ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ในอัลกุรอาน
  จำนวนคนเข้าชม  15134


ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ในอัลกุรอาน

 

โดย บินติ กะม๊าล

 

          พี่น้องผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย สรรพสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงบังเกิดในโลกนี้ ล้วนแต่แซ่ซ้องสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพียงแต่ว่า มนุษย์ไม่เข้าใจภาษาของพวกเขาเหล่านั้น เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ภูเขา และบรรดาสัตว์ต่างๆ แน่นอน สรรพสิ่งทั้งหมด จะก้มคารวะ (สุญูด) ต่ออัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ต้นไม่ที่ให้ร่มเงา และกิ่งไม้ที่โน้มเอนไปมาของมัน นั่นก็คือ การก้มสุญูด การคารวะพระองค์

 

และดวงดาวและต้นไม้ ทั้งสองนั้น ต่างก็จะก้มสุญูดต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

(อัรเราะฮฺมาน 55 : 6)

 

          หากเราพิจารณาดูคำว่าชะญะเราะฮฺ” (ต้นไม้) ที่ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน เราจะพบว่า ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ให้ความร่มรื่น ให้ความสดชื่น ให้ออกซิเจนอากาศที่บริสุทธิ์ และให้ประโยชน์มากมายแก่สรรพสิ่งในดุนยานี้ ต้นไม้ยังให้ข้อคิด อุทาหรณ์ ข้อเตือนสติแก่เราได้เป็นอย่างดี ดั่งเช่นต้นไม้ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงเปรียบเปรยไว้ในอัลกุรอานของพระองค์ ดังนี้

 

1. ต้นไม้แห่งการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 

 

     อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงยกอุทาหรณ์เปรียบเทียบคำพูดที่ดีประดุจดั่งต้นไม้ที่ดี

เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า อัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์ไว้ว่า

อุปมาคำพูดที่ดี อุปไมยดั่งต้นไม้ที่ดี รากของมันฝังแน่นมั่นคง และกิ่งก้านของมันชูขึ้นไปในท้องฟ้า

(อิบรอฮีม 14 : 24)

     คำพูดที่ดี หมายถึง คำพูดที่แสดงถึงการให้อัลลอฮฺเพียงองค์เดียวทรงเป็นพระเจ้าในสากลจักรวาล และการเชิญชวนสู่อิสลาม

 

     ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อับบ๊าส อธิบายว่าคำพูดที่ดี ที่นี้ คือ คำว่า (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) ส่วนต้นไม้ที่ดี คือ ต้นอินทผลัม

     (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) คำพูดแห่งศรัทธา อุปไมยดั่งต้นไม้ที่ดีที่รากแก้วของมันจะหยั่งลึกมั่นคง และกิ่งก้านของมันก็แผ่ขึ้นไปยังท้องฟ้า ใบของมันจะไม่ร่วงหล่น แล้วผลของมันจะเป็นเช่นใด? นอกจากมันจะให้ผลอย่างต่อเนื่องทุกฤดูกาล ทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน ผลของมันสามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร รับประทานได้ทั้งสุกและดิบ หรือเป็นยารักษาโรค 

     ต้นไม้นี้เปรียบได้ดั่งผู้ศรัทธา ที่ยึดมั่นต่ออัลลอฮฺอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเกิดมรสุมชีวิตอย่างไร เขาก็พึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา 

     ต้นไม้ต้นนี้ หากรดน้ำพรวนดินด้วยความรู้ทางวิชาการและมีศรัทธา (อีมาน) อันแน่นแฟ้น ก็จะเป็นพันธุ์ไม้ที่ดีมีคุณภาพ เจริญเติบโตเบ่งบานอย่างเต็มที่ แน่นอนเหลือเกินว่าผลผลิตที่ได้นั่นก็คือ การปฏิบัติอิบาดะฮฺที่ดี (อะมัล ซอลิฮฺ) ที่มีคุณภาพ ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ และต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือ ต้นอินทผลัม ตามที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เปรียบเปรยไว้

 

     ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

     “แท้จริง มีต้นไม้ที่ใบของมันนั้นไม่ร่วงหล่น ต้นไม้ต้นนี้เปรียบได้กับมุสลิม ท่านทั้งหลายบอกให้ฉันทราบทีซิว่า ต้นไม้ที่ว่านี้คือ ต้นอะไร

     ท่านอับดุลลอฮฺ เล่าต่อว่า ผู้คนต่างคิดกันถึงต้นไม้ที่อยู่ตามหุบเขา ส่วนฉันก็คิดอยู่ในใจว่า คงจะเป็นต้นอินทผลัม แต่ฉันเขินอายที่จะบอก ภายหลังจากนั้น พวกเขาจึงขอให้ท่านนบีเฉลยให้ทราบ 

     ท่านนบีจึงพูดว่า ต้นไม้นั้นคือ ต้นอินทผลัม

 

2. คำพูดที่ชั่วร้าย ประดุจดั่งต้นไม้ที่เลว ไม่ดี 

 

และอุปมาคำพูดที่เลว อุปไมยดั่งต้นไม้ที่อับเฉา ถูกถอนรากออกจากพื้นดิน มันไม่มีความมั่นคงเลย

(อิบรอฮีม 14 : 26)

          คำพูดที่เลวร้ายนั้น ก็คือ คำพูดที่แสดงถึงการปฏิเสธ และการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อุปไมยดั่งต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งหมายถึง ต้นไม้ที่ผลของมันมีรสขม มีกลิ่นเหม็น (ฮันซอละฮฺ) ที่งอกออกมาจากดินที่ไม่ดี และผลของมันก็ไร้ประโยชน์ ออกผลมาอย่างไร้ค่า รากแก้วของมันก็ไม่มั่นคง ไม่ยึดติดกับดิน โอนไปเอนมา และต้นไม้ที่เหี่ยวเฉานี้ ก็คือ ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ผู้ที่ดื้อดึง ไม่ยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ ผลิตผลของมันเปรียบได้ดั่งการงานที่ชั่วช้าเลวทราม ไม่มีความดีใดๆ

 

3. ต้นไม้แห่งการทดสอบ 

 

          ต้นไม้นี้ เป็นที่มาของบททดสอบผู้เป็นบิดา-มารดาของเรา นั่นก็คือ นบีอาดัม และพระนางฮาวา ซึ่งอัลลอฮฺ ทรงทดสอบจิตใจของท่านทั้งสอง อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

     “และเราได้กล่าวว่า โอ้ อาดัม เจ้าและคู่ครองของเจ้า จงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิด และเจ้าทั้งสอง จงบริโภคจากสวนสวรรค์นั้นอย่างกว้างขวาง ตามที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และเจ้าทั้งสองจงอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้ มิฉะนั้น จะกลายเป็นผู้อธรรมต่อตัวเอง

(อัลบะกอเราะฮฺ 2 : 35)

 

          ต้นไม้นี้ คือ ต้นไม้ที่ทดสอบจิตใจนบีอาดัมว่าจะมั่นคงในคำสั่งใช้ คำสั่งห้ามของพระองค์หรือไม่? โดยที่พระองค์ทรงไม่ให้เข้าใกล้ และห้ามรับประทานผลของต้นไม้ และแล้วอิบลีสก็สามารถล่อลวงท่านนบีอาดัมและฮาวาให้รับประทานผลไม้จากต้นไม้ต้นนั้นจนได้ ซึ่งมันล่อลวงว่า ใครที่ได้กินผลไม้จากต้นนี้แล้วจะอยู่ยงคงกระพันมีชีวิตนิรันดร

 

     เราได้บทเรียนอะไรจากต้นไม้ต้นนี้ ...

♦ อัลลอฮฺทรงอนุมัติให้เราแต่งงาน (นิกะฮฺ) อย่างถูกต้องตามแบบอิสลาม แต่พระองค์ทรงห้ามการทำซินา 

♦ อัลลอฮฺทรงอนุมัติให้เราทำการค้าขายแสวงหาผลกำไรได้ แต่พระองค์ทรงห้ามการกินดอกเบี้ย 

♦ อัลลอฮฺทรงให้เราดื่มน้ำคั้นที่ทำมาจากผลไม้ได้ แต่พระองค์ก็ทรงห้าม การดื่มน้ำผลไม้ที่ผ่านการหมักดอง การบ่มจนเป็นสุรา 

     พระองค์ทรงห้ามสิ่งเดียวจากสิ่งที่ฮะลาลหลายๆ สิ่ง เพียงเพื่อทดสอบเราว่า จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งใช้และปลีกตัวออกห่างจากคำสั่งห้ามหรือไม่?

     พี่น้องผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องฝืนใจต่อสู้กับชัยฏอนมารร้าย และหันกลับมาเชื่อฟังพระองค์

 

4. ต้นไม้แห่งแสงสว่างนำทาง 

 

          อัลลอฮฺทรงยกอุปมาแสงสว่างในความสะอาดบริสุทธิ์ที่ออกมาจากต้นไม้แห่งความจำเริญ อัลลอฮฺทรงให้แสงสว่างทางนำและความเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยที่พระองค์ทรงเปรียบเทียบรัศมีของพระองค์ในซูเราะฮฺ อันนูร ที่ว่า

 

อัลลอฮฺทรงคือดวงประทีปแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน อุปมาดวงประทีปของพระองค์ อุปไมยดั่งช่องตามผนังที่มีตะเกียง 

ตะเกียงนั้นอยู่ในโคมก้าว โคมแก้วเป็นเสมือนดวงดาวที่ประกายแสง ถูกจุดจากน้ำมันของต้นไม้ที่มีความจำเริญ คือ ต้นมะกอก 

มันมิได้อยู่ทางตะวันออก และมิได้อยู่ทางตะวันตก น้ำมันของมันแทบประกายแสงออกมา แม้นว่าไฟมิได้ไปกระทบกับมัน 

ดวงประทีปซ้อนดวงประทีป อัลลอฮฺทรงนำทางด้วยดวงประทีปของพระองค์ แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ 

และอัลลอฮฺทรงยกอุทาหรณ์ทั้งหลายนี้เพื่อมนุษยชาติ และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง

(อันนูร 24 : 35)

          แสงแห่งทางนำ แสงแห่งความรอบรู้ แสงแห่งการศรัทธาที่พระองค์ทรงประทานให้แก่จิตใจของ ผู้ศรัทธา เป็นแสงแห่งความบริสุทธิ์ เป็นรัศมีที่มาจากอัลลอฮฺ

          แสงอันบริสุทธิ์นี้ พวยพุ่งออกมาจากต้นไม้แห่งความจำเริญ ซึ่งมีผู้กล่าวว่า ต้นไม้นี้ เป็นต้นแรกที่งอกออกมาจากพื้นดิน หลังจากเกิดน้ำท่วมในสมัยของนบีนู๊วฮฺ อะลัยฮิสลาม นับได้ว่าเป็นความเมตตา ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

          โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจเหล่าข้าพระองค์สว่างไสวไปด้วยการศรัทธา และความมั่นใจในพระองค์ด้วยเถิด ขอได้โปรดให้จิตใจข้าพระองค์ ฝังแน่นอยู่บนสัจธรรมอย่างชัดเจน โอ้ ผู้ทรงกระชับหัวใจ ได้โปรดกระชับหัวใจข้าพระองค์ ให้มั่นคงอยู่ในศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด

 

5. ต้นไม้แห่งความเมตตา กรุณา ความโปรดปราน 

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้เล่าให้ฟัง ถึงบ่าวของพระองค์ได้หนีออกจากกลุ่มชนของเขา โดยไม่ได้ขออนุญาตพระองค์ก่อน เขาได้ไปยังเรือที่บรรทุกผู้คนเต็มลำ เมื่อเรือออกไปกลางทะเล ได้เผชิญกับลมพายุและคลื่นใหญ่ เขาก็ได้เข้าร่วมในการจับฉลาก เพื่อให้เรือรอดจากการจมน้ำ แล้วฉลากก็ตกมาอยู่ที่เขา เขาจึงถูกโยนลงทะเล แล้วปลาใหญ่ได้กลืนเขาเข้าไปในท้อง ภายหลังจากนั้นบ่าวของพระองค์ได้สำนึกผิดในการกระทำของตน และได้วิงวอนขอต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่า

     “ไม่มีพระเจ้าที่ควรเคารพอย่างแท้จริง นอกจากพระองค์มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ แท้จริง ข้าพระองค์เป็นหนึ่งในหมู่ผู้อธรรมข่มเหงต่อตนเอง

 

คำวิงวอนนี้เองที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงเมตตาต่อบ่าวของพระองค์ โดยตรัสว่า

     “แล้วเราได้เหวี่ยงเขาขึ้นบนที่โล่งริมฝั่งในสภาพที่ป่วย และเราได้ให้มีพันธุ์ไม้เลื้อยเป็นต้นน้ำเต้า ที่งอกขึ้นปกคลุมตัวเขา

(อัศศ็อฟฟ๊าต 37 : 145-146)

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงให้ต้นไม้งอกเงยขึ้น เพื่อช่วยเหลือบ่าว (นบี) ของพระองค์ เพราะเขาจมอยู่กับความมืดมิดทั้งสาม ความมืดในยามกลางคืน ความมืดของท้องทะเล และความมืดที่อยู่ในท้องปลาใหญ่เป็นเวลานาน เขาออกมาจากท้องปลาในสภาพที่อ่อนแอ หิวโหย เหน็ดเหนื่อยและเจ็บป่วย เขาคือ นบียูนุส ผู้ซึ่งปลาได้คายเขาออกมาจากท้อง โดยที่ไม่สามารถจะขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย ทว่าด้วยความเมตตาจากอัลลอฮฺ พระองค์ทรงให้มีต้นไม้ (คล้ายต้นน้ำเต้าหรือต้นฟักทอง ที่ใบของมันใหญ่ นิ่ม งอกออกมาปกคลุมตัวให้ร่มเงาบดบัง และยังให้กินผลของมันได้สดๆ และกินได้ทั้งเปลือกและเมล็ด)

 

          อิบนุ เญาว์ซีย์ กล่าวว่า ต้นน้ำเต้ามีใบใหญ่ให้ความร่มรื่น แมลงวันไม่เข้าใกล้ต้นไม้ชนิดนี้ เพราะเนื้อของยุนุสนั้น เมื่อขึ้นมาจากทะเลแล้ว แมลงวันไม่อาจจะทนได้แน่นอน แต่ทั้งนี้ ด้วยความเอ็นดูเมตตา และการจัดเตรียมของอัลลอฮฺ เมื่อเขามีร่างกายแข็งแรงดีแล้ว อัลลอฮฺก็ได้ให้เขากลับไปหากลุ่มชนของเขา

           จงพิจารณาดูเถิด แล้วผลไม้อื่นๆ อีกเล่า อินทผลัม มะกอก มะเดื่อ ทับทิม ทั้งที่มีความคล้ายคลึงกันและไม่คล้ายกัน ทั้งรสชาติ สีสัน กินแบบสุก แบบดิบ แตกต่างกันไป เราจะเห็นได้ว่า ผลไม้มีหลากหลาย ซึ่งพระองค์ประทานมาให้เป็นริสกีปัจจัยยังชีพแก่ปวงบ่าวของพระองค์ ท่านทั้งหลายจงกตัญญูขอบคุณต่ออัลลอฮฺในสิ่งที่พระองค์ประทานให้เถิด

 

6. ต้นไม้ที่บรรดาสาวกได้ให้สัตยาบันแก่นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าจะยอมตายในแนวทางของอัลลอฮฺ ในสัญญาสงบศึก ฮุดัยบียะฮฺ 

 

      ซึ่งพระองค์ได้ตรัสชมเชย การให้สัตยาบันครั้งยิ่งใหญ่นี้ ในซูเราะฮฺ อัลฟัตฮฺ

     “แท้จริง อัลลออฺทรงพอพระทัยต่อบรรดาผู้ศรัทธา ขณะที่พวกเขาให้สัตยาบันแก่เจ้า ใต้ต้นไม้ (ที่ฮุดัยบียะฮฺ) เพราะพระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเขา แล้วพระองค์ประทานความสงบใจ (อัสสะกีนะฮฺ) ลงมาให้พวกเขา และได้ทรงตอบแทนชัยชนะอันใกล้นี้ ให้แก่เขา

(อัลฟัตฮฺ 48 : 18)

          คือ อัลลอฮฺทรงพอพระทัยต่อบรรดาผู้ศรัทธา จำนวน 1,400 คน ซึ่งทำสัตยาบันกับท่านนบีใต้ต้นไม้ ฮุดัยบียะฮฺ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปลอบใจบรรดาผู้ศรัทธาเหล่านั้น หลังจากพวกเขาไม่มีโอกาสได้เข้านครมักกะฮฺเพื่อทำอุมเราะฮฺในปีนั้น โดยพวกกุเรชมักกะฮฺ ขอทำสัญญาสงบศึก โดยสัญญานั้น จะให้ท่านนบีกับบรรดาผู้ศรัทธา เข้านครมักกะฮฺในปีถัดไป และให้พวกเขาได้รับทรัพย์เชลยอันมากมายในการพิชิตเมืองคอยบัร

          ต้นไม้ที่ว่านี้ ได้เป็นสักขีพยานในสถานที่ที่มีการให้สัตยาบันอันยิ่งใหญ่ เพื่อย้ำเตือนให้เรานึกถึงการให้สัตยาบันต่ออัลลอฮฺ และให้คำมั่นสัญญาต่อพระองค์ว่า จะเชื่อฟังพระองค์ ไม่ฝ่าฝืนคำสั่งใช้ของพระองค์ และให้คำมั่นว่า จะให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น และจะไม่นำสิ่งใดมาตั้งภาคีร่วมกับพระองค์

 

7. ต้นซิร่อตุ้ลมุนตะฮา” 

 

     ต้นไม้นี้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานเพียงครั้งเดียว อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

     “และโดยแน่นอน เขาได้เห็นญิบรีลในการลงมาอีกครั้งหนึ่ง (ในรูปแบบของมลาอิกะฮฺ ชั้นฟ้าชั้นที่ 7 อันเป็นที่พำนักของบรรดามลาอิกะฮฺทั้งหลาย) ที่ต้นพุทราอันไกลโพ้น ที่นั้น คือ สวนสวรรค์อันเป็นที่พำนัก (ขณะนั้น) สิ่งที่ปกคลุม (แสงประกาย) ได้ปกคลุมต้นพุทรา

(อันนัจญ์มฺ 53 : 13-16)

     ท่านอัลมาวัรดี้ กล่าวว่าหากมีคนถามว่า ทำไมต้นซิดรฺจึงถูกเลือก ทั้งๆ ที่มีต้นไม้อีกหลายชนิดอัซซิดรฺมีลักษณะพิเศษ 3 ประการ ด้วยกันคือ

   1. ให้ความร่มรื่น

   2. รสชาติอร่อย

   3. ผลของมันมีกลิ่นหอม ซึ่งเปรียบได้กับการศรัทธาที่ครอบคลุมคำพูด การกระทำ และการมีเหนียต (เจตนาดี) ไว้ด้วยกัน

- ร่มเงาของต้นไม้ที่ได้จากการศรัทธา จะอยู่ในสถานะของการกระทำ

- รสชาติของมัน จะอยู่ในสถานะของการตั้งเจตนาที่ซ่อนอยู่ในใจ

- ส่วนกลิ่นหอมของมัน จะอยู่ในสถานะของคำพูดที่เปล่งออกมา

     เมื่อครั้งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ถูกนำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้า (คืน อิสร็ออฺและเมี๊ยะอฺร็อจญ์ ได้ไปพบกับบรรดานบีแต่ละชั้นฟ้า และได้รับบัญญัติการละหมาดจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา) ท่านได้เล่าว่า

     “...เขา (ญิบรีล) ก็พาฉันไปจนกระทั่งมาถึงต้นซิดร่อตุล มุนตะฮา (ต้นพุทราที่เป็นจุดรวบรวม การงานของมวลมนุษย์ ซึ่งรากแก้วและลำต้นของมัน อยู่ในท้องฟ้าชั้นที่หก แต่แตกกิ่งก้านปกคลุมไปจนถึงท้องฟ้าชั้นที่เจ็ด) แล้วก็ปรากฏสีขาวสว่างจ้าปกคลุมอยู่ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จะบอกลักษณะได้ว่ามันสวยงามอย่างไร จากนั้น ฉันได้ถูกนำเข้าไปในสวรรค์ ซึ่งได้พบว่าในสวรรค์ มีโดมไข่มุกกลมๆ สูงตระหง่านและ ได้พบว่าพื้นดินของมันนั้น คือน้ำหอมชะมดเชียง

 

8. ต้นไม้ที่ทำให้ผู้คนหลงผิด 

 

          ต้นไม้ที่ผู้ปฏิเสธเคารพสักการะนอกเหนือจากอัลลอฮฺ พวกเขานำต้นไม้ สิ่งปลูกสร้างมาเคารพเคียงคู่กับพระองค์ จนกลายเป็นการทำชิริก นำมาซึ่งความหายนะของอัซฮาบุลอัยกะฮฺได้เคารพต้นไม้ใหญ่ จนทำให้พวกเขาปฏิเสธต่อร่อซูล (นบีชุอัยบฺ) ที่ถูกส่งมา 

           เช่นเดียวกับพวกบูชาเจว็ดในโลกนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็เคารพต้นไม้ หิน และบรรพบุรุษของเขา แน่นอน ต้นไม้ หิน และบรรพบุรุษของเขา จะให้ความจำเริญแก่พวกเขาได้ไหม? ไม่เลย ความจำเริญมาจากอัลลอฮฺเท่านั้น อัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ที่เป็นแหล่งที่มาของความสิริมงคล

 

9. ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่ง 

 

          ต้นไม้แห่งการลงโทษ อัลลอฮฺทรงสร้างต้นไม้ในนรกญะฮันนัม ซึ่งผลของมันเป็นอาหารของชาวนรกที่บาปหนา เมื่อพวกเขาหิวโหย เขาจะกินต้นไม้และผลของมัน อบูญะฮฺล ก็เป็นชาวนรกคนหนึ่งที่จะได้กินต้นไม้นี้เป็นอาหาร

     อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

     “แท้จริง ต้นซักกูมนั้น เป็นอาหารของผู้ที่กระทำบาป เช่นทองแดงที่ถูกหลอมละลายเดือดพล่าน มันจะเดือดพล่านอยู่ในท้อง เช่น การเดือดพล่านของน้ำร้อน

(อัดดุคอน 44 : 43-46)

     อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสอีกว่า

     “แท้จริง เราได้จัดมัน (ต้นซักกูม) ไว้เพื่อเป็นการทดสอบแก่บรรดาผู้อธรรมแล้ว แท้จริง มันเป็นต้นไม้ที่ออกมาจากก้นบึ้งของนรก ผลของมันคล้ายกับหัวของชัยฏอน แล้วพวกเขาจะกินมัน และพวกเขาจะเติมให้เต็มท้อง

(อัศศ็อฟฟ๊าต 37 : 63-66)

     และยังมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีปรากฏในอัลกุรอาน แต่ก็อดที่จะเขียนไว้ ที่นี้ไม่ได้ นั่นก็คือ ต้นฆ็อรก็อด

     “ฆ็อรก็อดคือ ต้นไม้ที่ให้ที่หลบซ่อนแก่พวกยิว ก่อนวันกิยามะฮฺ ซึ่งมีรายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

     “วันกิยามะฮฺจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าบรรดามุสลิมจะไล่ฆ่าพวกยิวเสียก่อน แล้วพวกยิวก็จะหลบอยู่ที่โขดหินและต้นไม้ ต้นไม้ทุกต้นจะพูดว่ามุสลิมเอ๋ย บ่าวของอัลลอฮฺเอ๋ย ยิวหลบอยู่ข้างหลังฉันนี่ มาสิ มาฆ่าเขาเลยมีต้นฆ็อรก็อดเพียงต้นเดียวเท่านั้นที่ไม่พูดอะไร เพราะว่าเป็นต้นไม้ของยิว

     ต้นฆ็อรก็อดนี้ เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีหนาม อิมาม นะวะวีย์ กล่าวว่า ต้นฆ็อรก็อด เป็นต้นไม้ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองเยรูซาเล็ม ประเทศปาเลสไตน์ ขออัลลอฮฺ ทรงรังเกียจผู้ที่ซ่อนตัวหลังต้นไม้ฆ็อรก็อดด้วยเถิด

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย มาถึงตรงนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็คงตระหนักแล้วว่า ต้นไม้แต่ละชนิดก็ย่อมให้ผลแตกต่างกันไป มีทั้งดี ไม่ดี มีทั้งคุณประโยชน์ และมีพิษภัย ก็สุดแท้แต่ว่าหัวใจของผู้อ่านจะเลือกเป็นพันธุ์ไม้ประเภทไหน ที่จะให้ความร่มรื่นร่มเย็นแก่ผู้ที่มาพักอาศัยใต้ร่มเงาต้นไม้ ตามที่อัลลอฮฺทรงเปรียบเปรยไว้ในอัลกุรอานของพระองค์

 

 

ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร 16 มกราคม 2559