เตือนสติ เพื่อทบทวน
โดย อิบนุ อัลลัยลฺ
การกำเนิดขึ้นของจักรวาล โลก และมนุษย์นั้น คิดว่าหลายท่านคงจะเคยได้ทราบหรือเคยศึกษากันมาบ้างแล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะมีผู้ที่สนใจในเรื่องนี้อยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจอยากรู้ของมนุษย์ มานับตั้งแต่ยุคโบราณ
มนุษย์ต่างตั้งข้อสงสัยและพยายามแสวงหาคำตอบ เพื่อให้ทราบว่า จุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งคืออะไร โลกเกิดขึ้นได้อย่างไร ตัวเรามาจากไหน ใครเป็นมนุษย์คนแรก จนกระทั่งบัดนี้ มนุษย์ก็ยังไม่รู้แน่ชัดถึงความเป็นจริงของคำตอบต่างๆ ที่ตนสงสัยมาช้านาน ทุกอย่างที่มนุษย์ได้คำตอบ ย่อมอยู่ในอัลกุรอานทั้งหมดแล้ว การสงสัยของมนุษย์เลยเป็นเหตุให้เขาต้องออกนอกแนวทางของ ผู้ทรงสร้างพวกเขามา
อัลลอฮฺผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง และทรงให้บรรดาบ่าวของพระองค์ ได้มีชีวิตอยู่ในโลกดุนยานี้ เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์ โลกดุนยานี้เป็นเพียงแค่ทางผ่านของบรรดาบ่าวผู้ภักดี ผ่านมาเพื่อเตรียมเสบียงแห่งความดีต่างๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนในโลกหน้า นั่นก็คือ โลกอาคิเราะฮฺ
แน่นอน ปัจจุบันนี้ มีผู้ที่ได้หันเหออกจากแนวทางที่ถูกต้อง เนื่องมาจากว่า หลักการเชื่อมั่นของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกันออกไป บางคนออกนอกแนวทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บางคนอุตริทำสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเอง โดยไม่มีแบบแผนที่มาจากศาสนา บางคนก็ยังงมงายกับเรื่องเล่าต่างๆ โดยที่ไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอาน หรืออัลฮะดิษ จะอย่างไรก็ตาม หลักการสำคัญที่สุดในการมีมนุษย์บนโลกดุนยานี้ก็มิใช่อื่นใด ซึ่งพวกเราและท่านก็ทราบกันดี นั่นก็คือ เพื่อให้เราและท่านนั้น ทำการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า
“และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์ขึ้นมาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า”
(อัซซาริยาต 51 : 56)
จากอายะฮฺดังกล่าว บอกไว้อย่างชัดเจนเลยว่า การมีอยู่ของมนุษย์ และสรรพสิ่งต่างๆ นั้น ย่อมมีที่มาที่ไป มีการสร้างเรามาเพื่อให้เราเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ แต่ไฉนเล่า มนุษย์กลับทำตรงกันข้ามกับคำดำรัสของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์เป็นผู้ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งการนึกคิดของมนุษย์ทุกคน
วันและเวลาหมุนเวียนไปไวมาก จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี อายุของเราและท่านก็เพิ่มขึ้น มันถึงเวลาแล้วที่ควรจะไตร่ตรองดูว่า ตัวเลขที่ผ่านมา เราและท่านได้อะไรจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา หลายต่อหลายคน อาจจะไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่า แต่ละวันที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง? สิ่งที่ทำ ลงไปนั้น ผลที่ได้รับเป็นอย่างไร? คนที่เขาทำงานตามบริษัท หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาเอง ฯลฯ
บางคนเขาไม่เคยที่จะคิดถึงเรื่องราวที่เขาได้กระทำมา จนมาถึงวาระสุดท้าย นั่นก็คือ ลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาพึ่งจะคิดได้ว่า ควรที่จะทำละหมาด ควรที่จะถือศีลอด ควรที่จะบริจาค ควรที่จะทำการซิกรุลลอฮฺให้มากๆ ซึ่งมันอาจจะสายเกินไปหรือไม่ กับการที่เขาใช้เวลาให้หมดไปโดยขาดทุน
สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด เพียงแค่อยากจะเตือนสติให้เราและท่านทั้งหลาย คอยสำรวจตัวเราเอง เราพร้อมแล้วหรือยังที่จะกลับไปหาอัลลอฮฺ ? ถ้าเราพร้อม แล้วอะไรเล่า? คือผลงานที่จะไปแสดงให้เห็นว่า เรานั้นเป็นบ่าวที่ดี เป็นบ่าวที่ไม่ได้หันหลังให้กับผู้ทรงสร้างเราขึ้นมา ไม่ได้หันหลังให้กับผู้ที่เป็นศาสนทูตของผู้สร้าง นั่นก็คือ นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
