การหันเหออกจากทางที่เที่ยงตรงในชีวิตของมนุษย์
เชค ซอแหละห์ อัลเฟาซาน
แปลโดย... อิสมาอีล กอเซ็ม
อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์มาเพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์ โดยที่พระองค์ได้เตรียมปัจจัยยังชีพให้แก่มนุษย์เพื่อการดำเนินชีวิตของพวกเขา โดยที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ ﴿٥٦﴾ مَا أُرِيدُ مِنْهُم مِّن رِّزْقٍ وَمَا أُرِيدُ أَن يُطْعِمُونِ ﴿٥٧﴾
“และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า
ข้าไม่ต้องการปัจจัยยังชีพจากพวกเขา และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาให้อาหารแก่ข้า”
จิตใจนั้นด้วยกับธรรมชาติ เมื่อมันถูกปล่อยตามธรรมชาติเดิมๆ มันจะยอมรับต่อการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ และจะรักต่ออัลลอฮฺ ทำการเคารพต่อพระองค์โดยไม่เอาสิ่งใดมาหุ้นส่วนต่อพระองค์ แต่ว่าสิ่งที่ได้ทำให้จิตใจเสียหาย และหันเหออกจากการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เนื่องจากด้วยกับสิ่งที่ชัยตอนที่เป็นญินและมนุษย์ได้ทำการประดับประดา และได้ร่วมมือกันด้วยกับคำพูดที่ใช้ในการหลอกหลวง
สำหรับการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ เป็นสิ่งที่อยู่ในความเป็นมนุษย์เดิมๆของมนุษย์ทุกคน แต่การตั้งภาคีเข้ามาปะปนสร้างความขุ่นมัวกับการให้เอกภาพต่ออัลลอฮุ
قال تعالى : ْ((فَأَقِمْ وَجْهَكَ لِلدِّينِ حَنِيفًا ۚ فِطْرَتَ اللَّهِ الَّتِي فَطَرَ النَّاسَ عَلَيْهَا ۚ لَا تَبْدِيلَ لِخَلْقِ اللَّهِ)) [الروم 30]
“ดังนั้น เจ้าจงผินหน้าของเจ้าสู่ศาสนาที่เที่ยงแท้ (โดยเป็น) ธรรมชาติของอัลลอฮฺ
ซึ่งพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการสร้างของอัลลอฮฺ”
وقال صلى الله عليه وسلم ((كل مولود يولد على الفطرة ، فأبواه يهودان ،أو ينصران ،أو يمسجسان ))
ท่านรอซูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะสัลลัมได้กล่าวว่า “เด็กที่เกิดมาทุกคนนั้น ถูกกำเนิดบนธรรมชาติที่บริสุทธิ์ พ่อแม่ของเขา จะทำให้เขาเป็นยิว หรือเป็นคริสต์ หรือเป็นผู้บูชาไฟ”
(บุคอรีย์ มุสลิม หะดีษ อบูฮุรอยเราะห์)
ศาสนาอิสลาม มีมาตั้งแต่สมัยท่านนบีอาดัม อะลัยอิสสลาม และลูกหลานของท่านก็รับช่วงต่อมาหลายๆศตวรรษที่ยาวนาน
قال تعالى : ﴿كَانَ النَّاسُ أُمَّةً وَاحِدَةً فَبَعَثَ اللَّهُ النَّبِيِّينَ مُبَشِّرِينَ وَمُنذِرِينَ ﴾[213 :البقرة]
“มนุษย์นั้นเคยเป็นประชาชาติเดียวกัน ภายหลังอัลลอฮ์ได้ส่งบรรดานะบีมาในฐานะผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน
การตั้งภาคี และการหันเหออกจากหลักความเชื่อที่ถูกต้อง เกิดขึ้นครั้งแรกในกลุ่มชนของท่านนบี นัวะอะลัยอิสสลาม”
และท่านนบีนัวะอะลัยอิสสลามคือรอซูลคนแรก
