บทลงโทษเกี่ยวกับคดีข่มขืนกระทำชำเรา
แปลโดย อับดุลวาเฮด สุคนธา
ผู้กระทำชำเราต่อบุคคลอื่นโดยปกติมักจะเป็นเพศชาย ผู้ถูกกระทำจะเป็นฝ่ายหญิง การบังคับจิตใจหรือฝืนใจนั้นต้องกระทำโดยไม่ได้รับการยิมยอมจากฝ่ายผู้หญิง หากว่าฝ่ายหญิงยินยอมนั้นถือว่าเข้าข่ายการผิดประเวณี(ซีนา) เป็นฐานความผิดอาญา ซึ่งทางกฎหมายอิสลามมีการะบุบทลงโทษ ถือว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็น บาปใหญ่
ดังที่อัลลอฮฺกล่าวว่า
{وَالَّذِينَ لا يَدْعُونَ مَعَ اللَّهِ إِلَهاً آخَرَ وَلا يَقْتُلُونَ النَّفْسَ الَّتِي حَرَّمَ اللَّهُ إِلَّا بِالْحَقِّ وَلا يَزْنُونَ وَمَنْ يَفْعَلْ ذَلِكَ يَلْقَ أَثَاماً. يُضَاعَفْ لَهُ الْعَذَابُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَيَخْلُدْ فِيهِ مُهَاناً. إِلَّا مَنْ تَابَ وَآمَنَ وَعَمِلَ عَمَلاً صَالِحاً فَأُولَئِكَ يُبَدِّلُ اللَّهُ سَيِّئَاتِهِمْ حَسَنَاتٍ وَكَانَ اللَّهُ غَفُوراً رَحِيماً} [سورة الفرقان الآيات 68-70].
“และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ์ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮ์ทรงห้ามไว้
เว้นแต่การลงโทษในวันกิยามะฮ์จะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ
เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว และศรัทธาและประกอบการงานที่ดี
เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮ์จะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี
และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
พระองค์ทรงกล่าวอีกว่า
{الزَّانِيَةُ وَالزَّانِي فَاجْلِدُوا كُلَّ وَاحِدٍ مِّنْهُمَا مِئَةَ جَلْدَةٍ وَلَا تَأْخُذْكُم بِهِمَا رَأْفَةٌ فِي دِينِ اللَّهِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ وَلْيَشْهَدْ عَذَابَهُمَا طَائِفَةٌ مِّنَ الْمُؤْمِنِينَ} [سورة النور الآية 2].
“หญิงมีชู้และชายมีชู้ พวกเจ้าจงโบยแต่ละคนในสองคนนั้นคนละหนึ่งร้อยที
และอย่าให้ความสงสารยับยั้งการกระทำของพวกเจ้าต่อคนทั้งสองนั้น
ในบัญญัติของอัลลอฮฺเป็นอันขาด หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก
และจงให้กลุ่มหนึ่งของบรรดาผู้ศรัทธาเป็นพยานในการลงโทษเขาทั้งสอง”
รายงานตัวบทหะดีษท่านอบูฮูรอยเราะ แท้จริงท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
«لا يزني الزاني حين يزني وهو مؤمن»
“ผู้ที่ไม่ต้องการจะกระทำผิดประเวณีในขณะที่ เขานั้นมีความสามารถจะกระทำมัน ผู้นั้นคือ ผู้ศรัทธา”
( บันทึกโดย บุคครีและมุสลิม)
การขืนใจเท่ากับการทำผิดประเวณี ฉะนั้นถือว่ามีความผิดที่หนัก เพราะนั้นคือบาปใหญ่สำหรับผู้ที่ขืนใจหญิงสาว และสำหรับผู้ถูกขืนใจนั้นจะไม่มีความผิดและบทลงโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
หลักบทบัญญัติศาสนาหญิงนั้นจะต้องปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากการข่มขืนเท่าที่มีความสามารถของตัวนาง ถึงแม้นว่านางนั้นจะถูกฆ่าก็ตาม
มีรายงานตัวบทหะดีษ จากท่าน ซะอีด บิน เซด ได้ยิน ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
«من قُتل دون ماله فهو شهيدٌ، ومن قُتل دون دمه فهو شهيدٌ، ومن قُتل دون دينه فهو شهيدٌ، ومن قُتل دون عرضه فهو شهيدٌ»
