การเผยแผ่อิสลามตามแนวทางสลัฟ
ยะห์ยา หัสการณ์บัญชา แปลเรียบเรียง
องค์ประกอบพื้นฐาน(อุศูล)ของการเผยแผ่อิสลามตามแนวทางสลัฟ
1. ให้ความสำคัญและเอาใจใส่กับการศึกษาหาความรู้ศาสนา
2. เอาใจใส่กับการปฏิบัติตามคำสอนของอิสลาม
3. เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺโดยตั้งอยู่บนการมีความรู้ที่แตกฉาน
4. ให้ความสำคัญกับหลักการยึดมั่นศรัทธาของชาวสลัฟ ทั้งในด้านการศึกษาเรียนรู้ ในด้านการปฏิบัติ และในด้านการสอน
5. ให้ความสำคัญกับสุนนะฮฺ(แบบอย่างและแนวทางของท่านนบีมุฮัมมัด) และเอาใจใส่กับการนำสุนนะฮฺของท่านนบีไปปฏิบัติ และเรียกร้องเชิญชวนไปสู่สุนนะฮฺ
6. คลุกคลีและอยู่ใกล้ชิดกับบรรดาปราชญ์ที่ยึดมั่นในแนวทางของท่านนบี
7. ออกห่างจากพรรคพวกหรือกลุ่มต่างๆที่มีพฤติกรรมซ่อนเร้น โดยพาดพิงถึงอิสลาม
8. จำเป็นจะต้องยึดมั่นต่อคำสอนที่มาจากอัลกุรอาน สุนนะฮฺ และอิจมาอฺ(มติเอกฉันท์)ของบรรดาเศาะหาบะฮฺในเรื่องว่าด้วยผู้นำและผู้ปกครอง
9. ขัดขวางและต่อต้านพวกบิดอะฮฺ และตักเตือนให้ระวังพวกเขา
10. จำเป็นจะต้องนำคำสอนจากอัลกุรอานและสุนนะฮฺไปใช้ในทุกๆเรื่องและในทุกๆสถานการณ์
จากตำราอุศูล อัดดะวะฮฺ อัสสะละฟียะฮฺ โดยชัยคฺอับดุสสลาม บุตรของ บัรญิส อาละอับดุลกะรีม
ที่ใดมีผลประโยชน์หรือการปรองดอง สมานฉันท์กันที่ตั้งอยู่บนเป้าหมายอื่นแอบแฝงอยู่นอกจากเพื่ออัลลอฮฺและร่อสูลฯแล้ว ที่นั่นจะหาบะร่อกะฮฺ(ความจำเริญ) ,สะกีนะฮฺ(ความสงบสุข) , สะลามะฮฺ(ความสันติ) ไม่ได้เลย เพราะสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาสวนทางกับอิสลามโดยสิ้นเชิง
♥ เพราะความรัก ปรองดองกันที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ทางทรัพย์สินเงินทอง วันใดที่ผลประโยชน์และเงินทองหมดไป ความรักก็หมดตาม
♥ เพราะความรัก ปรองดองที่ตั้งอยู่บนอิทธิพล อำนาจ และการเล่นพรรคเล่นพวก หรือมวลชน วันใดที่สิ่งเหล่านี้หมดไป ความรักก็หมดตาม
แต่ความรัก ปรองดองอย่างแท้จริงที่ตั้งอยู่บนหลักการและแนวทางของอัลลอฮฺ และร่อสูลฯของพระองค์นั้นจะคงอยู่ตลอดไปด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮฺและไม่มีวันหมดสิ้นลง
ฉะนั้นอย่าได้เสียใจ หรือเศร้าใจไปเลย หากในวันนี้ทุกคนที่เคยรักเรา ดีกับเรา สนับสนุนเราในวันวาน แต่ผ่านมาวันนี้เขาแปรเปลี่ยนไปเป็นคนที่เกลียดเรา กลั่นแกล้งเรา ด่าทอเรา ใส่ร้ายเรา ฯลฯ เพราะใจคนเรา คำพูดคนเรา การกระทำคนเรา มันสามารถแปรเปลี่ยนกันได้ จะไปเอาแน่อะไรกับมัน แต่จงใส่ใจให้มากๆว่าทำยังไง เราถึงจะอยู่ในแนวทางของท่านร่อสูลฯที่อัลลอฮฺทรงรักและโปรดปรานให้ได้มากที่สุด พร้อมๆกับพยายามแนะนำคนรอบข้างไปด้วยเท่าที่เรามีความสามารถ ส่วนใครจะเชื่อ ใครจะฟัง หรือไม่ฟังนั้นอยู่นอกเหนือความสามารถของเราแล้ว ที่เหลือก็ดุอาและมอบหมายต่ออัลลอฮฺ
เราอาจจะสร้างภาพ หรือหลอกใครก็ได้ แต่เราหลอกอัลลอฮฺ และตัวเองไม่ได้ และในวันกิยามะฮฺเราก็จะต้องถูกสอบสอนในสิ่งที่เราเคยทำไปในโลกนี้
ท่านชัยคฺสุไลมาน อัรรุฮัยลี่ย์ได้กล่าวว่า
"ไม่มีความดีงามใดๆเลยในการดะวะฮฺ(เผยแผ่อิสลาม) ที่ปราศจากการเชิญชวนไปสู่เตาฮีด(การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ)อย่างละเอียด"
"ไม่มีความดีงามใดๆเลยในการดะวะฮฺ ที่ปราศจากการเชิญชวนไปสู่การยึดมั่นต่อแบบอย่างและแนวทางของท่านนบีมุฮัมมัด ทั้งในด้านความรู้และการปฏิบัติ"
"ไม่มีความดีงามใดๆเลยในการดะวะฮฺ ที่ปราศจากการสร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างผู้ปกครองและผู้อยู่ภายใต้การปกครอง"
"ไม่มีความดีงามใดๆเลยในการดะวะฮฺ ที่ปราศจากความรู้ ,ความยุติธรรม ,สติปัญญา และความฉลาดทางด้านอารมณ์"
"เพราะการดะวะฮฺ(เผยแผ่อิสลาม)ที่ปราศจากองค์ประกอบที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นมิใช่การดะวะฮฺ(เผยแผ่อิสลาม)ตามแนวทางของท่านนบีมุฮัมมัดแต่อย่างใด"
اللهم ارزقنا الإخلاص والاتباع لسنة نبيك محمد صلى الله عليه وسلم في الدعوة وفي جميع أعمالنا الصالحة