إِنَّا أَوْحَيْنَا إِلَيْكَ كَمَا أَوْحَيْنَا إِلَىٰ نُوحٍ وَالنَّبِيِّينَ مِن بَعْدِهِ [النساء163]
“แท้จริงเราได้มีโองการแก่เจ้า เช่นเดียวกับที่เราได้มีโองการแก่นูฮ์ และบรรดานะบีหลังจากเขา”
ท่านอิบนุ อับบาสได้กล่าวว่า ระหว่างท่านนบี อาดัม และท่านนบีนัวะ อะลัยอิมัสสลามนั้น ในช่วงเวลาสิบศตวรรษ มนุษย์ทั้งหมดอยู่ในแนวทางของอิสลาม ท่าน อิบนุล ก็อยยิมได้กล่าวว่า นี่คือคำพูดที่ถูกต้องที่สุด เพราะว่าการอ่านของท่าน อุบัย บิน กะฮบฺ หมายถึง ในอายะห์ อัลบากอเราะห์
وَمَا كَانَ النَّاسُ إِلَّا أُمَّةً وَاحِدَةً فَاخْتَلَفُوا ۚ [يونس 19]
“และมนุษย์นั้นไม่ใช่อื่นใด นอกจากเป็นประชาชาติเดียวกัน และพวกเขาก็แตกแยกกัน”
(ซูเราะฮฺ ยูนุส อายะห์ที่ 19)
ท่านอิบนุ อับบาส ขออัลลอฮฺได้โปรดเมตตาต่อท่าน สาเหตุที่บรรดานบีได้ถูกส่งมาก็เนื่องจากมนุษย์ ไม่ได้อยู่ในศาสนาที่ถูกต้อง เช่น ชาวอาหรับพวกเขาเคยอยู่ในแนวทางของท่านนบี ฮิบรออีม อะลัยอิสสลาม จนกระทั่ง อัมรฺ อิบนุ ลุหัย อัลคูซาอีย์ ได้มา พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงศาสนาของนบี อิบรอฮีม และได้นำรูปเจว็ดเข้ามาสู่แผ่นดินอาหรับ และเข้ามาสู่แผ่นดินหิยาซเป็นการเฉพาะ แล้วรูปปั้นก็ถูกเคารพภักดี แทนการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ และการตั้งภาคีก็ได้แพร่หลายในเมืองที่บริสุทธ์นี้ และเมืองรอบๆนั้น
จนกระทั่งอัลลอฮฺได้ส่งท่านนบี มูฮัมหมัด ซึ่งเป็นบนีคนสุดท้ายจากบรรดานบีทั้งหมด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอิวะสัลลัม โดยที่ท่านได้เรียกร้องผู้คนมาสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ และให้กลับมาสู่การแนวทางของท่านนบี อิบรอฮีม และท่านได้ทำการต่อสู้ทุ่มเทในหนทางของอัลลอฮฺ ด้วยความจริงจัง จนกระทั่งหลักเอกภาพต่ออัลลอฮฺ และแนวทางของท่านนบี ฮิบรออีมได้กลับมาอีกครั้ง และบรรดาเจว็ดก็ถูกทำลายลง อัลลอฮฺได้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์ และความโปรดปรานของพระองค์ได้แผ่ทั่วแก่บรรดามนุษยชาติ และได้ดำเนินตามแนวทางของกลุ่มคนในศตวรรษที่มีความประเสริฐในยุคต้นๆของประชาชาตินี้
ต่อมาความเขลาได้แพร่กระจายในยุคหลังๆ และสิ่งเจือปนของศาสนาอื่นก็เขามาปะปน และการตั้งภาคีได้กลับมาสู่ประชาชาตินี้ เนื่องจากมีผู้ที่ทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนมาสู่ความหลงผิด และสาเหตุการปลูกสิ่งก่อสร้างบนหลุมฝังศพ หรือทำรูปของบรรดาคนดีๆขึ้นมา โดยอ้างถึงความรักที่มีต่อบรรดาคนที่ดีๆทั้งหลาย เลยเป็นเหตุผลให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างไว้บนหลุมฝังศพ และกลับไปยึดเอาหลุมฝังศพเป็นเจว็ดมาทำการเคารพภักดี อื่นจากอัลลอฮฺ โดยกับการแสดงความใกล้ชิดในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าเป็นการวิงวอน การขอความช่วยเหลือ การเชือด การบนบานในที่หลุมฝังศพ ซึ่งเรียกว่าการตั้งภาคี และเป็นการใช้สื่อด้วยกับบรรดาคนดีๆ และแสดงออกความรักต่อพวกเขา และพวกเขาอ้างว่ามันไม่ได้เป็นการเคารพภักดี
จนมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างบนหลุมฝังศพของพวกเขา และสิ่งปลูกสร้างนั้นได้ถูกยึดมาเป็นเจว็ด ที่ถูกเคารพอื่นจากอัลลอฮฺ ด้วยกับการทำอิบาดะห์ชนิดต่างๆ เช่น การไปวิงวอนขอความช่วยเหลือ(ต่อหลุมฝังศพ) ไปเชือดแก่หลุมฝังศพ และไปบนบานที่มัน พวกเขาเรียกการตั้งภาคี(ต่ออัลลอฮฺ) คือ การใช่สื่อด้วยกับคนดีๆทั้งหลาย เป็นแค่เพียงการแสดงออกความรัก ไม่ใช่เป็นการเคารพภักดีตามการกล่าวอ้าง พวกเขาคงลืมไปแล้วว่า คำพูดนี้เป็นคำพูดเดียวกับบรรดาผู้ตั้งภาคีในยุคแรกๆ
سورة الزمر آية 3 قوله تعالى : مَا نَعْبُدُهُمْ إِلَّا لِيُقَرِّبُونَا إِلَى اللَّهِ زُلْفَىٰ
“โดยกล่าวว่าเรามิได้เคารพภักดีพวกเขา เว้นแต่เพื่อทำให้เราเข้าใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ”
(ซูเราะห์ อัซซุมัร อายะห์ที่ 3)
ทั้งที่การตั้งภาคีนั้นเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนมากของพวกเขาจะยอมรับศรัทธาในการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺในเรื่องการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮฺ (เตาอีดอัรรูบียะห์) แต่พวกเขาจะมีการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ในเรื่องการให้เอกภาพ การเคารพภักดีต่อพระองค์
يقول الله تعالى وَمَا يُؤْمِنُ أَكْثَرُهُمْ بِاللَّهِ إِلا وَهُمْ مُشْرِكُونَ سورة يوسف آية 106
“และส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ เว้นแต่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคี”
มีเพียงคนส่วนน้อยเทำนั้นที่ปฏิเสธการมีอยู่ของพระเจ้า เช่น ฟิรเอานฺ และพวกบูชากาลเวลาไม่เชื่อการบริหารของพระเจ้า จะมาคร่าชีวิตของพวกเขา และพวกคอมมิวนิสต์ ในยุคสมัยนี้ แต่การปฏิเสธของพวกเขาเพียงแค่แสดงออกในความหยิ่งยโสเท่านั้น ในยามที่พวกเขาเดือดร้อนขับคัน พวกเขาจะยอมรับการมีอยู่ของพระเจ้าภายในจิตใจของพวกเขา
ดั่งคำดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า
“ และพวกเขาได้ปฏิเสธมันอย่างยุติธรรมและเย่อหยิ่ง”
(ซูเราะห์ อัลนัมล์ อายะห์ที่ 14 )
สติปัญญาของพวกเขารับรู้ดี แท้จริงสิ่งที่ถูกสร้างมาทั้งหมดย่อมมีผู้สร้าง และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาย่อมมีผู้ที่ทำให้มันเกิดมา และแท้จริงระบบจักรวาลที่สมบูรณ์แบบ ละเอียดอ่อน ย่อมต้องมีผู้ที่ขับเคลื่อน บริหารจัดการ ผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยความปรีชาญาณและมีความสามารถรอบรู้ ใครที่ปฏิเสธเรื่องนี้ เป็นเพราะสติปัญญาของเขาหายไป หรือเป็นเพราะความหยิ่งยโสจนทำให้สติปัญญาได้หายไป และเป็นคนที่เขลา ซึ่งคนประเภทนี้ไม่สามารถนำเอามาเป็นหลักเกณฑ์ได้