“บุคคลใดที่ถูกฆ่ามาจากการปกป้องทรัพย์สิน เลือดเนื้อ และศาสนาอิสลาม เกียรติ ของเขา ถือว่า ตายในสภาพซะฮีด”
( บันทึกอบูดาวูด ติรมีซีย์)
ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
«من قُتل دون مظلمته فهو شهيدٌ»
“บุคคลถูกฆ่าเพราะมาจากการถูกอธรรม เขานั้นเสียชีวิตในสภาพซะฮีด”
( บันทึกโดย อิหม่ามอะหมัด และ นะซาอีย์)
เช่นเดียวกันหากนางนั้นขัดขืนต่อผู้กระทำชำเรา จนกระทั่งเขาเสียชีวิต ไม่ถือว่านางนั้นกระทำความผิดแต่ประการใด
ท่านอิหม่าม ซาฟีอีย์ กล่าวว่า ใครที่ละเมิดทรัพย์สิน เลือดเนื้อของผู้ไม่มีทางสู้ เว้นแต่เขานั้นจะถูกฆ่า (คือผู้ที่ละเมิดถูกฆ่า) ไม่มีข้อบังคับแก่เขา (ผู้ที่ฆ่า) จะต้องจ่ายค่าสินใหมใดๆทั้งสิ้น
سبل السلام3/507
ท่าน อิหม่าม นะวะวีย์ กล่าวว่า บุคคลใดที่เป็นมุสลิม จากคนต่างศาสนิก ทาส คนอิสระ เด็ก คนบ้าที่ปกป้องตัวเอง โดยการฆ่าผู้ที่มาละเมิดแก่เขานั้น ไม่จำเป็นแก่เขานั้นจะต้องรับการลงโทษด้วยการชดใช้ด้วยชีวิต ค่าปรับใดทั้งสิ้น
روضة الطالبين7/391.
ท่านอิบนุ กุดามะ กล่าวว่า การฆ่าเพื่อปกป้องตัวเองนั้น ไม่มีการชดใช้ใดๆทั้งสิ้น
الشرح الكبير5/455.
มติเอกฉัทน์ของปวงปราชญ์ ในกรณีสตรีที่ถูกข่มขืน สำหรับนางนั้นไม่มีความผิดแต่ประการใด เพราะนางถูกขืนใจ ถูกบังคับ
จากท่านอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุมา เล่าว่า: ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ กล่าวว่า:
" إِنَّ اللهَ تَجَاوَزَ لِيْ عَنْ اُمَّتِيْ الخَطَأَ وَالنِّسْيَانَ وَمَا اسْتُكْرِهُوْا عَلَيْهِ ".
“แท้จริง อัลลอฮฺได้มอบสิทธิแก่ฉันด้วยการไม่ทรงเอาผิดกับประชาชาติของฉัน ในสิ่งที่เป็นความผิดพลาด การหลงลืม และสิ่งที่พวกเขาถูกข่มขู่บังคับให้กระทำโดยไม่เต็มใจ”
(หะดีษอยู่ในระดับหะสัน บันทึกโดย อิบนุมาญะฮฺ , อัล-บัยฮะกีย์ , และท่านอื่น ๆ นอกจากทั้งสอง)
ฉะนั้นผู้ที่ถูกบังคับให้กระทำนั้นไม่มีบทลงโทษ
ท่านอิบนุ กุดามะฮฺ กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษแก่ผู้ที่ถูกบังคับ
บทลงโทษผู้ที่ข่มขืน คือ บทลงโทษเดียวกันกับผู้ที่ผิดประเวณี
โทษของผู้ทำผิดประเวณี
- โทษของผู้ที่แต่งงานแล้ว (อัลมุหฺศ็อน) คือ การขว้างด้วยกับก้อนหินจนกระทั่งเสียชีวิต
- โทษของผู้ที่ยังไม่แต่งงานโสด (อัลบิกรฺ) คือ เฆี่ยนตี 100 ครั้ง และเนรเทศเป็นเวลา หนึ่ง1 ปี
ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ กล่าวว่า
«البكرُ بالبكر مائةُ جلدةٍ وتغريبُ عام»
“ผู้ที่ยังไม่แต่งงานโสด (อัลบิกรฺ) คือ เฆี่ยนตี 100 ครั้ง และเนรเทศเป็นเวลา หนึ่ง1 ปี”
( บันทึก มุสลิม)
ตามสายรายงานจากท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ กล่าวว่า ขว้างหินกับชายสองคน มาฮิส กับ ฆอมีดียะ ชาวยิว ที่ผิดประเวณี
ตามมติของปราช์ผู้รู้ทั้งหลาย มาลีกี และ ซาฟีอีย์
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
{إِنَّمَا جَزَاء الَّذِينَ يُحَارِبُونَ اللّهَ وَرَسُولَهُ وَيَسْعَوْنَ فِي الأَرْضِ فَسَاداً أَن يُقَتَّلُواْ أَوْ يُصَلَّبُواْ أَوْ تُقَطَّعَ أَيْدِيهِمْ وَأَرْجُلُهُم مِّنْ خِلافٍ أَوْ يُنفَوْاْ مِنَ الأَرْضِ ذَلِكَ لَهُمْ خِزْيٌ فِي الدُّنْيَا وَلَهُمْ فِي الآخِرَةِ عَذَابٌ عَظِيمٌ} [سورة المائدة الآية 33].
“แท้จริง การตอบแทนแก่บรรดาผู้ที่ทำสงครามต่ออัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์ และพยายามบ่อนทำลายในแผ่นดิน นั้นก็คือ
การที่พวกเขาจะถูกฆ่า หรือถูกตรึงบนไม่กางเขน
หรือมือของพวกเขาและเท้าของพวกเขาจะถูกตัดสลับข้าง
หรือถูกเนรเทศออกไปจากแผ่นดิน
นั้นก็คือพวกเขาจะได้รับความอัปยศในโลกนี้
และจะได้รับการลงโทษอันใหญ่หลวงในปรโลก”
ผู้ที่ข่มขืนต้องจ่ายค่าปรับให้กับผู้ที่ถูกข่มขืน จากคำกล่าว อิหม่าม มาลีกี ซาฟีอีย์ ฮัมบาลี
ท่านอิบนุกุดามะ กล่าวว่า จำเป็นจะต้องจ่ายค่ามะฮัร หมายถึง (ค่าปรับ) ให้แก่นางมาจากการร่วมเพศที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา
ฉะนั้นการล่วงละเมิดทางเพศ จำเป็นจะต้องเสียค่าปรับให้แก่นางนั้น (อิหม่ามซาฟีอี อัมบาลีย์) เพราะท่านเราะสูลุลลอฮฺ ﷺ กล่าวว่า
«فلها المهرُ بما استحلَّ من فرجها».
“ค่าสินสอน (มะฮัร) นั้นคือการทำให้นางนั้นเป็นที่อนุมัติ”
ท่านอิหม่าม นะวะวีย์ กล่าวว่า การล่วงละเมิดพรมจารีของสตรีนั้นมีสองประเภท
- การล่วงละเมิดโดยใช้อวัยวะเพศ
- การล่วงละเมิดกับการใช้สิ่งของอื่น เช่น นิ้วมือ ไม้
ทั้งสองประเภทเข้าข่ายการล่วงละเมิดพรมจารีของสตรี ทั้งหมดจำเป็นจะต้องจ่ายค่าปรับ
روضة الطالبين3/385.
ส่วนขอบเขตของการล่วงละเมิดในอวัยวะของสตรี (การฉีกขาดหรือเกิดร่องรอย ความเสียหาย)มีความขัดแย้งกันในบรรดานักนิติศาสตร์อิสลาม ทางบทบัญญัติไม่มีการวางกำหนดเอาไว้อย่างละเอียดในเรื่องนี้มีสภาพที่แตกต่างกันมากๆ สิ่งที่ดีที่สุดคือการกลับไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ในการกำหนดกับสภาพของอวัยวะผู้หญิงที่ถูกข่มขืน
ท่านเชค อุษัยมีนกล่าวว่า การล่วงละเมิดพรมจารีของสตรีโสดกับสตรีที่แต่งงาน(แม่หม้าย) แล้วนั้นมีความแตกต่างกัน หากเป็นหญิงหม้าย เสียค่าปรับ หนึ่งพันรียาล (เงินซาอุ) เท่ากับ หมื่นบาท หากว่าเป็นหญิงโสด จ่ายค่าปรับ สองพันรียาล เท่ากับ สองหมื่นบาท (เป็นค่าปรับในการข่มขืน หนึ่งพันรียาลและค่าปรับ ล่วงเกินพรหมจรรย์อีกหนึ่งพันรียาล)
الشرح الممتع 12/313