นักเรียนมีหน้าที่ต้องเรียน ครูเองมีหน้าที่ต้องสอน พ่อแม่มีหน้าที่ทำงานและดูแลลูก ฯลฯ แต่ปัจจุบัน ทำไมสิ่งต่างๆ ตรงข้ามกันไปหมด การศึกษากำลังจะหายจากไป แต่สื่อออนไลน์ของสังคมจอมปลอมกำลังแพร่ระบาดในโลกดุนยานี้ เพราะบางคนมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมัน จนลืมการทำอิบาดะฮฺ ถ้าเปรียบสมัยท่านนบี บรรดาซอฮาบะฮฺ ไม่เคยคิดที่จะออกนอกกรอบศาสนาเลย แต่มายุคนี้ ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก ที่บางคนออกนอกกรอบศาสนา จนไม่สามารถที่จะดึงเขากลับมาได้เลย
มีฮะดิษที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ฉันถูกสั่งใช้ให้ทำการต่อสู้กับประชาชน จนกว่าพวกเขาจะปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และท่านนบีมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์
และพวกเขาดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจ่ายซะกาต เมื่อพวกเขาทำสิ่งดังกล่าวแล้ว เขาจะได้รับการคุ้มครองจากฉัน ซึ่งเลือดเนื้อของพวกเขา และทรัพย์สินของพวกเขา ยกเว้นแต่สิทธิของอัลอิสลาม และการสอบสวนของพวกเขา ขึ้นอยู่กับอัลลอฮฺผู้ ทรงสูงส่ง”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
คำล่าวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ข้างต้นนี้ บอกอย่างละเอียด ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ต้องสู้รบกับประชาชน เพื่อให้พวกเขาหันมาปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ การที่เราจะกล่าวคำนี้ออกมานั้นไม่ยากเลย ง่ายมากๆ แต่ทว่า กล่าวด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่สงสัย ไม่ข้องใจอะไรนี้มันยากนัก
เมื่อเราปฏิญาณตนเสร็จแล้ว ก็ต้องดำรงไว้ซึ่งการละหมาด นั่นคือ เสาหลัก ที่เราต้องทำวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลา รวมแล้ว 17 ร็อกอัต ถามว่าเราทำกันครบสมบูรณ์กันหรือเปล่า? คำตอบก็จะต้องแตกต่างกันไป บางคนครบ บางคนขาดบ้าง อย่าลืมว่าในวันนั้น สิ่งแรกที่มนุษย์เราจะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮฺ อันดับแรก คือ การละหมาดของเขา
“แท้จริง สิ่งแรกที่มนุษย์จะถูกสอบถามในวันกิยามะฮฺจากการงานของพวกเขาก็คือ การละหมาด
พระเจ้าของเราจะตรัสกับมลาอิกะฮฺ ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงรู้ดียิ่งว่า เขาทำไว้อย่างสมบูรณ์หรือบกพร่องประการใด
หากว่าการละหมาดของเขาสมบูรณ์ ก็จะถูกบันทึกให้เขาอย่างสมบูรณ์
และหากว่าการละหมาดของเขาบกพร่องไปบ้าง
พระองค์ก็ตรัสว่า พวกเจ้า (มลาอิกะฮฺ) จงดูสิว่า สำหรับบ่าวของข้าคนนี้ มีละหมาดซุนนะฮฺบ้างไหม?
หากว่าเขามีละหมาดซุนนะฮฺ ก็จงทำให้การละหมาดฟัรฎูของบ่าวผู้นี้สมบูรณ์ด้วยการละหมาดซุนนะฮฺของเขา
แล้วกิจการงานอื่นๆ ก็จะถูกสอบสวนในทำนองนี้”
(บันทึกโดย อบูดาวูด อันนะซาอีย์ และอัตติรมิซีย์)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่ขอให้เราและท่านได้ไตร่ตรองสักนิดว่า สิ่งที่ทำกันอยู่นี้ เพียงพอแล้วหรือกับการการที่จะเอาผลงานไปยื่นให้กับพระผู้ทรงสร้างเรามา เพียงพอแล้วหรือกับการจะเอาไปแลกเปลี่ยนให้ได้มาซึ่งสวนสวรรค์อันงดงาม ซึ่งใครๆ ก็หวังที่จะเข้าไปอยู่อย่างสุขสบาย ตอนนี้ถือว่ายังไม่สายเกินไปที่จะกลับมาประกอบคุณงามความดี ดังนั้น ความดีทำไม่ยากและไม่ง่าย แต่เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
การกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยกับความบริสุทธิ์ใจนั้น จะทำให้มีความจำเริญ และแสดงให้รู้ถึงว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เราปรารถนาอยากได้สิ่งนั้นจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งทำและการเป็นมุสลิมที่ดีนั้น คือ การที่เขาทบทวนตัวเขาเองอยู่เสมอๆ ว่าแต่ละวันที่เขาได้ใช้ชีวิตผ่านมานั้นได้รับประโยชน์อะไรไปบ้าง ?
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เพียงแค่อยากให้ทุกๆ คน ได้ทบทวนสิ่งที่เราได้กระทำมา และอยากให้เราเติบโตไปพร้อมกับการปลูกฝังในคำว่า “อัลอิสลาม” ทุกคำสอนหรือการตักเตือนนั้นจะเป็นข้อคิดให้กับผู้ที่จิตใจของเขาไม่แข็งกระด้าง และความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ก็จะไม่เกิดขึ้นกับเพื่อนพ้องของเขา และสิ่งที่จะตามมา นั่นก็คือ สวนสวรรค์อันสถาพร อินชาอัลลอฮฺ
ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร 16 มกราคม 2559
