อิสติฆฟารและเตาบะฮฺ ...สิ่งสำคัญคู่ชีวิต
  จำนวนคนเข้าชม  6109


อิสติฆฟารและเตาบะฮฺ ...สิ่งสำคัญคู่ชีวิต

 

อับดุลสลาม เพชรทองคำ

 

          ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรานั้น แน่นอนที่บางครั้งเราก็มักจะไปทำเรื่องที่มันฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือบางทีก็ตั้งใจ เพราะไปยอมให้กับชะฮฺวะฮฺ อารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเรา หรือไปยอมให้กับการล่อลวงของชัยฏอน แต่เมื่อเราพลาดพลั้งไปแล้ว เราต้องรีบกลับมาสู่การขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโดยเร็ว

 

          อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัตติรมิซีย์ รายงานจากท่านอนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

" كُلُّ بَنِي آدَمَ خَطَّاءٌ وَخَيْرُ الْخَطَّائِينَ التَّوَّابُونَ ".

 

     “บรรดาลูกหลานของอาดัมทุกคนนั้นมีการทำความผิดหรือทำบาป แต่คนทำความผิดหรือคนทำบาปที่ดีที่สุดคือ คนที่เตาบะฮฺ คนที่กลับเนื้อกลับตัวสู่การอภัยโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

          นั่นก็หมายความว่า เราทุกคนต้องมีการทำความผิด ทำบาป หรือทำมะอฺศิยะฮฺที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งบาปหรือมะอฺศิยะฮฺก็มีทั้งที่เป็นบาปใหญ่และบาปเล็ก และแต่ละบาปก็จะมีการกำหนดบทลงโทษ ซึ่งบทลงโทษของการทำบาปแต่ละอย่างก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการกำหนดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 

     สำหรับบาปบางประเภทอาจจะถูกกำหนดบทลงโทษให้ได้รับในโลกดุนยา

     บาปบางประเภทก็ถูกสัญญาไว้ในโลกอาคิเราะฮฺ ก็คือคนที่ทำมันก็อาจจะไม่ได้รับโทษในโลกดุนยานี้ แต่จะถูกลงโทษในโลกอาคิเราะฮฺ

     บาปบางประเภทก็ถูกลงโทษทั้งในโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮฺ เช่น เรื่องของการทำซินา 

     บาปบางประเภททำให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงกริ้วโกรธ

     บาปบางประเภทถ้าใครไปทำเข้าก็จะถูกขับไล่ให้ออกห่างจากความเมตตาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แล้วจะเป็นอย่างไรกับชีวิตของเขาที่ถูกขับไล่ให้ออกห่างจากความเมตตาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ได้รับการเหลียวแลจากพระองค์ สิ่งนี้ย่อมถือเป็นเรื่องที่หนักหนามากเช่นกัน

 

          ดังนั้น เมื่อท่านนบี  ได้ยืนยันว่าคนเราทุกคนต้องมีการทำความผิดแน่ๆ อาจจะทำความผิดเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะหลงไปทำบาปใหญ่ แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อเราทำความผิด เราก็จะรู้สึกอึดอัดใจ ไม่สบายใจ หรือเมื่อพลาดพลั้งไปทำบาปใหญ่เข้า เราก็อาจจะท้อแท้ อาจจะหมดหวังหมดอาลัยในชีวิต เพราะเราก็จะเกิดความหวั่นกลัวว่า ความผิดหรือบาปที่เราทำมันจะเป็นสาเหตุให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงส่งการลงโทษมายังเรา หรือเราต้องได้รับการลงโทษตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ เมื่อเราหวั่นกลัวเช่นนี้ แล้วเราจะทำอย่างไร ?

 

ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอาละอิมรอน อายะฮฺที่ 135 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

وَالَّذِينَ إِذَا فَعَلُوا فَاحِشَةً أَوْ ظَلَمُوا أَنفُسَهُمْ ذَكَرُوا اللَّهَ فَاسْتَغْفَرُوا لِذُنُوبِهِمْ وَمَن يَغْفِرُ الذُّنُوبَ إِلَّا اللَّهُ وَلَمْ يُصِرُّوا عَلَىٰ مَا فَعَلُوا وَهُمْ يَعْلَمُونَ

 

     “และบรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขาได้กระทำบาปหรือกระทำความชั่วใด หรือได้ก่อความอธรรมให้แก่ตัวของพวกเขาเองแล้ว พวกเขาก็จะรำลึกถึงอัลลอฮฺ แล้วอิสติฆฟาร คือขออภัยโทษในความผิดต่างๆของพวกเขา

     และจะมีใครอีกเล่าที่จะอภัยโทษความผิดต่างๆของพวกเขาได้ นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น ...และพวกเขาก็จะไม่ดื้อรั้นในการที่จะทำความผิดต่างๆที่พวกเขาเคยทำมาต่อไปอีก โดยที่พวกเขาได้รู้แล้ว(ว่ามันเป็นความผิด)”

 

          จากอายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงกล่าวถึง บรรดาผู้ศรัทธา ที่เมื่อพวกเขาทำความผิดหรือทำบาปแล้ว พวกเขาก็จะรำลึกถึงพระองค์ เพราะกลัวว่าพระองค์จะทรงโกรธกริ้วและทรงลงโทษพวกเขา พวกเขาจึงต้องขออภัยโทษจากการทำบาปและเตาบะฮฺตัวสู่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทันที และจะพยายามละทิ้งจากบาปนั้น พวกเขาจะไม่ดื้อรั้นที่จะทำมันอีก แต่ถ้าหากพวกเขาพลาดพลั้งทำมันอีก พวกเขาก็จะขออภัยโทษ ขอเตาบะฮฺตัวซ้ำอีก เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไป

 

          นี่ก็คือแนวทางที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงมอบให้แก่เราผู้เป็นบ่าวของพระองค์ เมื่อเรารู้สึกตัวว่าทำความผิด ทำสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนต่อคำสั่งของพระองค์ ก็ให้เราขออิสติฆฟารและทำการเตาบะฮฺตัวเพื่อขอให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงอภัยโทษให้ ขอให้พระองค์ทรงลบล้างบาปต่างๆให้แก่เรา และขจัดมันออกไปจากตัวเราให้หมดสิ้น และขอให้พระองค์ทรงปิดบังมันไว้ไม่ให้คนอื่นๆได้รู้ได้เห็นสิ่งที่เราทำบาป ดังนั้นการอิสติฆฟารและการเตาบะฮฺจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับตัวเราเป็นอย่างยิ่ง และมันเป็นเรื่องที่ถูกระบุอยู่ในอัลกุรอานอยู่ตลอดเวลา

 

ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนูร ตอนท้ายของอายะฮฺที่ 31 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

وَتُوبُوا إِلَى اللَّهِ جَمِيعًا أَيُّهَ الْمُؤْمِنُونَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ

 

และพวกเจ้าทั้งหลายจงเตาบะฮฺตัวต่ออัลลอฮฺเถิด โอ้บรรดาผู้ศรัทธา เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอก ทรงเรียกร้องบรรดาผู้ศรัทธา ทรงใช้ให้คนที่เป็นผู้ศรัทธาได้ทำการอิสติฆฟาร ทำการเตาบะฮฺอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราทำการเตาบะฮฺอยู่เสมอ แล้วการเตาบะฮฺของเราได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มันจะทำให้ความผิด ความบาปต่างๆที่เราได้ทำไว้จะถูกลบล้างไป และเมื่อความตายมาถึงเรา เราก็จะกลับไปพบอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในสภาพที่มีความผิดน้อยที่สุด พระองค์จะทรงเมตตาเรา จะทรงปกป้องเราให้พ้นจากไฟนรก และเราจะถูกนำตัวเข้าสู่สวรรค์อย่างรวดเร็ว นี่คือชัยชนะของเราที่เราจะได้รับในโลกอาคิเราะฮฺ อินชาอัลลอฮฺ

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรักบ่าวทุกคนที่ทำการขออภัยโทษอยู่ตลอดเวลา และทำการเตาบะฮฺตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าเราจะมีความผิดเพียงเล็กน้อย หรือจะทำบาปใหญ่มากมายขนาดไหน ฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์มากมายเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อเราขออภัยโทษและเตาบะฮฺตัวอย่างจริงจัง อย่างอิคลาศ พระองค์ก็จะทรงรักเรา แล้วจะมีอะไรที่ดีเยี่ยมยิ่งไปกว่าการที่เราเป็นที่รักของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาต่อบ่าวของพระองค์อย่างล้นเหลือ ไม่มีที่สิ้นสุด 

 

          พระองค์ทรงมอบวิธีการของการเตาบะฮฺตัวให้กับเรา เพื่อให้เราได้ใช้มันในการทำให้ตัวของเราสะอาดปราศจากความผิด ช่วยลบล้างบาปให้เรา นอกจากนี้แล้วมันยังเป็นสาเหตุให้เราได้รับผลบุญอื่นๆอีก อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า พระองค์จะทรงบรรเทาความยากลำบากให้ผ่อนเบาลง ประทานปัจจัยการยังชีพที่ดี ประทานริสกีให้อย่างกว้างขวาง และประทานความประเสริฐให้แก่เราในโลกอาคิเราะฮฺ

 

          ดังนั้น เราอย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรือเมินเฉย ไม่ตอบสนองต่อความสำคัญของการอิสติฆฟารและการเตาบะฮฺ การกลับเนื้อกลับตัว เราอย่าได้นิ่งดูดายต่อความผิดบาปของเราที่มันเพิ่มพูนขึ้นทุกวันโดยที่ไม่ยอมทำอะไรเลย เพราะเมื่อความตายมาถึง เราก็จะกลับไปหาอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในสภาพที่มีบาปติดตัวมากมายไปหมด เมื่อถึงวันกิยามะฮฺมันก็จะกลายเป็นความพินาศแก่ตัวเรา

 

          นั่นก็คือ ความสำคัญและผลบุญของการอิสติฆฟารและการเตาบะฮฺ ซึ่งเราจะต้องละทิ้งบาปนั้นโดยทันที ไม่ฝ่าฝืน ไม่ดื้อดึงที่จะทำมันต่อไป พร้อมกันนั้นก็ต้องมีความรู้สึกเสียใจที่ได้หลงไปทำบาปนั่นเข้า และเราต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเราจะไม่กลับไปทำความผิด ไม่กลับไปทำบาปนั้นๆอีก

          แล้วถ้าความผิดหรือบาปที่เราทำนั้นมันไปเกี่ยวข้องกับผู้อื่น ไปล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น ก็ให้เราคืนสิทธิต่างๆที่เราไปอธรรมต่อเขา หรือขอให้ผู้ที่ถูกเราอธรรมนั้นได้อภัยให้แก่เราด้วย เช่น เราได้พูดจาหรือเขียนข้อความใส่ร้ายผู้อื่นในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หวังที่จะต้องการให้เขาได้รับเสียหาย อย่างนี้เท่ากับทำบาป เพราะการนินทาหรือพูดจาใส่ร้ายผู้อื่นถือเป็นบาป 

 

          เมื่อเราทำการเตาบะฮฺตัว เราก็ต้องไปขออภัยคนที่เราไปพูดจาใส่ร้ายเขาด้วย เมื่อเขาได้อภัยเรา มันจึงจะถือเป็นการคืนสิทธิอันชอบธรรมให้แก่เขา แต่หากเขาไม่อภัยให้เรา หรือเราไม่ได้ไปขออภัยเขา ความผิดอันนี้ของเรามันก็จะติดตัวเราไปจนถึงวันกิยามะฮฺ และในวันนั้นเมื่อเราเสร็จสิ้นจากขั้นตอนของการสอบสวนและถูกลงโทษในความผิดต่างๆจนกระทั่งจะได้เข้าสวรรค์อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าได้ เพราะมันจะต้องมีเรื่องของการคืนสิทธิให้แก่กัน ที่เราได้ไปซ่อเหล่ม ไปอธรรมต่อผู้คนไว้โดยที่เราไม่ได้ไปขออภัยต่อเขา 

 

          สิทธิของคนต่อคน สิทธิของคนต่อสัตว์ สิทธิของสัตว์ต่อสัตว์ด้วยกันเองทั้งหมดต้องถูกชำระ ในส่วนของสัตว์ต่อสัตว์ซึ่งมันจะคืนสิทธิกันและกันจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ แต่เมื่อมันคืนสิทธิกันแล้ว อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็จะทรงให้มันกลายเป็นดินไป สถานการณ์ในวันนั้น เมื่อคนเห็นสัตว์คืนสิทธิกันแล้วกลายเป็นดิน หมดเรื่องหมดราวกันไป คนก็จะอิจฉาสัตว์ อยากจะกลายเป็นดินบ้าง เพราะขั้นตอนในเรื่องนี้ของคนเราเป็นเรื่องที่หนักหนามาก ดังนั้นเรื่องของการซ่อเหล่ม การอธรรมต่อกันในโลกดุนยาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราต้องระวัง อย่ามองข้าม เพราะมันจะกลายเป็นความมืดมิดสำหรับเราในวันกิยามะฮฺ

 

          ท่ามกลางสภาพสังคมในยุคปัจจุบันที่มีสิ่งยั่วยวนเต็มไปหมด เป็นสาเหตุให้เราทำความผิดได้ง่ายๆ แม้แต่ความเจริญทางเทคโนโลยีก็สามารถทำให้เราทำบาปได้ไม่ยากเย็น และบางทีก็ไม่รู้ตัว เข้าเฟซบุค ไปอ่านเรื่องของคนนั้นคนนี้ เข้าไปโพสต์เขียนเรื่องนั้นเรื่องนี้ อาจจะไปล่วงเกินสิทธิของผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเวลาไม่ชอบใจใครก็เขียนโพสต์ลงไปในเรื่องที่มันไม่จริง ใส่ร้ายเขา ไม่ทันได้ระวังตัว เคลิบเคลิ้มไปกับอคติส่วนตัวของตัวเอง ลืมตัวไปชั่วขณะว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงรู้ ทรงเห็นในสิ่งที่เขาคิดเขาทำ นี่แหละที่ความผิดมันเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวก็ทำผิดไปเสียแล้ว 

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงได้ทรงให้เราทำการอิสติฆฟาร ทำการเตาบะฮฺตัวอยู่เสมอ เพื่อให้เราได้มีเครื่องมือป้องกันตัว ไม่ให้มีบาปมาปกคลุมหัวใจของเรา เป็นวิธีการชำระตัวเองให้สะอาด ให้เราได้หลุดพ้นจากการลงโทษที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ ทั้งในโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮฺ

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงให้เราได้เป็นผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของการอิสติฆฟารและการเตาบะฮฺ และปฏิบัติมันอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการเตาบะฮฺที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงตอบรับ เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงอภัยโทษให้แก่เราในความผิดที่เกิดขึ้นกับเราทุกคนโดยไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าเราจะพยายามหลีกเลี่ยงมันจนสุดความสามารถแล้วก็ตาม และขอให้เราเป็นผู้ที่ระวังตัวจากการไปล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น เพื่อที่จะเราได้ไม่ต้องไปพบกับความมืดมิดในวันกิยามะฮฺด้วย

 

( นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )