การหลงออกจากทางที่นอกเหนือสติปัญญา
อาบีดีณ โยธาสมุทร เรียบเรียง
ท่าน มูฮัมหมัด บิน อิสหาก บิน คุซัยมะฮฺ อิหม่ามของบรรดาอิหม่ามทั้งหลาย ได้ กล่าวไว้ความว่า
" ใครที่ไม่ยอมกล่าวว่า แน่นอนว่า อัลลอฮฺ ทรงอยู่เหนือบรรดาฟากฟ้าของพระองค์ บนบัลลังก์ของพระองค์ ทรงเป็นเอกเทศจากสิ่งถูกสร้างของพระองค์ ก็ถือว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเข้าไปทำการบอกให้เขากลับเนื้อกลับตัวเสีย
ถ้าเขายอมกลับตัวมา แต่ถ้าไม่ยอม ก็ให้ทำการฟันคอเขาเสีย จากนั้นก็นำเขาไปโยนทิ้งที่กองขยะ เพื่อที่กลิ่นของเขาจะได้ไม่มารบกวนชาวกิ้บละฮฺ และบรรดาบุคคลที่อยู่ในพันธสัญญาของมุสลิม"
อัลฮากิม ได้กล่าวถึงข้อมูลนี้จากท่าน ด้วยสายรายงานที่แข็งแรง
ท่านอิบรอฮีม อั้ตตัยมี่ ได้เคยพูดไว้ว่า
" โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์โปรดทรงปกป้องข้าพระองค์ด้วยกับศาสนาของพระองค์ท่านและด้วยกับแนวทางของศาสนฑูตของพระองค์ท่าน ให้พ้นจากการขัดแย้งกันในสัจธรรม ให้พ้นจากการตามอารมณ์ ให้พ้นจากบรรดาแนวทางที่หลงผิด ให้พ้นจากเรื่องราวต่างๆที่เคลือบแคลงคลุมเครือและเป็นที่สับสน ให้พ้นจากการเบี่ยงเบนออกนอกลู่ และให้พ้นจากการโต้เถียงกันจนเป็นเรื่องเป็นราวด้วยเถิด"
ท่านฟุด้อยล์ อิบนุ อิย้าด ได้กล่าวว่า เราไม่มีสิทธ์เข้าไปมโนเอาเองเกี่ยวกับพระองค์อัลลอฮฺว่า พระองค์เป็นอย่างไร? เพราะว่าพระองค์อัลลอฮฺได้ทรงบรรยายลักษณะของพระองค์เองเอาไว้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว โดยพระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
قُلْ هُوَ اللَّهُ أَحَدٌ (1) اللَّهُ الصَّمَدُ (2) لَمْ يَلِدْ وَلَمْ يُولَدْ (3) وَلَمْ يَكُن لَّهُ كُفُوًا أَحَدٌ (4)
"จงพูดว่า พระองค์คือ อัลลอฮฺ ผู้ที่มีเพียงหนึ่งเดียว.
อัลลอฮฺคือ ผู้ที่เป็นที่พึ่ง.
พระองค์ไม่ทรงให้กำเนิดและไม่ทรงถูกให้กำเนิด.
และไม่มีผู้ใดทั้งสิ้นแม้แต่ผู้เดียวที่เป็นบุคคลที่เสมอกับพระองค์"
ดังนั้น จึงไม่มีการบรรยายลักษณะใดๆอีกแล้วที่จะชัดเจนและกระจ่างมากไปกว่าลักษณะที่พระองค์ได้ทรงใช้ในการบรรยายถึงตัวของพระองค์เองเอาไว้
บรรดาพระลักษณะเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งการที่พระองค์ทรงลงมา การที่พระองค์ทรงหัวเราะ การที่พระองค์ทรงอวดหรือทรงโชว์ด้วยความภาคภูมิ และการที่พระองค์ทรงรอบรู้นั้น เป็นไปอย่างที่พระองค์ทรงประสงค์จะทรงลงมา เป็นไปอย่างที่พระองค์ทรงประสงค์จะทรงอวดหรือทรงโชว์ด้วยความภาคภูมิ เป็นไปอย่างที่พระองค์ทรงประสงค์จะทรงหัวเราะ และเป็นไปอย่างที่พระองค์ทรงประสงค์จะทรงรู้
ไม่มีสิทธ์อะไรสำหรับเราเลยที่จะมาเดาสุ่มเอาว่า ทรงเป็นอย่างไร และ เป็นอย่างไร ? ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากมีพวกญะฮฺมี่มาบอกกับคุณว่า ผมขอปฏิเสธต่อพระเจ้าที่เคลื่อนย้าย หายออกไปจากพื้นที่ของพระองค์ ล่ะก็ คุณก็จงตอบเขาไปเลยว่า “แต่ว่า ผม เชื่อและศรัทธาต่อพระเจ้าที่ทรงทำในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ ได้ “
สาเหตุของการหลงออกจากทาง เกี่ยวกับเรื่องที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ปกติของมนุษย์
๑. การไม่ยอมจำกัดกรอบของแหล่งข้อมูลที่จะใช้เป็นหลักฐานในการศึกษาประเด็นๆนี้ไว้ที่ข้อมูลจากตัวบทซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อมูลที่ใช้ข้อความในการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องๆนี้ไว้แบบกระจ่าง (มุฮฺกัม) และไม่ยอมจัดให้ข้อมูลจากตัวบทในชนิดนี้เป็น “ฐาน” สำหรับการทำความเข้าใจเรื่องราวในประเด็นดังกล่าว แต่กลับหันไปหาข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลที่ใช้ข้อความในการสื่อสารให้เข้าใจไปได้มากกว่าหนึ่งทาง (มุตะชาบิฮฺ) และนำข้อมูลในลักษณะนี้มาเป็นฐานในการทำความเข้าใจ จากนั้นจึงทำการบิดข้อมูลอื่นๆเข้ามาหาความเข้าใจที่ตนสรุปขึ้นจากข้อมูลเมื่อครู่ ถึงแม้จะต้องผ่านการดัตจริตอย่างมากมายเพื่อให้เนื้อหาจากข้อมูลจากทั้งสองกลุ่มหันเข้ามาเดินไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ก็ตาม
๒. การไม่ยอมจัดให้ข้อมูลจากพระเจ้าอยู่ในสถานะที่คู่ควรกับพระเกียรติของพระองค์อย่างจริงจัง
๓. การละเลยต่อความเข้าใจและแนวทางของบรรดาสลัฟ ศอและฮฺ ที่มีต่อข้อมูลข้างต้น
๔. การใช้ความเข้าใจในมุมของความเป็นคน ในแบบของคน มาเป็นฐานในการตัดสินข้อเท็จจริง
๕. การบัญญัติ “คำ” หรือ “นิยาม” ของคำขึ้นมาใหม่โดยปราศจากหลักฐานจากอัลกุรอ่านและอัซซุนนะฮฺที่ตรงกับความเข้าใจของบรรดาสลัฟอั้ศศอและฮฺ เพื่อใช้เป็นฐานในการศึกษาเรื่องราวในประเด็นนี้ จากนั้นจึงทำการโยงข้อมูลจากกิตาบุ้ลลอฮฺ และอัซซุนนะฮฺ ย้อนกลับเข้ามาหา คำ หรือ นิยาม เหล่านั้นอีกทีหนึ่ง ตัวอย่างเช่น คำว่า การถูกจำกัดไว้ด้วยพื้นที่(อัยยิ้ซ) เรือนร่างที่เป็นส่วนประกอบ(อั้จซาม) เป็นต้น