เมื่อมีสุข ต้องขอบคุณ เมื่อมีทุกข์ ต้องอดทน
โดย .. อาจารย์ซัยนุ้ลอาบีดีน หวังภักดี
قال تعالى : { وَاسْتَعِيْنُوْا بِالصَّبْرِ وَالصَّلاَةِ وَإِنَّهَا لَكَبِيْرَةٌ إِلاَّ عَلَى الْخَاشِعِيْنَ }
" พวกเจ้าจงหันเข้าหาความอดทนและการละหมาด เพราะการอดทนและการละหมาดนั้น เป็นหน้าที่ที่หนัก ยากแก่การปฏิบัติ เว้นแต่เหล่าชนที่มีความยำเกรง (ยอมอยู่ใต้อำนาจของพระผู้เป็นเจ้า) "
ท่านผู้มีเกียรติที่รัก
ในชีวิตความเป็นอยู่ของเราในโลกนี้นั้น ในบางช่วงบางขณะในช่วงหนึ่งของชีวิต มักเต็มไปด้วยความตกต่ำ เต็มไปด้วยความยากลำบากและเศร้าหมอง มีสุขวันหนึ่ง อาจมีทุกข์ไปหลายวัน ชั่วโมงนี้นาทีนี้หัวเราะ อีกหลายชั่วโมงข้างหน้าอาจร้องไห้ ชีวิตไม่คงอยู่บนสภาพเดียว จะผันแปรเปลี่ยนตามชะตากรรม และโชคนำชีวิต มีจนมีรวย มีสุขมีทุกข์ มีความเดือดร้อนและอบอุ่น มีโชคลาภและอับจน มีเกียรติและตกต่ำ มีขึ้นมีลง มีสุขภาพและเจ็บป่วย มีสบายใจและกังวลใจ มีความเครียดและผ่อนคลาย
ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันด์ เป็นสัจธรรมที่เราต้องทำใจและปล่อยวาง อะไรที่เป็นของแน่ มันก็ไม่แน่ อะไรที่มันไม่แน่ มันคือของแน่ และนั่นแหละคือชีวิต ชีวิตที่มีโลกและสังคม มีเราท่านและคนรอบข้าง ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต้องคบค้าสมาคมกัน ต้องประกอบสัมมาอาชีพ ทำธุรกิจการค้า เป็นเจ้าของบริษัท เป็นนายจ้างลูกจ้าง เป็นพนักงานกินเงินเดือน ซึ่งก็ต้องอยู่ในระบบในระเบียบและแบบแผนของผู้ว่าจ้าง อีกทั้งยังต้องวางตัววางตนให้ถูกกาละเทศะ ผิดพลาดพลั้งไปถือเป็นความผิด หรือไม่ก็ถือเป็นข้อบกพร่อง
สังคมมนุษย์มีหลายรูปแบบ มีผลแก่เราท่านทั้งทางตรงและทางอ้อม มีทั้งจริงใจและเสแสร้ง มีทั้งอุ้มชูและกลั่นแกล้ง มีทั้งปัดแข็งปัดขา แก่งแย่งและชิงดีชิงเด่นกัน คนเราถ้าต้องชะตากัน แม้ผิดก็เป็นถูก แต่ถ้าไม่ต้องชะตากัน ต่อให้ทำดีแสนดีก็กลายเป็นผิด ต่างๆเหล่านี้นั้น คือที่มาของความสมหวังและผิดหวัง
ในส่วนที่สมหวัง ประสบความสำเร็จ มีโชคลาภ เราเรียกว่า "เนียะอ์มะห์"
ในส่วนที่ผิดหวัง ล้มเหลว อับโชคและต้องชะตากรรม เราเรียกว่า "บาลาอ์" หรือความเดือดร้อน
เพราะฉะนั้น ท่านที่รัก ในวงจรของชีวิตเรานั้น มีทั้งเนียะอ์มะห์และบาลาอ์ คละเคล้ากันไป จงอย่าคิดว่าจะได้เนียะอ์มะห์เสมอไป และเช่นเดียวกัน จงอย่าคิดว่าจะประสบบาลาอ์ ได้รับความเดือดร้อนเสมอไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็อย่าท้อแท้ จงเดินไปกับโลก เพราะโลกคือที่อยู่ของเรา และเราท่านก็เป็นสีสันของโลก
ในยามใดขณะใดที่เราได้รับเนียะอ์มะห์ ได้โชคลาภได้ความอุดมสมบูรณ์ในชีวิต ก็อย่างได้ลิงโลดใจ อย่าทะนงตน อย่าวางมาด อย่าวางบารมี เพราะผู้ที่ได้รับเนียะอ์มะห์ทั้งหลายนั้น ทั้งมาดและบารมี มันมีอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว อยู่เฉยๆบารมีก็จับ ได้โชคได้ลาภก็ให้น้อมขอบคุณพระเจ้า ให้นึกถึงความเมตตาของพระองค์ ดังโองการที่ว่า
(وَلَئِنْ شَكَرْتُمْ لأَزِيْدَنَّكُمْ)
“ถ้าพวกเจ้ามีกตัญญูธิคุณ น้อมขอบคุณพระเจ้า ข้าฯ(พระเจ้า)ก็จะเพิ่มให้พวกเจ้า (ให้ได้รับความสุข ความสำเร็จ และความเจริญงอกงามในชีวิตเป็นทวีคูณ)”
การน้อมขอบคุณพระเจ้า เราทำอย่างไร กล่าวอัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ กล่าวขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญอัลเลาะห์ แล้วก็นั่งอยู่บนความสุขความสบายอย่างนั้นหรือ ?
ในส่วนหนึ่งนั้นใช่ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องแล้ว นอกจากน้อมขอบคุณพระเจ้า กล่าวสดุดีสรรเสริญพระองค์ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ เป็นมารยาทในการระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์แล้ว ก็ให้นึกถึงหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ทั้งแก่ตัวเอง ครอบครัวและสังคมแล้ว ก็ให้ทำคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม ให้นึกถึงความถูกต้อง ให้สนใจที่จะทำความดี อุ้มชูสังคม เป็นความรับผิดชอบ เป็นเกียรติ เป็นมงคลแก่ชีวิต นั่นแหละคือหน้าที่ของเราในการน้อมขอบคุณ มีกตัญญูธิคุณต่อพระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ท่านประทานเนียะอ์มะห์อันยิ่งใหญ่ให้
ในซูเราะห์อันนะฮ์ลิ อายะที่ 97 กล่าวไว้ว่า
{ مَنْ عَمِلَ صَالِحًا مِنْ ذَكَرٍ أَوْ أُنْثَى وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَلَنُحْيِيَنَّهُ حَيَاةً طَيِّبَةً وَلَنَجْزِيَنَّهُمْ أَجْرَهُمْ بِأَحْسَنِ مَا كَانُوْا يَعْمَلُوْنَ } النحل 97
" ผู้ใดประกอบกิจการงานที่ดี ที่ก่อให้เกิดเป็นคุณประโยชน์ไว้ในโลกนี้ จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็แล้วแต่ โดยที่เขาเป็นมุมิน เราจะให้เขามีชีวิตที่ดี ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าอาคีเราะห์ และเราจะตอบสนองค่าคุณ ผลบุญให้ผู้นั้น มากและดีกว่าสิ่งที่เขาได้ทำไว้ในโลกดุนยาเป็นทวีคูณ "
นั่นเป็นข้อแนะนำ เป็นคำมั่นสัญญาที่อัลเลาะห์ตาอาลายืนยันให้ไว้แก่ผู้กระทำ ที่มีกตัญญูธิคุณในเนียะอ์มะห์ ที่พระองค์ประทานให้
ขณะเดียวกัน ถ้าเราได้รับบาลาอ์ ได้รับความเดือดร้อน มีอุปสรรคและต้องชะตากรรม เราก็ต้องซอบัร อดทน เพราะว่าในความอดทนของเรานั้น นอกจากจะเป็นการยินยอม น้อมรับในเรื่องของกอฎอกอดัร ที่พระเจ้าลิขิตชีวิตไว้แล้ว ในคำว่า "บาลาอ์" ยังเป็นการถ่ายถอนบาป ลบล้างความผิดที่เราก่อกรรมกระทำขึ้น เป็นอีกส่วนหนึ่ง
ท่านนบี กล่าวไว้ว่า
( مَا يَزَالُ الْبَلاَءُ بِالْمُؤْمِنِ وَالْمُؤْمِنَةِ فِيْ نَفْسِهِ وَوَلَدِهِ وَمَالِهِ حَتَّى يَلْقَى اللهَ تَعَالَى وَماَ عَلَيْهِ حَطِيْئَةٌ )
“ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับมุมินและมุมินะห์ จะเกิดขึ้นแก่ตัวเอง ลูกและทรัพย์สมบัติของเขา จนกระทั่งเขาได้ไปพบอัลเลาะห์ เขาจะไม่มีความผิดอะไร”
นั่นก็หมายถึงว่า เขาได้รับการชำระล้างความผิด โดยบาลาอ์ โดยความเดือดร้อนที่เขาได้รับ
ในฮะดีษอัลกุดซีย์ พระวจนพจน์ของอัลเลาะห์บทหนึ่งกล่าวว่า
( إِذَا ابْتَلَيْتُ عَبْدِيْ بِحَبِيْبَتَيْهِ "بِمَعْنَى عَيْنَيْهِ" فَصَبَرَ عَوَّضْتُهُ مِنْهُمَا الْجَنَّةَ )
“เมื่อเราให้ได้รับความเดือดร้อนกับสองลูกนัยตาบ่าวของเรา แล้วบ่าวของเราก็มีความซอบัร อดทน เราจะทดแทนความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับสองลูกนัยน์ตาของเขาด้วยสวรรค์ “
ท่านนบี กล่าวไว้ในอีกฮะดีษบทหนึ่งว่า
( إِذَا أَرَادَ بِعَبْدِهِ الْخَيْرَ عَجَّلَ لَهُ الْعُقُوْبَةَ )
“เมื่ออัลเลาะห์ต้องการให้บ่าวของพระองค์ ได้รับความดี พระองค์ก็จะรีบลงโทษเขาในโลกดุนยา (เป็นการชำระบาป)”
( وَإِذَا أَرَادَ بِعَبْدِهِ الشَّرَّ أَمْسَكَ عَنْهُ بِذَنْبِهِ حَتَّى يُوَافِيَ بِهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ )
“(และเช่นเดียวกัน) เมื่ออัลเลาะห์ต้องการให้บ่าวของพระองค์ ได้รับความชั่ว พระองค์ก็จะเก็บบาปของเขาไว้ (ไม่รีบจัดการ ไม่รีบสำเร็จโทษ) จนกระทั่งถึงวันกิยามะห์”
อีกพระวจนะของท่านร่อซู้ล อีกบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า
( مَا يُصِيْبُ الْمُؤْمِنُ مِنْ نَصَبٍ وَلاَ وَصَبٍ وَلاَ هَمٍّ وَلاَ حُزْنٍ وَلاَ أَذًى وَلاَ غَمٍّ حَتَّى الشَّوْكَةَ يُشَاكُهَا إِلاَّ كَفَّرَ اللهُ بِهَا مِنْ خَطَايَاهُ )
“ มุมินจะไม่พบกับความตรากตรำ ไม่พบกับความเจ็บป่วย ไม่พบกับความทุกข์ยาก และโศกเศร้า แม้จะเป็นเพียงถูกหนามเล็กๆทิ่มแทง เว้นแต่อัลเลาะห์จะลบล้างบรรดาความผิดของเขาให้ “
มีรายงานจากท่านอิบนุมัสอูด ท่านรายงานว่า
( دَخَلْتُ عَلَى النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم فَقُلْتُ يَا رَسُوْلَ اللهِ إِنَّكَ تُوَعَّكُ وَعْكًا شَدِيْدًا ؟ قَالَ أَجَلٌ إِنِّيْ أَوَعَّكُ كَمَا يُوَعَّكُ رَجُلاَنِ مِنْكُمْ ، قُلْتُ ذلِكَ أَنَّ لَكَ أَجْرَيْنِ ، قَالَ أَجَلٌ ذلِكَ كَذلِكَ ، مَا مِنْ مُسْلِمٍ يُصِيْبُ أَذًى شَوْكَةً فَمَا فَوْقَهَا إِلاَّ كَفَّرَ اللهُ بِهَا سَيِّئَاتِهِ وَحُطَّتْ عَنْهُ ذُنُوْبُهُ كَمَا تَحَطُّ الشَّجَرَةُ وَرَقَهَا )
“ฉันเข้าไปหาท่านนบี แล้วพูดว่า ท่านป่วยไม่สบายมากใช่ไหม ?
ท่าน นบี ตอบว่า ใช่ อาการป่วยไม่สบายของฉันนี้ เหมือนกับการป่วยไม่สบายของผู้ชายรวมกัน 2 คน
ท่านอิบนิมัสอูดก็พูดว่า อย่างนั้นแล้ว ท่านก็ได้บุญเป็น 2 เท่าใช่ไหม ?
ท่าน นบี ก็ตอบว่า ใช่ มันก็อย่างนั้นแหละ ไม่มีมุสลิมคนใด ที่ได้ประสบพบกับความเดือดร้อน ที่เกิดจากถูกหนามทิ่มแทง หรือมากกว่านั้น เว้นแต่อัลเลาะห์จะลบล้างความชั่วของเขาออกไป ให้ความชั่วของเขาหลุดออกไป เหมือนกับใบไม้ร่วงจากต้น”
ในหลายฮะดีษที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ บอกให้เราทราบว่า ในอิสลามของเรานั้น จะไม่ปล่อยให้เราท่านได้รับบาลาอ์ โดยปราศจากการเหลียวแล อัลเลาะห์จะให้ความเอื้ออาทรแก่เรา ให้ความอนุเคราะห์เกื้อกูลเรา ให้การปลอบประโลมเรา แสดงความเสียใจแก่เรา โดยทดแทนในส่วนที่เราท่านได้รับบาลาอ์ ได้รับความเดือดร้อนให้ โดยการลบล้างความผิด เป็นการชำระล้างบาป ชำระสิ่งปฏิกูลที่เราก่อกรรมกระทำขึ้น ขอเพียงแต่ว่าให้เรามีความอดทนและกระทำตนเป็นมุสลิมที่เป็นมุมิน เป็นมุสลิมที่มีอีหม่าน เดินตามบทบัญญัติใช้และห้ามของอัลเลาะห์ ยินยอมน้อมรับและมอบหมายลิขิตชีวิตทั้งดีและชั่วมาจากพระองค์
เราไม่รู้ในลิขิตของเราว่า ได้ลิขิตดีหรือไม่ดี ขณะเดียวกันอัลเลาะห์ให้สติปัญญา ให้จิตวิญญาณ ให้วิจารณญาณและจิตสำนึก ได้พิจารณาและไตร่ตรอง เราไม่รู้ว่าลิขิตของเราจะไปทางไหน ? หน้าที่ของเราคือเลือก เลือกทำในสิ่งที่ดี แล้วเราก็จะได้ในลิขิตที่ดี ถ้าเราเลือกทำในสิ่งที่ไม่ดี เราก็ได้ลิขิตไม่ดี เลือกทำในสิ่งที่ดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถูกต้องตามทำนองครองธรรม และหลักการของศาสนา มุ่งมั่นพร้อมกับมีอีหม่าน แล้วก็มีความผิดหวังเกิดขึ้น แน่นอนพระเจ้าย่อมเห็นใจ และก็มีสิ่งทดแทนให้ นั่นก็คือการลบล้างความผิด ชำระบาปโดยบาลาอ์ โดยความเดือดร้อนที่เขาได้รับ เป็นการทดแทน
ในซูเราะห์อัลอัมบิยาอ์ อายะห์ที่ 87 ได้กล่าวถึง บาลาอ์ ความเดือดร้อนของนบียูนุส ที่ถูกปลากลืนเข้าไปในท้อง โดยสรุปว่า
{ وَذَا النُّوْنِ إِذْ ذَهَبَ مُغَاضِبًا فَظَنَّ أَنْ لَنْ نَقْدِرَ عَلَيْهِ }
" โอ้นบีทั้งหลาย จงนึกถึงประวัติของนบียูนุส เมื่อท่านนบียูนุสได้รับความคับแค้นใจ ในเรื่องที่กลุ่มชนของท่านกีดขวางและคัดค้านการประกาศศาสนาของอัลเลาะห์ แล้วที่สุดท่านนบียูนุสก็ถอดใจและโกรธ พร้อมทั้งปลีกตัวหลบหนีกลุ่มชนของท่าน โดยคิดว่าอัลเลาะห์ทรงอนุญาตให้ โดยที่ท่านไม่สามารถประกาศศาสนาให้บรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งถือเป็นความผิดที่ไม่สามารถทำตามคำสั่งของพระองค์ ที่สุดอัลเลาะห์จึงให้ปลากลืนท่านนบีเข้าไปในท้อง และให้มีชีวิตอยู่ในท้องทะเลอันมืดมิด เป็นการลงโทษ”
และในที่สุดท่านนบียูนุสได้วอนขอร้องต่ออัลเลาะห์ ยอมรับผิดในผลกรรมที่กระทำลงไป โดยท่านได้กล่าวว่า
{ أَنْ لاَ إِلهَ إِلاَّ أَنْتَ سُبْحَانَكَ إِنِّيْ كُنْتُ مِنَ الظَّالِمِيْنَ }
"โอ้พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีพระเจ้าที่มีค่าควรแก่การสักการะโดยแท้จริง เว้นแต่พระองค์ท่าน พระองค์ทรงปราศจากมลทิน (สมควรที่จะได้รับการยกย่องและสรรเสริญ) อันที่จริงแล้ว ข้าฯของพระองค์ได้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กระทำในสิ่งที่ท่านไม่ยินยอมและเห็นด้วยไปแล้ว "
{ فَاسْتَجَبْنَا لَهُ وَنَجَّيْنَاهُ مِنَ الْغَمِّ وَكَذلِكَ نُنْجِي الْمُؤْمِنِيْنَ }
" อัลเลาะห์ทรงตอบรับการวอนขอของท่านนบียูนุส แล้วก็ให้รอดพ้นจากความทุกข์ ความลำเค็ญ (ที่ตกอยู่ในท้องปลาภายใต้ท้องทะเลอันมืดมิด ซึ่งถือเป็นบาลาอ์ครั้งใหญ่ แล้วในที่สุด อัลเลาะห์ทรงให้ท่านรอดพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนั้นมาได้ นั่นเพราะความอดทนและรู้สำนึก) "
และเช่นเดียวกัน อัลเลาะห์จะให้มุมินที่รู้สำนึกถึงความผิดพลาด ถึงบาปที่ทำลงไป ได้รอดพ้นจากบาลาอ์ ได้พ้นจากความเดือดร้อน เหมือนกับนบี ยูนุสได้ประสบพบมา
ครับท่านที่รัก .. ในบาลาอ์ ในความเดือดร้อนนั้น มีสิ่งทดแทน ขอเพียงลุกขึ้นสู้ ใช้ความสามารถให้เต็มกำลัง มุมานะบากบั่น อย่าท้อแท้ แล้วก็ขออภัยโทษ ขอลุแก่โทษในส่วนที่ผิดพลาด แล้วก็มอบหมายต่ออัลเลาะห์ ที่ผ่านมาคืออดีต อดีตคือข้อเตือนใจ ตรงไหนส่วนใดที่ผิดพลาด ก็ให้รีบปรับปรุงแก้ไข ทำด้วยความซอบัร อดทนและมีสำนึก อินซาอัลเลาะห์ ภัยบาลาอ์หรือความทุกข์ยาก ความลำบากของเราก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี
อัลฮะดีษบทหนึ่งบอกว่า
( إِنَّ عِظَمَ الْجَزَاءِ مَعَ عِظَمِ الْبَلاَءِ )
“ รางวัลหรือผลบุญที่ยิ่งใหญ่นั้น ย่อมได้มาพร้อมกับความเดือดร้อนอันใหญ่หลวงและแสนสาหัส “
มิฟตาฮุ้ลอูลูมิดดีนียะห์(บ้านดอน)