จงตัดขาดจากลักษณะมุนาฟิก
คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถของเรา และในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 8 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَمِنَ النَّاسِ مَنْ يَقُولُ آَمَنَّا بِاللَّهِ وَبِالْيَوْمِ الْآَخِرِ وَمَا هُمْ بِمُؤْمِنِينَ
อายะฮฺนี้เป็นอายะฮฺที่มีรายงานว่า ท่านมุฮัมมัด บิน ซีรีน ( อุละมาอ์ยุคสะละฟุศศอลิหฺ ซึ่งเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.110 ) ท่านได้กล่าวว่า อายะฮฺนี้เป็นอายะฮฺที่ท่านกลัวที่สุด ...ท่านกลัวเพราะอะไร ?
เรามาดูความหมายของอายะฮฺนี้ อายะฮฺนี้บอกว่า
“และคนบางคน ได้พูดว่า เราศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ แต่ทว่า (ความจริงแล้ว)พวกเขาไม่ได้ศรัทธา”
อายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า คนบางคนพูดว่า เขาศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮฺด้วย แต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า คนบางคนที่พูดอย่างนี้ ไม่ได้ศรัทธาตามที่พวกเขาได้พูดออกมาหรอก
นี่คือสิ่งที่ท่านมุฮัมมัด บิน ซีรีน ซึ่งเป็นอุละมาอ์ ท่านเป็นถึงอุละมาอ์ แต่ท่านยังมีความกลัว ..ท่านกลัวว่า ท่านจะเป็นคนๆหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของคนบางคนตามที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกไว้ ..ที่พูดว่า ศรัทธา แต่ความจริง ไม่ได้ศรัทธา
ดังนั้น เราที่เป็นคนเอาวาม คนธรรมดาๆ ไม่ใช่อุละมาอ์ เราก็ยิ่งต้องมีความกลัวยิ่งกว่า..กลัวที่จะอยู่ในกลุ่มของคนบางคนที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงบอกไว้ เพราะเราก็เป็นคนๆหนึ่งที่พูดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า เราศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ แล้วเราจะเป็นคนที่อยู่ในข่ายของคนบางคนที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า “พูดว่าศรัทธา แต่ความจริงแล้วไม่ได้ศรัทธา” เราอยู่ในคนกลุ่มนี้หรือไม่ ?
เรามาดูว่า คนบางคนที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกไว้นั้น คือใครกัน พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร ? เพื่อให้เราได้ระมัดระวังตัวเราที่จะไม่ไปทำพฤติกรรมเหมือนพวกเขา
ตัฟซีรอธิบายอายะฮฺนี้ว่า คนบางคนที่พูดว่าศรัทธา แต่ความจริงไม่ได้ศรัทธานั้น หมายถึง บรรดามุนาฟิกจากชาวเผ่าเอาศ์ และเผ่าค็อซร็อจ และผู้ที่มีแนวความคิดเช่นเดียวกับพวกเขา ที่อยู่ในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในช่วงระยะเวลาที่มุสลิมอพยพมาอยู่ที่มะดีนะฮฺ
ในช่วงที่ท่านนบีเผยแผ่อิสลามอยู่ที่มักกะฮฺนั้น ยังไม่มีมุนาฟิกเกิดขึ้น จะมีก็แต่มุชริกีน หรือผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งพวกเขาก็ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นกุฟฟาร ปฏิเสธการศรัทราต่อท่านนบี แต่ครั้นเมื่อ มุสลิมอพยพมาอยู่ที่มะดีนะฮฺ และได้สร้างความแข็งแกร่งให้แก่อิสลาม ทำให้ผู้นำจากชาวเผ่าบางคนรู้สึกสูญเสียอำนาจ จึงมีความรู้สึกโกรธแค้น และเกลียดชังอิสลาม
เพราะความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่งของอิสลาม จึงทำให้พวกเขาไม่กล้าแข็งข้อ และต้องเสแสร้งประกาศตัวเข้ารับอิสลามพร้อมกับพรรคพวกบางคนของพวกเขา รวมไปถึงบางคนที่เป็นอะฮฺลุลกิตาบ หรือชาวคัมภีร์ด้วย นี่แหละจึงเป็นที่มาของการเกิดมุนาฟิกขึ้นในเมืองมะดีนะฮฺ ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงได้ทรงเตือนบรรดามุสลิมให้ทราบถึงลักษณะของพวกเขาว่า พวกเขาพูดต่อหน้าว่าศรัทธา แต่ความจริง ภายในจิตใจของเขาไม่ได้ศรัทธาเลย
