่มีใจบริสุทธิ์ الْمُخْلَصِينَ เท่านั้น”
4. รำลึกถึงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่เสมอๆ ตลอดเวลาได้ยิ่งดี และขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากชัยฏอนมารร้ายที่ถูกสาปแช่งด้วย เพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัลอะอ์รอฟ อายะฮฺที่ 200 ว่า
﴿وَإِمَّا يَنزَغَنَّكَ مِنَ ٱلشَّيۡطَٰنِ نَزۡغٞ فَٱسۡتَعِذۡ بِٱللَّهِۚ إِنَّهُۥ سَمِيعٌ عَلِيمٌ
“และหากมีการยั่วยุใดๆ จากชัยฏอนกำลังยั่วยุเจ้าอยู่ ก็จงขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺเถิด แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้”
ก็คือให้กล่าว อะอูซุบิลลาฮิมินัชชัยฏอนนิรร่อญีม แล้วก็หมั่นอ่านอัลมุเอาวิซะตาน (ก็คืออ่านซูเราะฮฺอันนาส และอัลฟะลัก) รวมถึงการอ่านอายะฮฺกุรซีย์ เพราะทั้งหมดนี้สามารถปกป้องให้พ้นจากชัยฏอนได้เช่นกัน
นั่นก็คือ หัวข้อหลักๆสำหรับปิดประตูความชั่วที่อุละมาอ์ได้แนะนำไว้ เพื่อปกป้องตัวเราเองไม่ให้ทำสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนา
الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر ، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อเราปิดประตูความชั่วแล้ว ในขณะเดียวกันเราก็ต้องเปิดประตูความดีด้วย เพื่อให้ประตูความดีนั้น นำเราไปสู่การทำความดีอื่นๆด้วย เพื่อให้ความดีที่เราทำ หรืออะมัลศอลิหฺ อิบาดะฮฺต่างๆที่เราทำนั้น มันมาเพิ่มขั้นในสวรรค์ให้กับเรา
อัลหะดีษ ( หะซัน ศ่อหิหฺ ) ในบันทึกของอิมามอัตติรมีซีย์ รายงานจากท่านมุอ๊าซ บินญะบัล ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ตอนหนึ่งท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมถามท่านมุอ๊าซว่า
أَلَا أَدُلُّكَ عَلَى أَبْوَابِ الْخَيْرِ ؟ “เอาไหม ? ฉันจะชี้ให้ท่านทราบถึงประตูความดี”
(นั่นก็คือ...ประการที่หนึ่ง) الصَّوْمُ جُنَّةٌ : “การถือศีลอดนั้นเสมือนดั่งเกราะ(ที่สามารถป้องกันอันตรายได้)”
หมายถึง ให้ถือศีลอดซุนนะฮฺอยู่เป็นประจำ เพราะมันจะช่วยป้องกันเราไม่ให้ทำสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติศาสนาได้
وَالصَّدَقَةُ تُطْفِئُ الْخَطِيئَةَ كَمَا يُطْفِئُ الْمَاءُ النَّارَ ،
(ประการที่สอง) “ศ่อดะเกาะฮฺ(การบริจาคทาน)จะลบล้างความผิด เสมือนดั่งน้ำที่ใช้ดับไฟ”
ศ่อดะเกาะฮฺไม่ใช่ซะกาต ท่านนบีบอกว่า ศ่อดะเกาะฮฺหรือการบริจาคนั้น เมื่อเราทำแล้ว มันจะช่วยลบล้างความผิดให้กับเรา การบริจาคจึงเป็นประตูบานหนึ่งที่นำเราไปสู่ความดี นำเราไปสู่สวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
وَصَلَاةُ الرَّجُلِ فِي جَوْفِ اللَّيْلِ ، ثُمَّ تَلَا : ] تَتَجَافَى جُنُوبُهُمْ عَنْ الْمَضَاجِعِ[ حَتَّى بَلَغَ: ] يَعْمَلُونَ [ " ،
(ประการที่สาม)“การละหมาดของคนๆหนึ่งในช่วงยามดึกของกลางคืน”
แล้วท่านนบีก็อ่านอายะฮฺอัลกุรอานที่ว่า تَتَجَافَى جُنُوبُهُمْ عَنْ الْمَضَاجِعِ ไปจนถึง يَعْمَلُونَ นั่นก็หมายถึงให้เราละหมาดกิยามุลลัยน์อยู่เสมอๆ
ซึ่งประตูความดีทั้ง 3 ประการนี้ เราได้ทำกันอย่างมากในช่วงเดือนร่อมะฏอนอยู่แล้ว เมื่อออกจากเดือนร่อมะฎอนก็ให้เรายังคงรักษาอิบาดะฮฺทั้งสามประการนี้ให้ต่อเนื่องต่อไป เพราะทั้ง 3 ประการนี้ ท่านนบีบอกว่ามันเป็นประตูแห่งความดี ก็ขอให้เราเปิดประตูแห่งความดีนี้ด้วยการปฏิบัติอิบาดะฮฺทั้ง 3 ประการนี้อยู่เสมอๆ ในชีวิตประจำวันของเรา และมันจะส่งผลให้เราทำความดีอื่นๆติดตามมา...
การที่เราพยายามปิดประตูความชั่ว มันก็คือการที่เราปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และการที่เราพยายามเปิดประตูความดี มันก็คือการที่เราพยายามเพิ่มระดับขั้นในสวรรค์ของเราให้สูงขึ้น ๆ และทั้งหมดนั้นมันก็คือการออกห่างจากคำสั่งห้ามและปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และปฏิบัติให้อยู่ในแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งมันคือการรักษาอัตตักวาในตัวเราให้ดำรงอยู่ตลอดไป
الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر ، الله أكبر، الله أكبر، الله أكبر
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ในโอกาสวันอีดิลฟิฏรฺนี้ ขอให้เราได้ร่วมกันกล่าวตักบีร ให้ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พร้อมทั้งขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงตอบรับการถือศีลอดของเรา ตอบรับการทำอะมัลศอลิหฺ ตลอดจนอิบาดะฮฺ ความดีงามต่างๆของเราทั้งหมด ขอให้เราได้ขอมะอัฟ ขออภัยต่อกัน
และเราอย่าลืมการถือศีลอดสุนัต 6 วันในเดือนเชาวาล คือเดือนนี้ เดือนถัดจากเดือนเราะมะฎอน โดยเราจะถือติดต่อกันทั้ง 6 วัน หรือจะไม่ติดต่อกันก็ได้ การถือศีลอดสุนัต 6 วันในเดือนเชาวาลหลังจากการถือศีลอดเดือนเราะมะฎอน จะได้รับผลบุญเสมือนกับการถือศีลอดตลอดทั้งปี และยังเป็นการปฏิบัติตามซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราเป็นผู้ที่ดำรงรักษาอัตตักวาตลอดไป และโปรดทรงรับอิบาดะฮฺทั้งหมดของเรา
ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ อายะฮฺที่ 27 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
«إِنَّمَا يَتَقَبَّلُ اللَّهُ مِنَ الْمُتَّقِينَ»
“แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรับการงานของผู้ที่มีอัตตักวา(ต่ออัลลอฮฺเท่านั้น)”
มัสยิดดารุ้ลอิห์ซาน