คำสั่งเสีย สามประการ
เรียบเรียง อับดุลวาเฮด สุคนธา
จากท่านอบู ซัรฺ ญุนดุบ อิบนุ ญุนาดะฮฺ และอบู อับดิรฺเราะหฺมาน มุอาซ อิบนุ ญะบัล เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุมา จากท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ ท่านกล่าวว่า:
" اِتَّقِ اللهَ حَيْثُمَا كُنْتَ ، وَأَتْبِعِ السَّيِّئَةَ الحَسَنَةَ تَمْحُهَا ، وَخَالِقِ النَّاسَ بِخُلُقٍ حَسَنٍ "
♥ ท่านจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม
♥ และจงตามความชั่วด้วยการทำความดีชดใช้ ซึ่งความดีนั้นจะไปลบล้างความชั่วได้
♥ และจงปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยจรรยามารยาทที่ดีงาม”
(หะดีษบันทึกโดยอัต-ติรฺมิซีย์)
อธิบาย
♣ จะต้องยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ทุกหนแห่งไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด สภาพใดก็ตาม แน่นอนพระองค์ทรงรับทราบทุกๆสิ่งที่เปิดเผยและเร้นลับ
พระองค์ทรงกล่าวว่า
﴿ مَا يَكُونُ مِنْ نَجْوَى ثَلَاثَةٍ إِلَّا هُوَ رَابِعُهُمْ ﴾ [المجادلة: 7]،
“และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน การซุบซิบกันในสามคนจะไม่เกิดขั้น เว้นแต่พระองค์จะทรงเป็นที่สี่ของพวกเขา”
คำว่า ตักวา คือการปฏิบัติสิ่งที่เป็นคำสั่งของศาสนาและละทิ้งสิ่งที่เป็นบาป
ท่านอุมัร บิน อับดุลอาซีรกล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ด้วยการถือศิลอดในตอนกลางวันและลุกขึ้นละหมาดในยามค่ำคืน การที่จะเรียกว่า การยำเกรง คือการละทิ้งสิ่งที่เป็นบาปและปฏิบัติสิ่งที่เป็นข้อบังคับของศาสนาทั้งหมด
ท่าน ตอล อิบนุ อาบีบ กล่าวว่า การยำเกรง การปฏิบัติด้วยการเชื่อฟังต่อพระองค์ จะได้รับรัศมีจากพระองค์ หวังในผลตอบแทน และละทิ้งสิ่งที่เป็นบาปเพื่อพระองค์ เกรงกลัวบทลงโทษจากพระองค์
♣ ทำความดีเพื่อที่จะลบล้างความผิด ด้วยการละหมาด บวช ทำทาน การขอลุแก่โทษ ความดีที่เราทำนั้นมันจะช่วยลบล้างสิ่งที่ไม่ดีมากมาย
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
إِنَّ الْحَسَنَاتِ يُذْهِبْنَ السَّيِّئَاتِ
“แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลาย”
♣ จงมีมารยาทที่ดีงามต่อคนรอบข้างๆในสังคมด้วยการปฏิบัติสิ่งที่ดี มารยาทที่สวยงาม เช่น การให้อภัย ถ่อมตน ช่วยเหลือผู้ยากไร้ การยิ้มแย้มต่อกัน สร้างความเป็นพี่น้องในสังคมปรองดองกัน ปกป้องจากการทำร้ายคนที่ไม่ดี เพื่อหวังในการตอบแทนจากพระองค์
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
خُذِ الْعَفْوَ وَأْمُرْ بِالْعُرْفِ وَأَعْرِضْ عَنِ الْجَاهِلِينَ
“เจ้า (มุฮัมมัด) จงยึดถือไว้ซึ่งการอภัย และจงใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ
และจงผินหลัง ให้แก่ผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด”
وَقُولُوا لِلنَّاسِ حُسْنًا “และจงพูดจาแก่เพื่อนมนุษย์อย่างดี”
ท่านอบู อัด-ดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้รายงานคำกล่าวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า :
«مَا مِنْ شَىْءٍ أَثْقَلُ فِى الْمِيزَانِ مِنْ حُسْنِ الْخُلُقِ»
“ไม่มีสิ่งใดที่จะหนักตาชั่ง(ความดีชั่วในวันกิยามัต) ยิ่งไปกว่าการมีอุปนิสัยที่ดี”
( บันทึกโดยอบู ดาวูด)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
البر حُسن الخُلق “ความดีนั้นคือการมีมารยาทที่ดี”
(รายงานโดย มุสลิม)
ข้อคิดที่ได้รับจากบทเรียน
1. มารยาทที่ดีงามเป็นส่วนหนึ่งของคำสอนอิสลาม
2. มุสลิมจะต้องมีมารยาทที่ดีต่อมุสลิมเองและต่อผู้อื่นที่ไม่ใช่มุสลิม
3. ลักษณะของมารยาทที่ดีคือการสร้างความสุข หรือไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
4. มุสลิมจะต้องนุ่มนวลอ่อนโยนต่อคนรอบข้างในสังคม
5. ผลตอบแทนอันมากมายของผู้ที่มีมารยาทที่ดีนั้นเทียบเท่าผู้ที่ถือศีลอดในเวลากลางวันและละหมาดในเวลากลางคืน