ข้อเตือนภัยจากภัยพิบัติ
  จำนวนคนเข้าชม  9117


ข้อเตือนภัยจากภัยพิบัติ

 

 คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถของเรา และในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺให้อยู่ในแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมด้วย

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมถึงเหตุการณ์ที่เป็นภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม สึนามิ หรือเหตุการณ์ร้ายแรงอื่นๆ ปรากฏให้เราได้เห็น ได้รับทราบข่าวกันอยู่อย่างต่อเนื่อง และถี่ขึ้น และข่าวเมื่อเร็วๆนี้ก็เช่นกัน สึนามิที่ประเทศอินโดนีเซีย (ธันวาคม 2561) 

          ภัยพิบัติเหล่านี้นำความหายนะ นำความเสียหายอย่างมากมายมาสู่ชีวิตคน สัตว์ พืชสวนไร่นา ทรัพย์สมบัติพัสถานต่างๆ ซึ่งเมื่อเราได้รับทราบข่าวแล้ว ก็อย่าปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ แต่ให้เราได้หันกลับมาพิจารณาว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆเหล่านี้ ไม่ได้เกิดมาอย่างไร้ความหมาย แต่เกิดขึ้นเพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงประสงค์ให้เราได้ใคร่ครวญการกระทำของตัวเราเอง

 

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัรรูม อายะฮฺที่ 41 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

ظَهَرَ الْفَسَادُ فِي الْبَرِّ وَالْبَحْرِ بِمَا كَسَبَتْ أَيْدِي النَّاسِ لِيُذِيقَهُم بَعْضَ الَّذِي عَمِلُوا لَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ

 

ความหายนะและภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งบนบกและในทะเล (ทั้งหมดนี้)ล้วนมาจากการกระทำของมนุษย์ 

เพื่อให้มนุษย์ได้ลิ้มรสบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาได้กระทำไว้ เพื่อว่าพวกเขาจะสำนึกและหวนกลับ(มาสู่พระองค์)”

 

          อายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงให้เราได้พิจารณาว่า ความหายนะมากมายที่เกิดขึ้น ความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นบนบก หรือในท้องทะเลนั้น มันมาจากการกระทำของมนุษย์เองทั้งสิ้น ที่ไม่รักษาสภาวะแวดล้อมให้อยู่ในสมดุลของธรรมชาติ ไม่รักษาระบบนิเวศน์

 

          เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ภาวะโลกร้อน ภาวะเรือนกระจก เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้า ใช้พลังงานจากน้ำมันอย่างมากมาย ทำให้โลกร้อนขึ้น จนเป็นผลให้น้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลาย เกิดเป็นน้ำท่วม ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล มีการทำลายป่าไม้ ทำให้เกิดน้ำท่วม ...เกิดโรคภัยไข้เจ็บจากการใช้สารเคมีฉีดไปที่พืชผัก การใช้สารฟอร์มาลีนเพื่อรักษาความสดใหม่ของอาหาร ..การทดลองนิวเคลียร์ก็มีผลให้เกิดแผ่นดินไหว เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่ไปทำให้ระบบของธรรมชาติเสียหายไป 

          ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า อิสลามไม่ได้ปฏิเสธวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ปฏิเสธถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ แต่ให้เราเรียนรู้ และป้องกันตัวเราจากการกระทำสิ่งต่างๆเหล่านั้น พยายามไม่ให้ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำสิ่งเหล่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย นอกจากภัยพิบัติจะเกิดจากการกระทำของมนุษย์ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว ภัยพิบัติยังเกิดจากการลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอีกด้วย 

     ในอัลกุรอานซูเราะฮฺยูนุส อายะฮฺที่ 13 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

وَلَقَدْ أَهْلَكْنَا الْقُرُونَ مِن قَبْلِكُمْ لَمَّا ظَلَمُوا

 

     “และโดยแน่นอน เราได้ทำลายประชาชาติจากศตวรรษก่อนหน้าพวกเจ้าไปแล้ว เมื่อพวกเขาเป็นผู้อธรรม (เป็นผู้ละเมิดต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์) ”

 

     ประชาชาติต่างๆ ก่อนสมัยของประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมต่างเคยถูกทำลายมาแล้วทั้งสิ้น

     ♦ ประชาชาติของท่านนบีนูหฺก็ถูกทำลาย ด้วยเหตุการณ์น้ำท่วม

     ♦ ประชาชาติของท่านนบีลูฏก็ถูกทำลาย ด้วยการถูกธรณีสูบ ถูกพลิกแผ่นดิน

     ♦ ประชาชาติของท่านนบีศอลิหฺ ก็ถูกทำลายจากเสียงดังกัมปนาทและแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

     ♦ ประชาชาติแล้วประชาชาติเล่าที่ถูกทำลายลง ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่พวกเขาไม่เชื่อฟังเราะซูลของพระองค์ และทำการละเมิดต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์

     ♦ ในขณะที่ประชาชาติของท่านนบียูนุสกลับไม่ถูกทำลาย เพราะพวกเขาได้หันกลับมาเชื่อฟังท่านนบียูนุส และยอมปฏิบัติตามบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พวกเขาจึงได้รับความสุขตลอดไป

 

           ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นแต่เฉพาะผู้ปฏิเสธศรัทธา หรือผู้ศรัทธาที่เป็นคนชั่วเท่านั้น แต่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นกับผู้ศรัทธาที่เป็นคนดีด้วย คือเกิดขึ้นกับทั้งผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนา และผู้ศรัทธาที่ละเมิดต่อบทบัญญัติศาสนาด้วย

ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลอัมฟาล อายะฮฺที่ 25 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

     “และพวกเจ้าจงระวังฟิตนะฮฺ ซึ่งฟิตนะฮฺนั้นมันไม่ได้จะประสบเฉพาะผู้อธรรม ไม่ได้ประสบเฉพาะผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น (คนที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาก็โดนด้วย) และพึงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริง อัลลอฮฺทรงเป็นผู้รุนแรงในการลงโทษ

 

           ฟิตนะฮฺ ภัยพิบัติต่างๆถ้าเกิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาถือเป็นการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในโลกดุนยา แต่ถ้าเกิดกับผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาถือเป็นบะลา บะลาคือการทดสอบ คำว่าบะลามีทั้งที่เป็นเรื่องดีและเรื่องไม่ดี คำว่าบะลาจะมีความหมายต่างกับคำว่าอะซาบเพราะอะซาบหมายถึงการถูกลงโทษ การถูกทรมาน

 

           ผู้ศรัทธาจะได้รับบะลา ได้รับการทดสอบทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ดี เป็นการทดสอบความเข้มแข็งของอีมาน ถือเป็นการขัดเกลาตัวเองให้ยึดมั่นบทบัญญัติศาสนามากขึ้น และถือเป็นการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งไม่ว่าผู้ศรัทธาจะได้รับการทดสอบแบบใด พวกเขาก็จะกลับมาหาพระองค์ คือ จะรำลึกถึงพระองค์ จะขออภัยโทษจากพระองค์ จะขอบคุณพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์ จะขอความช่วยเหลือจากพระองค์ จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์

 

          ทำไมผู้ศรัทธาที่เป็นคนดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาจึงโดนฟิตนะฮฺ โดนภัยพิบัติด้วย ...สาเหตุก็เพราะพวกเขาไม่ยอมห้ามปรามการฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาที่เกิดขึ้นในสังคม พวกเขานิ่งเงียบ เพิกเฉย ไม่ยอมตักเตือน ปล่อยให้ความไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในสังคม ปล่อยให้การฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีการห้ามปราม ไม่มีการตักเตือน

 

           ด้วยเหตุนี้ การที่เราจะเป็นคนดีในสังคมอยู่เพียงคนเดียว ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอยู่เพียงคนเดียว ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาอยู่เพียงคนเดียว ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการลงโทษของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้

 

           อัลหะดีษ (หะซัน) ในบันทึกของอิมามอัตติรฺมีซีย์ รายงานจากท่านฮุซัยฟะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

 

وَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ لَتَأْمُرُنَّ بِالْمَعْرُوفِ وَلَتَنْهَوُنَّ عَنْ الْمُنْكَرِ أَوْ لَيُوشِكَنَّ اللَّهُ أَنْ يَبْعَثَ عَلَيْكُمْ عِقَابًا مِنْهُ ثُمَّ تَدْعُونَهُ فَلَا يُسْتَجَابُ لَكُمْ

 

     “ ฉันขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า พวกท่านจงสั่งกำชับกันให้ทำความดี และต้องร่วมมือกันห้ามปรามความชั่ว (เพราะถ้าพวกท่านไม่ทำเช่นนั้น ปล่อยปละละเลย) อัลลอฮฺก็จะทรงส่งการลงโทษของพระองค์ลงมายังพวกท่านอย่างเฉียบพลันทันที (เมื่อถึงเวลานั้น) แม้หากพวกท่านจะวิงวอนขอจากพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ทรงตอบรับ(คำวิงวอนขอของพวกท่าน)”

 

          ท่านนบีสั่งเราให้กำชับกันและกันในการทำความดี กำชับกันให้รักษาบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในขณะเดียวกันก็ต้องห้ามปรามกันในเรื่องของความชั่ว ห้ามปรามกันหากมีการฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาเกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องมีการตักเตือนกัน จัดการบรรยายเรื่องราวศาสนา จัดการนะศีหะหฺ ในสังคมของเรา รักษาเรื่องของการตักเตือนกันเอาไว้ รักษาเรื่องของการกำชับให้ทำความดี ห้ามปรามความชั่วเอาไว้ เพราะถ้าเราไม่เตือนกัน ปล่อยให้การละเมิดบทบัญญัติศาสนาเกิดขึ้นในสังคมของเรา อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็จะทรงส่งการลงโทษมายังเรา และแม้ว่าเราจะขอดุอาอ์ให้การลงโทษนั้น รอดพ้นไปจากเรา พระองค์ก็จะไม่ทรงรับการขอดุอาอ์ของเราแล้ว

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ก่อนจะจบคุฏบะฮฺในวันนี้ ขอให้เราได้ตระหนักว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ โดยที่มนุษย์ไปละเมิดต่อระบบนิเวศน์ของพระองค์ หรือไม่ว่าภัยพิบัติจะเกิดจากการลงโทษก็ตาม มันมีที่มาจากการที่มนุษย์ไปละเมิดคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ละเมิดต่อบทบัญญัติศาสนาทั้งสิ้น

 

           ในปัจจุบัน เราจะเห็นภัยพิบัติที่ลงไปยังกลุ่มคนที่ดื่มสุราเมรัย มีการเต้นรำทำเพลง มีการผิดประเวณี ทำซินา มีเรื่องของการรักร่วมเพศ ลงไปยังกลุ่มคนที่ทำชิริก ทำบิดอะฮฺ ทำเรื่องที่ผิดต่อบทบัญญัติศาสนา ดังนั้น การเกิดภัยพิบัติต่างๆ หรือการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ จึงถือเป็นข้อเตือนใจเรา ให้เรากลับสู่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัซซัจญะดะฮฺ อายะฮฺที่ 21 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

﴿وَلَنُذِيقَنَّهُم مِّنَ الْعَذَابِ الْأَدْنَىٰ دُونَ الْعَذَابِ الْأَكْبَرِ لَعَلَّهُمْ يَرْجِعُونَ﴾

 

     “และแน่นอนเราได้ให้การลิ้มรสแก่พวกเขาด้วยการลงโทษอันเล็กน้อยซึ่งยังไม่ใช่การลงโทษอันใหญ่หลวง(ที่จะเกิดขึ้นในโลกอาคิเราะฮ ) เพื่อว่าพวกเขาจะกลับมาหาพระองค์ (คือ จะรำลึกถึงพระองค์ จะขออภัยโทษจากพระองค์ จะขอบคุณพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์ จะขอความช่วยเหลือจากพระองค์ จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์)”

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราเป็นผู้ที่รักษาบทบัญญัติศาสนาของพระองค์อย่างเคร่งครัด และให้สังคมของเราได้รักษาเรื่องของการตักเตือนซึ่งกันและกันเอาไว้ตลอดไป เมื่อเราเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติศาสนาเกิดขึ้น จะต้องมีการบอกกัน เตือนกัน และเทศกาลที่ไม่มีในบทบัญญัติศาสนา เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมนั้น และต้องบอก ต้องเตือนลูกหลานในเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้เราอยู่ในความคุ้มครองของ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตลอดไป

 

 

( คุฏบะฮฺวันศุกร์มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )