หลักฐานฮิญาบจากฮะดีษ
อาบีดีณ โยธาสมุทร
บิ้สมิ้ลลาฮฺ
มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮา แจ้งว่านางได้กล่าวไว้ว่า
“ ผู้คนที่อยู่บนยานพาหนะได้สัญจรผ่านมาทางพวกเราตอนที่พวกเรากำลังครองเอี้ยะฮฺรอมอยู่กับท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม แล้วเมื่อพวกเขาเดินผ่านเข้ามาจนจวนจะถึงพวกเรา พวกเราแต่ละคนก็จะดึงชุดคลุมที่อยู่บนหัวลงมาคลุมหน้าเอาไว้ จนเมื่อพวกเขาเดินผ่านไปแล้วพวกเราถึงได้เปิดชุดคลุมนั้นออก”
( บันทึกโดย อิหม่ามอะฮฺหมัด และอบูดาวู้ลและท่านอื่นๆ)
ฮะดี้ษบทนี้ เป็นการอธิบายจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ถึงวิธีปฏิบัติของผู้หญิงที่ครองเอี้ยะฮฺรอม ที่จะต้องรักษาบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการแต่งกายจากทั้งสองแง่มุมไว้ให้ได้จนถึงที่สุด
ซึ่งแง่มุมที่ 1 ได้แก่ การรักษาเครื่องแบบของฮิญาบตามที่ศาสนากำหนดเมื่อเธอต้องพบกับผู้ชายที่สามารถแต่งงานกันได้
ส่วนในมุมที่ 2 คือการรักษาเครื่องแบบของการครองเอี้ยะฮฺรอมสำหรับสตรี
โดยให้คนที่เป็นผู้หญิงทำการรักษาเครื่องแบบที่เป็นบทบัญญัติพื้นฐานสำหรับเธอในการปกปิดร่างกาย ในกรณีที่เธอต้องไปพบเจอกับผู้ชายที่แต่งงานกันได้เป็นสำคัญ ซึ่งตามเนื้อหาของตัวบทนี้บอกให้ทราบว่าต้องทําการดึงผ้าคลุมลงมาปกปิดใบหน้าด้วย ส่วนเมื่ออยู่ในช่วงที่ไม่ต้องเจอกับผู้ชายอื่นที่แต่งงานกันได้ขณะที่เธอครองเอี้ยะฮฺรอมอยู่นั้น ก็ให้ทำการเปิดหน้าและมือออกเพราะถือว่าเป็นเครื่องแบบของการครองเอียะฮฺรอมนั่นเอง
ซึ่งแน่นอนว่าบทบัญญัติตรงนี้ไม่ใช่บทบัญญัติที่ใช้เฉพาะกับบรรดาภรรยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม แค่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีข้อมูลที่รายงานมาจากท่านหญิงอัสม้าอฺ บินติ อบีบักร ระบุไว้ว่า เธอได้กล่าวบรรยายถึงสภาพของบรรดาซอฮาบะห์ผู้หญิงไว้ว่า
“พวกเราจะทำการปกปิดใบหน้าของพวกเราจากพวกผู้ชาย และสำหรับในกรณีของการเอี้ยะฮฺรอมพวกเราจะจัดการหวีผมของพวกเราให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะทำแบบนั้น”
บันทึกโดยท่านอิบนุ คุซัยมะฮฺ ท่านอั้ลฮากิมโดยท่านกล่าวว่าเป็นฮะดี้ษศ่อเฮี้ยะฮฺสอดคล้องกับเงื่อนไขของท่านเชคทั้งสองท่านและท่านอั้ซซะฮะบีย์ก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
ท่านหญิงอาอีชะฮฺ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮา ได้กล่าวไว้ว่า ขออัลเลาะห์ทรงเมตตาสตรีชาวมุฮาญิรีนในยุคแรกที่ตอนที่อายะที่ว่า
وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ
“และพวกเธอจงใช้ผ้าคลุมของพวกเธอปกคลุมลงมาบนคอเสื้อของพวกเธอ.. ถูกประทานลงมา พวกนางก็ฉีกผ้าคลุมของพวกนางแล้วก็นำมันมาใช้คลุมปกปิดพวกนางเอาไว้”
(บันทึกโดย อั้ลบุคอรีย์ และอบูดาวู้ดและท่านอื่นๆ )
♦ ท่านอิบนุ ฮะญัร กล่าวว่า คำกล่าวที่ว่า แล้วพวกนางก็ปกคลุมพวกนางเอาไว้ นั้นหมายถึงพวกนางปกปิดใบหน้าของพวกนางเอาไว้นั่นเอง
♦ ท่านเชค มุฮัมหมีด อะมีน อั้ชชันกีตี้ย์ บอกว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่เป็นฮะดี้ษศ่อฮี้ฮฺที่สื่อสารไว้อย่างชัดเจนว่า บรรดาซอฮาบะห์ผู้หญิงที่ถูกพูดไว้ในข้อมูลดังกล่าวนั้นเข้าใจความหมายของคำพูดของพระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง ที่ว่า
وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ
“และพวกเธอจงใช้ผ้าคลุมของพวกเธอปกคลุมลงมาบนคอเสื้อของพวกเธอ”
หมายถึง การปิดหน้า โดยที่พวกนางหล่านั้นได้ฉีกผ้าของตัวเอง แล้วนำมาปกคลุม หมายถึง นำมันมาปิดใบหน้าของพวกนางเอาไว้เพื่อเป็นการกระทำตามคำสั่งของอัลเลาะห์ ...
หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งได้แก่เหตุการณ์ระหว่างท่านหญิงอาอีชะฮฺ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮา กับผู้เป็นลุงทางการให้นมของนาง ที่ชื่อว่า อั้ฟละฮฺ ตอนที่เขาได้มาขออนุญาตเพื่อเข้าไปหานางหลังจากที่มีบัญญัติเรื่องฮิญาบถูกกำหนดให้นำมาใช้การแล้ว นางจึงไม่อนุญาตให้เขาเข้ามาหา จนท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม ต้องเป็นผู้ให้อนุญาตให้เขาเข้ามาได้เอง โดยให้เหตุผลว่า เพราะว่าเขาเป็นลุงของนางจากทางการให้นม ซึ่งนี่เป็นข้อมูลที่ท่านอิหม่ามทั้งสองท่าน ท่านอั้ลบุคอรีย์และท่านมุสลิม มีมติพ้องกันว่า ศ่อฮี้ฮฺ
♦ ท่าน อิบนุฮะญัร ให้ข้อมูลไว้ว่า ข้อมูลนี้บอกให้ทราบว่า การที่ผู้หญิงนั้นจะต้องปกปิดตัวเองจากผู้ชายอื่นที่แต่งงานกันได้นั้น มันเป็นเรื่องจำเป็น
มีรายงานจากท่าน อิบนุอุมัรแจ้งว่าท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม กล่าวว่า
“ใครก็แล้วแต่ที่ปล่อยชายผ้าของตัวเองให้ยาวเลยลงมาด้วยความเย่อหยิ่ง อัลลอฮฺจะไม่ทรงมองไปที่เขาในวันกิยามะฮฺ”
ท่านอุมมุซะละมะฮฺ จึงกล่าวว่า “แล้วผู้หญิงจะต้องทำกันยังไงกับปลายผ้าที่กองเลยลงมาหรือคะ ? “
ท่านกล่าวว่า “ก็ให้พวกเธอปล่อยผ้าลงมาได้คืบหนึ่งสิ”
นางกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นเท้าของพวกนางก็โผล่ออกมาสิคะ”
ท่านจึงกล่าวว่า “ก็ให้พวกเธอปล่อยผ้าเลยลงมาได้ศอกหนึ่ง และอย่าให้มันเลยมากไปกว่านี้”
(บันทึกโดย อิหม่ามอะฮฺหมัดและท่านอื่นๆ ท่านอั้ตติ้รมิซีย์บอกว่า เป็น ฮะดี้ษ ฮะซันศ่อเฮี้ยฮฺ)
ฮะดี้ษนี้บอกให้ทราบว่า ทุกส่วนของผู้หญิงถือเป็นส่วนที่พึงสงวนทั้งสิ้นสำหรับผู้ชายอื่นที่สามารถแต่งงานกันได้ ซึ่งบทสรุปตรงนี้ยืนยันได้จากคำสั่งของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซั้ลลัม ที่สั่งให้ทำการปกปิดเท้าทั้งสองข้างและอนุญาตให้ผู้หญิงปล่อยผ้าลงมาเพื่อการนี้ได้ ทั้งๆที่โดยพื้นฐานแล้วการทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้าม
และเนื่องจากในตัวบทมีการสั่งให้ปกปิดเท้านี่เอง ตัวบทนี้จึงสามารถนำมาเป็นหลักฐานในการสั่งให้มีการปิดหน้าไปด้วยในตัว เนื่องจากส่วนที่มีความดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้ามนั้น เมื่อเทียบกันระหว่างหน้ากับเท้าแล้ว ใบหน้าย่อมมีความดึงดูดมากกว่าเท้าอย่างแน่นอนโดยไม่มีใครถกเถียง ดังนั้นเมื่อมีการสั่งให้ปิดเท้า นั่นจึงเป็นการบอกไว้ให้ทราบเป็นนัยยะด้วยว่า ใบหน้าย่อมจำเป็นมากกว่าที่จะต้องถูกปกปิด
ดู حراسة الفضيلة