ความประเสริฐของการท่องจำอัลกุรอานและผู้ท่องจำอัลกุรอาน
อัลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
“โดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่ง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น”
(อัลเกาะมัรฺ 54: 17)
อิมามอัลกุรฏุบีย์ กล่าวว่า หมายถึง เราได้ทำให้อัลกุรอานง่ายแก่การจดจำ เราช่วยเหลือผู้ที่ต้องการท่องจำมัน มีใครไหมที่จะขอให้ตนเองท่องจำอัลกุรอาน แล้วเขาจะได้รับการช่วยเหลือ
อัลลอฮฺ กล่าวว่า
“มิใช่เช่นนั้นดอก มันคือโองการทั้งหลายอันชัดแจ้งอยู่ในหัวอกของบรรดาผู้ได้รับความรู้”
(อัลอันกะบูต 29: 49)
เป็นอายะฮฺที่อธิบายถึงความยิ่งใหญ่ของทรวงอกที่สามารถจดจำคำกล่าวของอัลลอฮฺ ได้ และบอกถึงลักษณะของผู้ท่องจำอัลกุรอานว่า พวกเขาคือผู้ได้รับความรู้ หลังจากคัมภีร์ของอัลลอฮฺ แล้วจะมีความรู้ใดอีกหรือ
อัลลอฮฺ ได้อธิบายในอายะฮฺดังกล่าวให้พวกเราทราบว่า พระองค์ได้เลือกจากปวงบ่าวของพระองค์ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งที่พระองค์ให้หัวใจของพวกเขามีความรู้ด้วยกับคำพูดของพระองค์ แท้จริงนี่คือความโปรดปรานอันชัดแจ้ง
มากกว่านั้น หากเราได้ใคร่ครวญประเด็นนี้ ที่ว่าอัลลอฮฺ ได้ให้นักวิชาการของประชาชาตินี้เท่านั้นที่หัวใจของพวกเขาเป็นที่มาแห่งการท่องจำโองการของอัลลอฮฺ ก็จะทราบถึงคุณค่าของเหล่านักท่องจำอัลกุรอาน ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ การที่ผู้ท่องจำอัลกุรอานบางคนเป็นคนต่างชาติ ไม่สามารถพูดภาษาอาหรับได้ แต่ลิ้นของพวกเขากลับมีความคล่องแคล่วในการอ่านและท่องจำอัลกุรอาน ดังที่เราเห็นกันมามากแล้ว
ตำแหน่งการท่องจำอัลกุรอาน ณ ที่เราะซูล
มีรายงานยืนยันว่าท่านเราะซูล ให้สถานะกับเศาะฮาบะฮฺแตกต่างกันอันเนื่องจากการท่องจำอัลกุรอาน เมื่อท่านแต่งตั้งใครให้ทำภารกิจใดภารกิจหนึ่ง
ท่านจะกล่าวว่า “จงให้คนที่ท่องจำอัลกุรอานมากที่สุดเป็นอิหม่ามนำ”
(บันทึกโดยบุคอรียฺ ในเศาะฮีหฺของท่าน หมวดอัลมะฆอซียฺ หะดิษหมายเลข 53)
เมื่อมีการฝังศพบรรดาเศาะฮาบะฮฺที่ตายซะฮีด ท่านนบี จะนำศพของผู้ท่องจำอัลกุรอานมากกว่าลงหลุมก่อน และจะเป็นคนจัดการศพเหล่านั้นด้วยตัวเอง มากกว่านั้นท่านยังเคยให้สินสอดของผู้หญิงเป็นอัลกุรอานที่ฝ่ายชายท่องจำ อีกทั้งยังมอบธงในสมรภูมิรบแก่ผู้ที่ท่องจำอัลกุรอานมากที่สุด เพราะเขามีคุณลักษณะเด่นกว่าบุคคลอื่น
รายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุอุมัร กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านเราะซูล กล่าวว่า
“ไม่มีการอิจฉา นอกจากต่อบุคคล 2 ประเภท คือ
คนที่อัลลอฮฺ ให้เขามีอัลกุรอานในหัวใจแล้วเขาอ่านมันทั้งกลางคืนและกลางวัน และ
คนที่อัลลอฮฺ ประทานทรัพย์แก่เขา โดยเขาได้บริจาคทานทั้งกลางคืนและกลางวัน”
(บันทึกโดยมุสลิม หะดิษหมายเลข 815)
รายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุอุมัร อิบนุลอาศ จากท่านนบี กล่าวว่า
“จะมีเสียงกล่าวแก่ชาวอัลกุรอานว่า จงอ่านและเลื่อนขั้นขึ้นไป อ่านอย่างที่ท่านเคยอ่านมันในดุนยา เพราะตำแหน่งของท่านจะไปสุดที่อายะฮฺสุดท้ายที่ท่านอ่าน”
(บันทึกโดยติรฺมิซียฺ หะดิษหมายเลข 2914 โดยท่านกล่าวว่าเป็นหะดิษหะซันเศาะฮีหฺ)
จากอุษมาน อิบนุอัฟฟาน กล่าวว่า ท่านนบี กล่าวว่า “คนที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่านคือคนที่ศึกษาและสอนอัลกุรอาน”
(บันทึกโดยบุคอรียฺ หะดิษหมายเลข 5027)
รายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนุมัสอูด กล่าวว่า ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“ใครอ่านอักษรหนึ่งจากอัลกุรอานเขาจะได้รับ 1 ความดี และ 1 ความดีนั้นจะได้เท่ากับ 10 เท่าของมัน ฉันไม่ได้กล่าวว่า อลีฟ ลาม มีม นั้นคือ 1 อักษร แต่อลีฟคืออักษรหนึ่ง ลามคืออักษรหนึ่ง และมีมคืออักษรหนึ่ง”
(บันทึกโดยติรมิซียฺ หะดิษหมายเลข 2912 โดยท่านกล่าวว่าเป็นหะดิษหะซันเศาะฮีหฺ)
รายงานจากอะบูฮุรอยเราะฮฺ ท่านนบี กล่าวว่า
“ไม่มีกลุ่มชนใดที่รวมตัวกันในบ้านหลังหนึ่งของอัลลอฮฺ โดยอ่านอัลกุรอาน และต่างศึกษาเนื้อหาของอัลกุรอานนั้น นอกจากว่า
ความสงบสุขจะลงมายังพวกเขา ความเมตตาจะแผ่ปกคลุมพวกเขา
บรรดามะลาอิกะฮฺจะห้อมล้อมพวกเขา และอัลลอฮฺ จะกล่าวถึงพวกเขาแก่บุคคลที่อยู่ ณ ที่พระองค์”
(บันทึกโดยมุสลิม หะดิษหมายเลข 2701)
ส่วนบรรพชนคนดีในยุคก่อนของพวกเราตั้งแต่เศาะฮาบะฮฺ ตาบิอีนและกลุ่มบุคคลหลังจากนั้น พวกเขาไม่เคยให้สิ่งใดมาก่อนอัลกุรอาน ไม่สนับสนุนให้ผู้แสวงหาความรู้คนใดก้าวสู่แขนงความรู้ต่างๆ หรือศึกษาหะดิษ นอกจากภายหลังที่ได้ท่องจำอัลกุรอานแล้ว
อัลวะลีด อิบนุมุสลิม กล่าวว่า พวกเราเคยนั่งอยู่กับอัลเอาซาอียฺ ขณะกำลังศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา
เมื่อเห็นว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่กับพวกเรา ท่านจะกล่าวว่า “โอ้หนุ่มน้อย เจ้าท่องจำอัลกุรอานหรือยัง?”
หากตอบว่า “ครับ” ท่านก็จะทดสอบด้วยการอ่านอัลกุรอานขึ้นมา แล้วให้เขาอ่านต่อ
แต่หากตอบว่า “ยัง” ท่านก็จะกล่าวว่า “จงกลับไปศึกษาอัลกุรอานก่อนที่จะเริ่มแสวงหาความรู้(อื่น)”
ยังมีตัวอย่างอีกมากในกรณีเช่นนี้ แต่ขอนำเสนอไว้เพียงเท่านี้
ที่มา: หนังสือ “คู่มือท่องจำอัลกุรอาน”