พระองค์ทรงเตือนเพื่อให้มุสลิมจะได้ไม่หลงกลพวกเขา และไม่ตกอยู่ในความเสียหายจากการที่ไม่ระมัดระวังตัวจากพวกเขา และไม่หลงเชื่อว่า พวกเขาเป็นผู้ศรัทธา ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเป็นกุฟฟาร ปฏิเสธไม่ยอมรับอิสลาม
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงเรียกคนบางคนที่พูดว่าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ พูดแต่เพียงลมปาก แต่ในใจนั้นไม่ได้เชื่อ ไม่ได้ศรัทธาเช่นนั้น ว่าเป็นมุนาฟิกหรือที่เราเรียกว่า คนหน้าไหว้หลังหลอก ก็เพราะพวกเขามีการกระทำที่ทำให้คนทั่ว ๆไปเห็นว่าเป็นผู้ศรัทธา แต่ความจริง ภายในจิตใจของเขานั้นปฏิเสธการศรัทธา
ซึ่งมุนาฟิกประเภทนี้ถือเป็นเป็นมุนาฟิกใหญ่ หรือที่เรียกว่านิฟากอักบัร เป็นพวกที่แสร้งทำว่าเป็นมุสลิม เป็นผู้ศรัทธา แต่ภายในจิตใจของเขานั้นปฏิเสธ... เช่น ปฏิเสธหลักความเชื่อมั่น ปฏิเสธหลักศรัทธา ปฏิเสธอัลกุรอาน ปฏิเสธตัวท่านนบี หรือแม้แต่ปฏิเสธแบบฉบับของท่านนบี หรือปฏิเสธสิ่งต่างๆในเรื่องของหลักอะกีดะฮฺ มุนาฟิกประเภทนี้ถือเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา (ไม่ได้ฮุก่มตัวบุคคล แต่ฮุก่มลักษณะของการปฏิบัติที่ปฏิเสธการศรัทธา)
สำหรับมุนาฟิกอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า มุนาฟิกเล็ก หรือนิฟากอัศฆอรฺ เป็นมุนาฟิกในเรื่องของพฤติกรรมที่แสดงออกมา มุนาฟิกประเภทนี้ไม่ทำให้เขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา แต่ถือว่าเขาได้ทำบาป ซึ่งเป็นเรื่องที่เราก็ต้องระมัดระวัง เพราะถ้าเรามีพฤติกรรมของมุนาฟิกเล็กอยู่เป็นประจำ ทำมันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง อุละมาอ์บอกว่า มันก็อาจจะทำให้เรากลายเป็นมุนาฟิกใหญ่ได้เหมือนกัน
พฤติกรรมบางอย่างที่เข้าข่ายของมุนาฟิกเล็ก ยกตัวอย่างจากอัลกุรอานและอัลหะดีษ เช่น
- เมื่อได้รับความไว้วางใจในเรื่องใดๆ เขาก็ทรยศต่อความไว้วางใจอยู่เสมอๆ
- เมื่อเวลาที่เขาพูด เขาก็ชอบพูดโกหกเป็นนิจสิน โกหกอยู่ร่ำไป
- เมื่อเวลาที่เขาให้คำมั่นสัญญา เขาก็ไม่รักษาสัญญา ชอบบิดพลิ้ว
- เมื่อเวลาไปละหมาดก็จะไปในสภาพที่เกียจคร้าน แล้วก็ไปเพื่อให้ผู้คนเห็นเท่านั้น เมื่ออยู่ตามลำพัง ไม่มีคนเห็น เขาก็จะไม่ละหมาด
- เขาจะเป็นผู้ที่รำลึกถึงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- เมื่อได้รับริสกี ก็มักจะขี้เหนียว ไม่ค่อยยอมบริจาค
- เมื่อมีการโต้แย้งเกิดขึ้น ก็มักแสดงลักษณะอันธพาลออกมา
พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นเป็นลักษณะเพียงบางส่วนของมุนาฟิก ที่นักวิชาการมักจะยกมาเป็นตัวอย่างเพื่อให้เราได้มองเห็น และได้ระมัดระวังตัวเรา เพราะหากเรามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่เสมอๆ เราก็อาจกลายเป็นมุนาฟิกใหญ่โดยไม่รู้ตัว หรือโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าเราทำเป็นครั้งคราว อันเนื่องมาจากชะฮฺวะฮฺ อารมณ์ของเรา อย่างนี้นักวิชาการไม่ถือว่าเป็นลักษณะของมุนาฟิก แต่ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นบาป ที่ต้องได้รับการลงโทษ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกถึงลักษณะและพฤติกรรมของมุนาฟิก และได้ทรงคาดโทษพฤติกรรมดังกล่าวไว้เพื่อไม่ให้มุสลิมหลงไปประพฤติปฏิบัติ เพราะการเป็นมุนาฟิกจะทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่ละเมิด เป็นบุคคลล้มละลาย และไม่ได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ อายะฮฺที่ 80 พระองค์ตรัสว่า
ٱسۡتَغۡفِرۡ لَهُمۡ أَوۡ لَا تَسۡتَغۡفِرۡ لَهُمۡ إِن تَسۡتَغۡفِرۡ لَهُمۡ سَبۡعِينَ مَرَّةٗ فَلَن يَغۡفِرَ ٱللَّهُ لَهُمۡۚ ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمۡ كَفَرُواْ بِٱللَّهِ وَرَسُولِهِۦۗ وَٱللَّهُ لَا يَهۡدِي ٱلۡقَوۡمَ ٱلۡفَٰسِقِينَ٠
“หากท่านนบีปรารถนาจะขออภัยโทษให้แก่พวกเขา(ที่เป็นมุนาฟิก) ก็จงขอเถิด หรือหากไม่ปรารถนาจะขออภัยโทษให้แก่พวกเขา ก็ไม่ต้องขอเลย (เพราะ)หากท่านนบีขออภัยโทษให้แก่พวกเขา(ถึง)เจ็ดสิบครั้ง อัลลอฮฺก็จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขาเป็นอันขาด”
นั่นก็หมายความว่า ...ไม่ว่าท่านนบีจะขออภัยโทษให้พวกเขามากเท่าไรก็ตาม มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร พระองค์ก็จะไม่ทรงอภัยโทษให้ อันเนื่องมาจากว่า พวกเขาปฏิเสธอัลลอฮฺและเราะซูลของพระองค์ “แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนผู้ละเมิด”
นอกจากว่า พวกเขาจะอิสติฆฟาร ขออภัยโทษ เตาบะฮฺ กลับเนื้อกลับตัว โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องทำอย่างอิคลาศต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่ถ้าหากพวกเขาไม่รู้สำนึกตัวเอง อย่างนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็จะไม่ทรงอภัยโทษให้อย่างเด็ดขาด หนำซ้ำ ในโลกอาคิเราะฮฺ ในวันกิยามะฮฺ ผลตอบแทนที่มุนาฟิกใหญ่จะได้รับก็คือ ตกนรกเช่นเดียวกับบรรดากุฟฟาร ผู้ปฏิเสธศรัทธา แถมยังอยู่ในนรกชั้นต่ำสุดอีกด้วย แสดงว่า ได้รับผลตอบแทนเลวร้ายยิ่งกว่าบรรดากุฟฟารเสียอีก
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนิซาอ์ อายะฮฺที่ 145 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
إِنَّ الْمُنَافِقِينَ فِي الدَّرْكِ الْأَسْفَلِ مِنَ النَّارِ وَلَن تَجِدَ لَهُمْ نَصِيرًا
“แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในชั้นต่ำสุดของนรก และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใด ๆ สำหรับพวกเขาเป็นอันขาด”
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย นั่นก็เป็นความร้ายแรงของการเป็นมุนาฟิก ที่ท่านมุฮัมมัด บิน ซีรีน ซึ่งเป็นอุละมาอ์ ท่านยังมีความหวั่นกลัวว่าตัวท่านจะมีลักษณะของมุนาฟิก และแม้แต่บรรดาเคาะลีฟะฮฺ บรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี ต่างก็หวั่นเกรงว่าตัวท่านจะเป็นมุนาฟิกทั้งสิ้น
ดังมีรายงานจากท่านอิบนุ อบีมุลัยกะฮฺ ได้กล่าวว่า
«أَدْرَكْتُ ثَلَاثِيْنَ مِنْ أَصْحَابِ النَّبِيِّ ﷺ ، كُلُّهُمْ يَخَافُ النِّفَاقَ عَلَى نَفْسِهِ، مَا مِنْهُمْ أَحَدٌ يَقُوْلُ إِنَّهُ عَلَى إِيْمَانِ جِبْرِيْلَ وَ مِيْكَائِيْلَ»
“ฉันได้พบกับเศาะฮาบะฮฺ 30 ท่าน ทุกท่านต่างก็หวั่นเกรงว่าตัวเองจะเป็นมุนาฟิก และไม่มีใครเลยที่กล้าพูดว่า ตัวท่านนั้นมีความศรัทธาระดับเดียวกับความศรัทธาของญิบรีลและมีกาอีล”
ขนาดบรรดาเศาะฮาบะฮฺ บรรดาอุละมาอ์ต่างมีความหวั่นเกรงว่าตัวเองจะเป็นมุนาฟิก ดังนั้น อย่างเราๆนี่ยิ่งต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก เพราะผลของการเป็นมุนาฟิกมันร้ายแรงมาก
ฉะนั้น เมื่อเราพูดว่า เราศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺนั้น ก็ขอให้เราพยายามให้มันครบเงื่อนไขทั้งสามประการคือ ศรัทธาด้วยการยึดมั่นด้วยหัวใจ แล้วยืนยันการศรัทธานั้นด้วยคำพูด และยืนหยัดด้วยการปฏิบัติ พร้อมทั้งทำให้สุดกำลังความสามารถของเรา เพื่อเป็นการปกป้องตัวเราให้พ้นจากการเป็นมุนาฟิก
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงคุ้มครองเราทุกคนให้พ้นจากการเป็นมุนาฟิก ขอให้เรารู้เท่าทันลักษณะของมุนาฟิกและได้ปลีกตัวออกห่างจากการปฏิบัติมัน
ขอพระองค์ทรงปกปักรักษาเราให้พ้นจากการเป็นผู้ที่ละเมิดบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ ขอให้เราได้ดำรงตนและปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติศาสนา และเสียชีวิตในฐานะผู้ที่นอบน้อมยอมจำนนต่อพระองค์โดยสิ้นเชิง
( คุฏบะฮฺวันศุกร์มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )