ประเภทและระดับชั้นของมนุษย์และสวรรค์
โดย... อ.ยาซิร กรีมี
สวรรค์นั้นมีระดับชั้น (ความสวยงาม ความสุขสบาย สิ่งอำนวยความสะดวก) ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระดับของคุณความดี (อิบาดาต – มุอามาลาต) ที่แต่ละคนได้กระทำกันในดุนยานี้ ระดับชั้นของแต่ละระดับชั้น มีความห่างกันระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน กล่าวคือแต่ละคน แต่ละระดับชั้นจะเป็น ชาวสวรรค์ อีกกลุ่มหนึ่งเสมือนกับการที่เราอยู่บนดุนยา และมองเห็นดวงดาวที่กระพริบแสงอยู่บนท้องฟ้า ส่วนชาวสวรรค์ทางโน้น เขาก็จะเป็นชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน
ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือ ชาวสวรรค์บางกลุ่มนี้ ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บอกว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนในยุคแรกของอิสลาม ดังที่อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัล-วากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 10-14 พระองค์ตรัสยืนยันว่า
“และกลุ่มแนวหน้า คือ กลุ่มแนวหน้า เขาเหล่านั้น คือ บรรดาผู้ใกล้ชิดในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ เป็นกลุ่มชนจำนวนมาก จากชนรุ่นแรกๆ และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อยจากชนรุ่นหลัง”
ชนเหล่านั้นแหละ คือ ลักษณะของผู้ที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงชมเชยไว้ใน อัลกุรอานมีความว่า
“ส่วนหนึ่งจากพวกเขา (ที่ได้เข้าสวรรค์โดยไม่ต้องสอบสวน) คือ บรรดาผู้ที่แข่งขันกันในการทำคุณความดี”
ชนกลุ่มนี้จะเข้าสวรรค์พร้อมกันทั้งหมด กล่าวคือ คนแรกและคนสุดท้ายของพวกเขา จะก้าวเข้าสวรรค์ไปพร้อมๆ กัน ใบหน้าของเขายิ้มแย้ม สดใส เสมือนกับแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
♣ กลุ่มชนต่อมาที่จะได้เข้าสวรรค์หลังจากกลุ่มนี้ คือ กลุ่มอัศฮาบุลยะมีน อัลมุกตะศิดูน กลุ่มนี้ก่อนจะเข้าสวรรค์ จะถูกสอบสวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กล่าวคือ ในวันกิยามะฮฺ การงานต่างๆ ของเขาจะถูกนำเสนอแล้วพระองค์จะสอบสวนหลังจากนั้น พระองค์ก็จะทรงอภัยให้ในความผิดต่างๆ แล้วพระองค์จะทรงตอบแทนแก่เขา กลุ่มนี้ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนในยุคต้นของอิสลาม “คือ ชนรุ่นแรกๆ และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อยจากชนรุ่นหลัง”
♣ บางคนจากชาวสวรรค์ระหว่างการสอบสวน พระองค์จะกล่าวกับมลาอิกะฮฺว่า ให้นำบัญชีการกระทำบาปเล็กๆ น้อยๆ ที่เขากระทำไว้จนเคยชิน และบัญชีบาปใหญ่ที่เขากระทำก็ถูกนำเสนอเช่นกัน แล้วพระองค์ก็ตรัสกับมลาอิกะฮฺต่อไปว่า ให้นำเอาผลตอบแทนในคุณความดีมากแทนที่ความผิดต่างๆ ให้หมด
บ่าวผู้นั้นก็จะกล่าวกับพระองค์ว่า “นี่ ! อะไรกันนี่ (ด้วยความฉงนใจ) ฉันไม่เห็นบัญชีความผิดต่างๆ เลย ทั้งๆ ที่ฉันจำได้เคยทำอะไรที่ไม่ดีเอาไว้บ้าง” และนั่นแหละมันเป็นความเมตตา และความโปรดปรานที่พระองค์ทรงมีกับบ่าวของพระองค์
♣ บางคนจากชาวสวรรค์ พระองค์ทรงปกปิดความผิดต่างๆ ได้แต่วันนั้น พระองค์จะให้เขาได้เห็นความผิดต่างๆ แต่แล้วพระองค์ก็ทรงอภัยให้ จนบ่าวผู้นั้นกระดากอายต่อพระองค์ ในความเมตตาที่มีต่อเขา
และพระองค์ก็บอกกับบ่าวผู้นั้นว่า : แท้จริง เรานั้นได้ปกปิด (ความผิด) ให้กับเจ้าในดุนยา (โดยมิให้ใครเห็นว่าทำบาปอะไรไป) แล้วในวันนี้ ข้าก็จะอภัยในบาปต่างๆ นั้นให้กับเจ้า หลังจากนั้น บัญชีแห่งความดีต่างๆ ของเขาก็ถูกเปิดขึ้น
♣ บางคนจากชาวสวรรค์ ขณะที่เขายืนต่อหน้าตราชั่งทีวัดความดี ความชั่ว และเมื่อบัญชีแห่งความชั่ว และความผิดต่างๆ ถูกกางแผ่นขึ้นจนเขาผู้นั้นคิดว่า เขาต้องวิบัติแล้ว หายนะแล้ว แต่แล้วก็มีบัตรที่บันทึกว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่แท้จริงนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น” มา ณ ที่เขา บัญชีแห่งความผิดและบาปต่างๆ ก็ปลิวว่อนไป
♣ บางคนจากชาวสวรรค์ กำลังเดินด้วยความยากลำบาก บนสะพานซิรอฏแต่แล้วภายหลังเขาก็ผ่านไปด้วยกับความเมตตาของพระองค์ดังซูเราะฮฺ อาละอิมรอน อายะฮฺที่ 185 ความว่า
“แล้วผู้ใดที่ถูกให้ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะแล้ว
และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่น นอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวงเท่านั้น”
♣ บางคนจากชาวสวรรค์จะถูกลงไปชำระโทษในนรกตามความผิดและบาปต่างๆ ที่เขาทำไว้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลงโทษเขาจนกว่าจะสาสม (หมด) จากบาปต่างๆ ที่ได้ทำไว้แล้ว เมื่อหมดโทษ พระองค์ก็จะนำเขากลับขึ้นมาเพื่อเข้าสวรรค์ของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ตรัสกับคนกลุ่มนี้ว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่แท้จริง นอกจากพระองค์” ถึงแม้ว่า ความดีของเขาจะมีน้อยนิดเท่าผงธุลี จงนำพวกเขาขึ้นมาให้พ้นจากการลงโทษในญะฮันนัม
ครั้นเมื่อชนกลุ่มแรก และกลุ่มสุดท้ายได้เข้าสวรรค์แล้ว ความกังวล ความกลัดกลุ้ม ความวิตก ความเครียดต่างๆ ที่เขาคาดไว้ในดุนยาว่าจะประสบกับมันในหลุมฝังศพหรือในวันกิยามะฮฺ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะหมดไป แม้กระทั่งคนที่คิดว่าเขาวิตกกังวลมากที่สุด เมื่อถึง ณ เวลานั้นสิ่งต่างๆ ที่เขาคาดคิดก็หมดไป
ก็จะมีเสียงกล่าวถามขึ้นว่า “ท่านวิตกกังวลอะไรอีกไหม? ท่านมีสิ่งที่คับแค้น หนักอกหนักใจอีกบางไหม?”
บ่าวผู้นั้นตอบว่า “ไม่มีครับ”
แล้วพระองค์ก็ประกาศเรียกชาวสวรรค์ว่า “โอ้บรรดาชาวสวรรค์ทั้งหลาย พวกท่านพอใจในสิ่งต่างๆ หรือไม่?”
ชาวสวรรค์ตอบว่า “ทำไมเราจะไม่พอใจละครับ ในเมื่อพระองค์ท่านมอบให้กับพวกเรา ในสิ่งที่ไม่มีใครในสากลจักรวาลนี้มอบให้แบบพระองค์เลย”
พระองค์กล่าวต่อไปว่า “ข้าจะมอบสิ่งที่ประเสริฐต่อพวกเจ้าอีกต่อไป”
ทันใดนั้นความตายก็จะถูกนำมาในรูปของแกะตัวหนึ่ง และแกะตัวนั้นก็จะถูกเชือด (ความตาย) ระหว่างสวรรค์กับนรก
และจะมีเสียงกล่าวกับชาวสวรรค์ว่า “โอ้ ชาวสวรรค์ทั้งหลาย จงพำนัก ณ สถานแห่งนี้ไปตลอดกาลและเป็นอมตะ”
แล้วม่านก็ถูกเปิดขึ้น ชาวสวรรค์ก็จะได้เห็นพระพักตร์ของพระผู้ทรงยิ่งใหญ่
“ในวันนั้น หลายๆ ใบหน้าจะเบิกบาน จ้องมองไปยังพระเจ้าของฉัน”
ข้าแต่อัลลอฮฺ พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอให้เหล่าข้าพระองค์เป็นผู้ที่เข้าสวรรค์ของพระองค์โดยความสะดวกง่ายดาย และปราศจากการลงโทษด้วยเทอญ และข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ท่านให้พวกข้าพระองค์พ้นจากไฟนรกด้วยเทอญ ข้าแต่พระองค์ ขอพระองค์ทรงรับคำวิงวอนของข้าพระองค์ด้วยเทอญ อามีน
จากนิตยสารรายเดือน อัต-เตาฮีด ญุมาดัล-อูลา 1427
พิมพ์และเผยแพร่โดย กลุ่มอันซอริสซุนนะฮฺ อัล-มุฮัมมะดียะฮฺ ไคโร อียิปต์
ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร 17 มกราคม 2552