ต้องคืนสิทธิ์กันและกันก่อนเข้าสวรรค์
คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา คือมีความยำเกรงต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความยำเกรงต่อพระองค์ให้เกิดขึ้นในหัวใจของเราให้ได้ โดยการศึกษา แสวงหาความรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติ ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และในขณะเดียวกัน ก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์ และพยายามทำให้สุดกำลังความสามารถของเรา
เพราะเมื่อเรายำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างจริงจังแล้ว จะทำให้เราได้รับชีวิตที่ดีงาม เมื่อเรามีปัญหาในเรื่องอะไร พระองค์ก็จะทรงให้ทางออกแก่เรา จะประทานปัจจัยยังชีพแก่เรา จะทรงลบล้างความชั่วความผิดบาปออกจากตัวเรา จะทรงอภัยโทษให้แก่เรา จะทรงให้เราเป็นผู้ที่รู้จักแยกแยะความจริงกับความเท็จ แท้จริง อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเป็นผู้ทรงโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ในวันกิยามะฮฺ การข้ามสะพานอัศศิรอฏ ซึ่งเป็นสะพานที่ทอดผ่านนรกเพื่อไปสู่สวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น บุคคลที่มีสิทธิจะได้ข้ามสะพานเป็นท่านแรกก็คือ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ..และประชาชาติแรกที่จะได้ข้ามสะพานก็คือ ประชาชาติของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งอย่างเราๆก็ถือว่าเป็นประชาชาติหรือเป็นอุมมะฮฺของท่านนบี
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม รายงานจากท่านอบีหุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
«وَيُضْرَبُ الصِّرَاطُ بَيْنَ ظَهْرَيْ جَهَنَّمَ ، فَأَكُونُ أَنَا وَأُمَّتِي أَوَّلَ مَنْ يُجِيزُ ، وَلَا يَتَكَلَّمُ يَوْمَئِذٍ إِلَّا الرُّسُلُ ، وَدَعْوَى الرُّسُلِ يَوْمَئِذٍ : اللَّهُمَّ سَلِّمْ ، سَلِّمْ»
“และสะพานจะถูกทอดยาวบนนรก ฉันและประชาชาติของฉันจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ข้ามสะพานดังกล่าว
และในวันนั้น จะไม่มีผู้ใดพูดคุยนอกจากบรรดาเราะซูล(ที่จะขอดุอาอ์ให้แก่ประชาชาติของท่าน)
และการขอดุอาอ์ของบรรดาเราะซูลในวันนั้นคือ
اللَّهُمَّ سَلِّمْ ، سَلِّمْ โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงให้ปลอดภัย”
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจะได้ขอดุอาอ์ให้ประชาชาติของท่านได้รับความปลอดภัยในการข้ามสะพาน ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดข้ามสะพานนี้ได้สำเร็จ นอกจากผู้ศรัทธาที่มอบเตาฮีดต่อพระองค์เท่านั้น
เมื่อผู้ศรัทธาได้ข้ามผ่านสะพานอัศศิรอฏสำเร็จแล้ว เขาจะยังไม่ได้เข้าสวรรค์โดยทันที ...แต่จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เรามาดูอัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ รายงานจากท่านอบีสะอี๊ด อัลคุดรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
«يَخْلُصُ المُؤْمِنُونَ مِنَ النَّارِ ، فَيُحْبَسُونَ عَلَى قَنْطَرَةٍ بَيْنَ الجَنَّةِ وَالنَّارِ ، فَيُقَصُّ لِبَعْضِهِمْ مِنْ بَعْضٍ مَظَالِمُ كَانَتْ بَيْنَهُمْ فِي الدُّنْيَا ، حَتَّى إِذَا هُذِّبُوا وَنُقُّوا أُذِنَ لَهُمْ فِي دُخُولِ الجَنَّةِ ، فَوَالَّذِي نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ ، لَأَحَدُهُمْ أَهْدَى بِمَنْزِلِهِ فِي الجَنَّةِ مِنْهُ بِمَنْزِلِهِ كَانَ فِي الدُّنْيَا»
“เมื่อบรรดาผู้ศรัทธาที่รอดพ้นจากไฟนรกแล้ว (ได้รับความปลอดภัยแล้ว) พวกเขาจะถูกกักไว้บนสะพานระหว่างสวรรค์กับนรก (จะยังไม่ได้เข้าสวรรค์ทันที) เพื่อพวกเขาจะได้ชำระสะสางในเรื่องของความขุ่นข้องหมองใจ ในเรื่องของความไม่ยุติธรรมต่างๆ ในเรื่องของความอธรรมต่างๆที่พวกเขามีต่อกันในโลกดุนยา ถูกชำระสะสางในทุกๆเรื่องจนกว่าพวกเขาจะบริสุทธิ์สะอาดปราศจากความผิด
เมื่อพวกเขาถูกชำระสะสางจนสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากความผิดแล้ว พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้
(ท่านนบีได้กล่าวต่อไปว่า) ขอสาบานด้วยผู้ซึ่งชีวิตของมุฮัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า
ชาวสวรรค์แต่ละคนจะรู้จักที่พำนักของเขาในสวรรค์ ดียิ่งกว่ารู้จักบ้านของตัวเองบนโลกดุนยาเสียอีก”
ดังนั้น เราจะต้องถูกทำให้สะอาดบริสุทธิ์ปราศจากความผิดต่างๆจนหมดสิ้นเสียก่อน เราจึงจะมีสิทธิได้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงจัดการเอาสิทธิของผู้ที่ถูกอธรรม คืนให้แก่ผู้ที่ถูกอธรรมเสียก่อน นั่นก็หมายถึงว่า ในโลกดุนยานี้ ใครได้ล่วงเกินใครไว้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทั้งเกียรติยศศักดิ์ศรี นินทาคนโน้นคนนี้ พูดจาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย ตั้งใจทำร้ายร่างกายผู้อื่น ตั้งใจฆ่าผู้อื่นให้ตายโดยไม่มีสาเหตุของบทบัญญัติศาสนา ฉ้อโกงในเรื่องต่างๆ ขโมยปล้นสะดมภ์ ...สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องของบุคคลสองฝ่าย ที่ฝ่ายหนึ่งไปล่วงละเมิดสิทธิ หรือล่วงละเมิดขอบเขตของอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้เขาได้รับความอธรรม ไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งหากเขาไม่ได้รับการจัดการคืนความยุติธรรมให้แก่เขาในโลกดุนยานี้ แน่นอน ในวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็จะทรงจัดการคืนความยุติธรรมให้แก่เขา ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมากสำหรับผู้ที่ก่อความอธรรมอย่างแน่นอน
ดังนั้น ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงได้ทรงให้เราได้ชดใช้สิ่งต่างๆที่เราได้ล่วงละเมิดขอบเขตของผู้อื่นให้หมดสิ้นเสียก่อนตั้งแต่ในโลกดุนยา โดยการขอมะอัฟอย่างจริงใจ และคืนสิทธิ คืนทรัพย์สินต่างๆที่เราได้ไปละเมิดผู้อื่นไว้ ให้หมดสิ้น
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ รายงานจากท่านอบีหุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
: مَنْ كَانتْ عِنْدَه مَظْلمَةٌ لأَخِيهِ مِنْ عِرْضِهِ أَوْ مِنْ شَيْءٍ فَلْيتَحَلَّلْه ِمِنْه الْيَوْمَ قَبْلَ أَلَّا يكُونَ دِينَارٌ وَلَا دِرْهَمٌ، إنْ كَانَ لَهُ عَمَلٌ صَالِحٌ أُخِذَ مِنْهُ بِقَدْرِ مَظْلَمتِهِ، وإنْ لَمْ يَكُنْ لَهُ حسَنَاتٌ أُخِذَ مِنْ سيِّئَاتِ صاحِبِهِ، فَحُمِلَ عَلَيْهِ
“ใครก็ตามที่มีสิทธิติดค้างพี่น้องของเขา ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรี หรือสิ่งใดก็ตามที่เขาได้มันมาโดยอธรรมหรือโดยทุจริต ก็จงสะสางเสียให้เรียบร้อยก่อนที่การชดใช้นั้นมันจะไม่เป็นเงินทอง
โดยที่หากเขามีการงานที่ดี มันก็จะถูกยึดเอาไปจากเขาตามสิ่งที่เขาได้อธรรมไว้ แล้วหากเขาไม่เหลือความดีงามอันใด เขาก็ต้องเอาความชั่วต่าง ๆของผู้ที่ถูกเขาละเมิดนั้นมาแบกไว้กับตัว”
ท่านนบีเตือนเราว่า หากเราติดค้างใครในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็ให้รีบชดใช้ ให้รีบจัดการเสียตั้งแต่ในโลกดุนยานี้ เพราะในวันกิยามะฮฺ เงินทอง ทรัพย์สินอะไรก็ช่วยไม่ได้ แต่เราจะถูกเอาความดีของเราไปมอบให้เขา ไปชดใช้คืนเขา ....แต่ถ้าหากเราไปอธรรมต่อคนอื่นไว้มาก จนความดีที่เราทำ มันไม่พอชดใช้ เราก็ต้องไปแบกรับเอาความชั่วของคนที่เราไปอธรรมต่อเขามาแบกรับแทน ...อย่างนี้ ขาดทุนป่นปี้ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัมลัมบอกว่า คนอย่างนี้เป็นคนล้มละลายในวันกิยามะฮฺ
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม รายงานจากท่านอบีหุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า
ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า "พวกท่านรู้หรือไม่ว่า ใครคือ الْمُفْلِسُ คนล้มละลาย หมดเนื้อหมดตัว?"
พวกเขา(บรรดาเศาะฮาบะฮฺ)ตอบว่า "ผู้ที่ล้มละลายในหมู่พวกเรา คือผู้ที่ไม่มีเงินและไม่มีทรัพย์สิน”
فَقَالَ : إِنَّ الْمُفْلِسَ مِنْ أُمَّتِي يَأْتِي يَوْمَ الْقِيَامَةِ بِصَلاةٍ وَصِيَامٍ وَزَكَاةٍ وَيَأْتِي قَدْ شَتَمَ هَذَا وَقَذَفَ هَذَا وَأَكَلَ مَالَ هَذَا وَسَفَكَ دَمَ هَذَا وَضَرَبَ هَذَا فَيُعْطَى هَذَا مِنْ حَسَنَاتِهِ وَهَذَا مِنْ حَسَنَاتِهِ فَإِنْ فَنِيَتْ حَسَنَاتُهُ قَبْلَ أَنْ يُقْضَى مَا عَلَيْهِ أُخِذَ مِنْ خَطَايَاهُمْ فَطُرِحَتْ عَلَيْهِ ثُمَّ طُرِحَ فِي النَّار
“ดังนั้น (ท่านเราะซูลุลเลาะฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) จึงได้กล่าวว่า ผู้ที่ล้มละลายจากประชาชาติของฉันก็คือ ในวันกิยามะฮฺ เขาจะมาด้วยการมี( อิบาดะฮฺ อะมัลศอลิหฺมากมาย) การละหมาด การถือศีลอด การออกซะกาต...แต่ทว่า เขาเคยด่าว่า เคยนินทาคนนั้น เคยกล่าวหาใส่ร้ายคนนี้ เคยเอาทรัพย์สินของคนนั้นคนนี้(โดยไม่ถูกต้องชอบธรรม) เคยฆ่าคนนี้ เคยทำร้ายคนนั้น ..
ดังนั้น ผู้ที่ล้มละลายก็นั่งลง แล้วบรรดาความดีงามของเขาก็ถูกนำไปให้คนนั้น และบรรดาความดีงามของเขาก็ถูกนำมาให้คนนี้ ..แล้วถ้าหากบรรดาความดีของเขาหมดก่อนความผิดต่างๆที่จะถูกนำมาชดใช้ ...ความผิดต่างๆของคนที่เขาไปอธรรมกับใครก็จะถูกโยนลงมาบนเขา(ให้แบกรับความผิดนั้นไว้แทน) หลังจากนั้นเขาก็ถูกโยนลงในนรก"
นี่ก็คือ ลักษณะของคนที่ล้มละลายในวันกิยามะฮฺตามที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้บอกให้เราทราบ เพื่อให้เราได้ระมัดระวังการดำเนินชีวิตของเรา ในส่วนที่เราต้องไปเกี่ยวข้องกับผู้อื่น เราต้องพยายามระมัดระวังตัวเราไม่ให้ไปล่วงละเมิดขอบเขตสิทธิของผู้อื่นในทุกๆเรื่อง เพราะอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงไม่ปล่อยในเรื่องนี้ พระองค์จะไม่ทรงปล่อยเรื่องของสิทธิระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ..
ซึ่งสิทธิต่างๆระหว่างอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลากับตัวเรา หากเราไปล่วงเกินสิทธิของพระองค์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการทำชิริก พระองค์อาจจะทรงปล่อย อาจจะทรงให้อภัยเรา ไม่ทรงลงโทษเราก็ได้ หากพระองค์ทรงประสงค์...แต่สิทธิระหว่างเรากับเพื่อนมนุษย์ พระองค์จะทรงชำระความ จะทรงชำระสะสางอย่างเข้มงวดรองลงมาจากเรื่องของการทำชิริก หรือการตั้งภาคีต่อพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงปล่อย เพราะคนทุกคนต้องได้รับความยุติธรรมจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ... ก็ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงคุ้มครองเราให้เราได้รอดพ้นจากการเป็นคนล้มละลายในวันกิยามะฮฺ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย สุดท้ายนี้ ขอให้เราได้ตระหนักถึงความตายที่มันจะมาหาเราอย่างกะทันหัน โดยที่เราไม่มีทางรู้เลยว่า ความตายมันจะมาหาเราเมื่อไร ดังนั้น หากเราปรารถนาความตายในสภาพที่เป็นมุสลิม เป็นมุอ์มิน เราต้องดำเนินชีวิตอย่างมุสลิม อย่างมุอ์มิน
บรรดาอุละมาอ์บอกว่า แท้จริง โลกดุนยาเป็นโลกแห่งการกระทำ โลกแห่งการลงทุนลงแรงทำอิบาดะฮฺ ทำอะมัลศอลิหฺต่างๆ ส่วนโลกอาคิเราะฮฺเป็นโลกแห่งการตอบแทน จะไม่มีการกระทำอีกแล้ว ดังนั้นในโลกดุนยานี้ เราจงทำให้เต็มที่ ทำให้เต็มกำลังความสามารถของเราในการที่จะดำรงตนให้เป็นผู้ศรัทธาที่มอบเตาฮีดแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น และปฏิบัติตามคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของพระองค์อย่างจริงใจ ในขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินรอยตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม เพื่อที่ในวันกิยามะฮฺ เราจะได้รอดพ้นจากการถูกลงโทษในไฟนรก และได้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างรวดเร็ว
คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดดารุลอิหฺซาน