การถูกทดสอบของผู้ศรัทธา
  จำนวนคนเข้าชม  6707


การถูกทดสอบของผู้ศรัทธา

 

โดย อบูอนัส

 

     มีรายงานจากอุมมุลมุมินีน ท่านหญิงอาอิซะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา แจ้งว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

      “แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธานั้นจะถูกทดสอบอย่างหนัก เพราะว่าภัยอันตรายใดๆ ที่จะประสบกับ ผู้ศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นหนามหรือสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นหรือการเจ็บปวดใดๆ เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงยกฐานะหนึ่งให้กับเขา และพระองค์จะลบความผิดอันหนึ่งให้แก่เขาด้วย

(บันทึกโดย อิมามอะหมัด อิมามอัลบัยฮะกีย์ และท่านฮากิม)

 

คำอธิบาย

 

          ฮะดิษนี้นับได้ว่าเป็นฮะดิษบทที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบรรดาผู้ศรัทธา เพราะเป็นการแจ้งให้บรรดาผู้ศรัทธาได้รู้ว่า แน่นอน พวกเขาจะประสบกับการทดสอบอย่างหนึ่งอย่างใดในโลกนี้โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทั้งนี้เพราะว่าการอีมานหรือการศรัทธานั้นหาใช่เป็นถ้อยคำที่ถูกกล่าวออกมาจากปากนั้น หากแต่การศรัทธาเป็นข้อเท็จจริงที่มีผลงานออกมาให้เห็นและเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งยังเป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้ความอดทน 

          เพราะฉะนั้น การที่ผู้ใดจะกล่าวออกมาเป็นเพียงคำพูดว่าเขาเป็นผู้ศรัทธา โดยไม่มีลักษณะใดๆ ที่จะชี้ให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ศรัทธา ไม่ว่าในด้านผลงานหรือการเผชิญกับปัญหาในการดำเนินชีวิต ก็เท่ากับว่าเขาผู้นั้นยังอยู่ห่างไกลจากการเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้มีดำรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้มากมาย เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้คำนึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังที่พระองค์ตรัสว่า

 

     “มนุษย์คิดหรือว่าพวกเขาจะถูกปล่อยทิ้งไว้เพียงแต่พวกเขากล่าวว่า เรานั้นศรัทธาแล้ว โดยที่ พวกเขาจะไม่ถูกทดสอบกระนั้นหรือ?

     แท้จริง เรา (อัลลอฮฺ) ได้ทดสอบบรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาแล้ว เพื่ออัลลอฮฺจะทรงทำให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่มนุษย์ว่า

     ใครคือบรรดาผู้ที่พูดสัตย์จริง และใครคือบรรดาผู้ที่พูดเท็จ

(อัลอังกะบู๊ต 29 : 2-3)

 

และพระองค์ตรัสอีกว่า

 

     “หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์ (โดยง่ายดาย) ทั้งๆ ที่อัลลอฮฺยังมิได้ทรงทดสอบ พวกเจ้า เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่พระองค์ว่า ใครในหมู่พวกเจ้าคือบรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺที่แท้จริง และใครคือบรรดาผู้ที่อดทน

(อะลาอิมรอน 3 : 142)

 

     “หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะถูกปล่อยไว้ (โดยไม่ต้องถูกทดสอบ) เพื่อพระองค์จะทรงให้เป็นที่ประจักษ์ว่าใครในหมู่พวกเจ้า คือบรรดาผู้ที่ต่อสู้ (เพื่อพระองค์ ด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง)”

(อัตเตาบะฮฺ 9 : 16)

 

          การทดสอบหรือที่เรียกกันว่าบะลาอฺนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องหนัก แต่ก็เป็นแนวทางของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่พระองค์ทรงกำหนดให้ประสบกับปวงบ่าวของพระองค์ ในทุกยุคสมัยตลอดมา แม้แต่บรรดาอัมบิยาอฺก็ได้ถูกทดสอบอย่างหนักเช่นเดียวกัน ดังปรากฏในฮะดิษของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่มีหลายรายงานด้วยกัน ดังต่อไปนี้

 

          มีรายงานจากท่านซะอ์ดิ อิบนิ อบีวักก๊อส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า มีผู้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ว่า มนุษย์คนใดที่ถูกทดสอบหนักที่สุด ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า

 

     “บรรดาผู้ที่ถูกทดสอบหนักหนาสาหัสที่สุด คือ บรรดานบี ต่อจากนั้นก็คือ บรรดาผู้ที่มีฐานะลดหลั่นรองลงมาตามลำดับ 

     ดังนั้น บุคคลจะถูกทดสอบตามสถานะความเคร่งครัดในการนับถือศาสนา ของเขา (ความศรัทธา

     หากเขาก็ยึดถือศาสนาอย่างเข้มแข็ง การทดสอบของเขาก็หนักหน่วง 

     หากการยึดถือศาสนาของเขาไม่เข้มแข็ง การทดสอบของเขาก็จะเพลาลง 

     การทดสอบจะยังคงมีอยู่จนกระทั่งเขาผู้นั้นจะเดินเหินบนแผ่นดินโดยไม่มีบาปติดตัวอีกเลย (เนื่องจากบาปถูกลบล้างด้วยบททดสอบต่างๆ แล้ว)”

 

(บันทึกโดย อิมามอัตติรมิซีย์ อิบนิมาญะฮ์ อัดดารีมีย์ และท่านอัตติรมิซีย์ กล่าวว่า เป็นฮะดิษฮะซันซอเฮียะฮฺ)

 

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวอีกว่า

 

     “มนุษย์ที่ถูกทดสอบหนักที่สุด คือ บรรดานบี อันดับต่อมา คือ บรรดาบุคคลที่ซอและห์ (ประกอบความดี

     แท้จริง บุคคลในบรรดาท่านเหล่านั้น (คือบรรดานบีและคนซอและห์) เคยถูกทดสอบด้วยความยากจน จนกระทั่งบุคคลหนึ่งในหมู่พวกท่าน ไม่เคยครอบครองสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์เลย นอกจากเสื้อคลุม (ที่สวมทับเสื้อที่สวมใส่) ที่ท่านเหล่านั้นมีอยู่เท่านั้น เขาจะถูกทดสอบด้วยไร (หรือโลน หรือหมัด หรือเหาทั่วร่าง) จนมันได้คร่าชีวิตเขา 

     แท้จริง บุคคลหนึ่งในหมู่ท่านเหล่านั้นจะรู้สึกดีใจเป็นที่สุด เมื่อเขาโดนทดสอบมากเสียกว่าบุคคลในพวกท่านดีใจเมื่อประสบกับความสุขสบาย

 

(บันทึกโดย อิมามอัลฮากิม จากรายงานของท่านอบูสอี๊ด อัลคุดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ)

 

     อันแท้จริงมีเรื่องราวเกี่ยวกับฮะดิษนี้ว่า ท่านอบูสอี๊ด อัลคุรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ซึ่งเป็นผู้รายงานฮะดิษนี้ กล่าวว่า

 

     “ฉันได้เข้าไปหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่ท่านไม่สบาย มีผ้ากำมะหยี่ห่มท่านอยู่ ท่านร่อซูลวางมือของท่านบนผ้ากำมะหยี่ ท่านอบูสอี๊ดสัมผัสได้ถึงความร้อนของมือท่านบทผ้าผืนนั้น 

     ฉันจึงกล่าวว่า : โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ไข้ของท่านดูหนักหนาสาหัสเหลือเกิน 

     ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า : แท้จริงมันเป็นเช่นนั้นสำหรับเรา (หมายถึงบรรดานบีและบรรดาคนที่ซอและห์) การทดสอบจะเพิ่มมากขึ้นสำหรับเรา แต่ขณะเดียวกันผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเช่นเดียวกัน 

     แล้วท่านอบูสอี๊ดก็ถามว่า : โอ้ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ มนุษย์คนใดที่ถูกทดสอบมากที่สุด 

     ท่านร่อซูลกล่าวว่า : บรรดานบีแล้วจึงบรรดาคนที่ซอและห์ (ประกอบความดี) แท้จริง บุคคลเหล่านั้น (คือบรรดาคนซอและห์) เคยถูกทดสอบด้วยความยากจน จนกระทั่งคนหนึ่งในบรรดาท่านเหล่านั้นไม่เคยครอบครองสิ่งใดเป็นกรรมสิทธิ์ นอกจากเสื้อคลุม (ที่สวมทับเสื้อที่สวมใส่อยู่) ที่เขาครอบครอง เขาจะถูกทดสอบด้วยตัวไร (เหา เห็บ หรือโลนทั่วร่างจนทำให้เขาตาย) แท้จริง เขาจะรู้สึกดีใจเมื่อเขาถูกทดสอบมากกว่าที่บุคคลใดในหมู่พวกท่านดีใจเมื่อประสบความสุขสบาย

 

(ดูในหนังสือ อัลอะดับอับมุฟร็อด ของท่านอิมามอัลบุคอรีย์)

 

          สองฮะดิษข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้ศรัทธานั้น เมื่ออีมานเข้มแข็ง การทดสอบก็จะเพิ่มมากขึ้นสำหรับเขา และเพื่อเป็นการตอบโต้ผู้ที่เข้าใจผิด ที่คิดว่าผู้ศรัทธานั้นเมื่อประสบกับบะลาอฺหนึ่ง บะลาอฺใด ไม่ว่าในร่างกาย ทรัพย์ ลูกหลาน หรือธุรกิจการงานของเขา หรือเกียรติยศของเขาหรืออื่นๆ ก็ตาม พวกเขาคิดว่าบะลาอฺดังกล่าวเป็นข้อพิสูจน์ที่แสดงว่าผู้ศรัทธาคนนั้นไม่เป็นที่พึงปรารถนาและไม่เป็นที่พึงพอพระทัยของอัลลอฮฺเสียแล้ว การคิดเช่นนี้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ และเป็นคำกล่าวที่ปราศจากความจริงและเหตุผล เพราะท่านร่อซูลุลลอฮฺนั้นทั้งๆ ที่เป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุดในหมู่มนุษยชาติ แต่ก็ประสบกับการทดสอบอย่างหนักหน่วงที่สุด และเช่นเดียวกันไม่มีนบีท่านใดที่จะถูกละเว้นไปได้ แต่ยิ่งจะถูกทดสอบอย่างหนักที่สุดเช่นเดียวกัน

 

          ดังนั้น การทดสอบ (บะลาอฺ) นั้น ส่วนมาเป็นการชี้ให้เห็นถึงสถานะอันดีของผู้ศรัทธา อัลลอฮฺ ดังปรากฏตามฮะดิษ ดังต่อไปนี้

 

1. มีรายงานจากท่านอนัส อิบนิ มาลิก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ แจ้งว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

     “แท้จริง การตอบแทนอันใหญ่หลวงนั้น ขึ้นอยู่กับการทดสอบอันใหญ่หลวงเช่นกัน แท้จริงเมื่ออัลลอฮฺทรงรักกลุ่มชนใด พระองค์ก็จะทรงทดสอบพวกเขา ดังนั้น ผู้ใดพึงพอใจในบะลาอฺที่ประสบกับเขา เขาก็จะได้รับความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺ และผู้ใดที่โกรธแค้นเคืองไม่พึงพอใจ เขาก็จะได้รับความกริ้วโกรธจากอัลลอฮฺ

(บันทึกโดย อิมามอัตติรมิซีย์ และอิบนิ มาญะฮฺ)

 

2. มีรายงานจากท่านญาบิร อิบนิ อับดิลลาฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ แจ้งว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

     “ขณะที่มีการตอบแทนภาคผลรางวัลให้แก่ผู้ที่ประสบกับบะลาอฺในวันกิยามะฮฺ ผู้ที่ได้รับความสุขสบาย (ผู้ที่ไม่ได้ประสบกับบะลาอฮฺในดุนยา) ก็ปรารถนาเหลือเกินที่จะให้ผิวหนังของพวกเขาถูกขลิบด้วยกรรไกรในโลกดุนยาเพื่อที่จะเป็นผลดีสำหรับพวกเขา (ในวันกิยามะฮฺ)”

(บันทึกโดย อิมามอัตติรมิซีย์)

 

          สรุปได้ว่า การประสบกับบะลาอฺหรือการทดสอบในโลกดุนยานี้นั้น เป็นการชี้ให้เห็นว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงรักผู้ที่พระองค์ทรงทดสอบ นอกจากนั้นยังชี้ให้เห็นอีกว่า ผู้ที่ประสบกับบะลาอฺนั้น อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงอภัยโทษให้แก่เขาในทุกความผิดที่เขาเคยกระทำไว้ กล่าวคือ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทรงให้เขาสะอาดบริสุทธิ์ จนกระทั่งเขากลับไปหาพระองค์โดยปราศจากความผิดใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกันนั้น อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็จะทรงยกฐานะอันสูงส่งให้แก่เขาอีกด้วย ซึ่งเป็นฐานะที่บุคคลที่ไม่ได้รับบะลาอฺ ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับในวันแห่งการชำระสอบสวน

 

 

 

ที่มา : วารสารสายสัมพันธ์