ความดีที่ถูกมองข้าม
โดย บินตฺ สอี๊ด
การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ผู้เป็นเจ้าแห่งสากลจักรวาล
ขอความสิริมงคล ความจำเริญจากเอกองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จงประสบแด่ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ผู้เป็นต้นแบบแห่งศรัทธาชน ผู้ตั้งมั่นอยู่บนมารยาทอันสูงส่ง ดีงาม และขอความสิริมงคล ความจำเริญจากเอกองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จงประสบแด่วงศ์วานของท่านและบรรดาสาวกของท่าน ตลอดจนบรรดาผู้ปฏิบัติตามพวกเขาด้วยความดีงาม ตราบจนวันแห่งการสอบสวนตอบแทน
มนุษย์ และ ญิน ถูกบังเกิดมาด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ เพื่ออิบาดะฮฺ (เคารพภักดี)ต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาคี หุ้นส่วนร่วมกับพระองค์
อิสลามสั่งใช้ให้มนุษย์ ปฏิบัติสิ่งที่เป็นฟัรฎูให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน และสำหรับผู้ใดที่ต้องการใกล้ชิดกับอัลลอฮฺมากยิ่งขึ้น อิสลามก็ยังเปิดโอกาสให้มนุษย์ปฏิบัติสิ่งที่เป็นซุนนะฮฺ (แบบฉบับ) ของท่าน นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงรัก และโปรดปรานการกระทำ ที่กระทำเป็นประจำ สม่ำเสมอ แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ดังท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“การงานที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงโปรดปรานมากที่สุดก็คือ กระทำอย่างสม่ำเสมอ แม้นว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์)
ซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้น มีมากมาย ทั้งที่เรารู้ และปฏิบัติกันเป็นประจำสม่ำเสมอ หรืออาจจะยังไม่เคยปฏิบัติเลยก็ตาม อีกทั้งที่เราไม่เคยรู้ว่าการกระทำเช่นนี้ ถือเป็น ซุนนะฮฺที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กระทำไว้
ซุนนะฮฺต่างๆ นั้น มีดังนี้ คือ
1. การละหมาดเตาบะฮฺ (ขอลุแก่โทษ) ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ไม่มีบ่าวคนใดที่กระทำความผิด บาป และเขาอาบน้ำละหมาดชำระล้างอวัยวะต่างๆ อย่างดีที่สุด แล้วเขาก็ลุกขึ้นทำละหมาดสองร็อกอะฮฺ ต่อมาเขาก็ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺจากความผิด บาปนั้น เว้นแต่ อัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษให้แก่เขา”
(บันทึกโดย อิมาม อบูดาวู๊ด)
2. การสุญูดเพื่อแสดงการขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ดังฮะดิษที่ว่า
“แท้จริง เมื่อมีเรื่องราว หรือเหตุการณ์ที่ทำให้ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดีใจ ท่านจะก้มลงคารวะแสดงความกตัญญูต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
(บันทึกโดย อิมาม อบูดาวู๊ด)
3. การละหมาดวิตรฺ การละหมาดเป็นจำนวนคี่ ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริง อัลลอฮฺเพิ่มการละหมาดอันหนึ่งให้แก่พวกท่าน นั่นคือ การละหมาดวิตรฺ ท่านทั้งหลายจงละหมาดมันระหว่างหลังเสร็จสิ้นจากการละหมาดอิซาอฺ จนกระทั่งก่อนการละหมาดฟัจรฺ (ละหมาดศุบฮิ)”
(บันทึกโดย อิมาม อะฮฺมัด)
4. การกล่าวซิกรุลลอฮฺ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) ขณะขึ้น ลงจากที่สูง ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ขณะที่เราขึ้นสู่ที่สูง เราจะกล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) และขณะที่เราลงจากที่สูง เราจะกล่าวตัสบี๊ฮฺ (ซุบฮานัลลอฮฺ)”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์)
5. การรับประทานอาหารด้วยสามนิ้วมือ คือ นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลาง ดังฮะดิษที่ว่า
“ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จงรับประทานอาหารด้วยกับสามนิ้วมือ และจะทำความสะอาดมือของท่านด้วยลิ้น ก่อนที่จะเช็ดหรือล้างออก”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
6. การปิดภาชนะอาหารและเครื่องดื่มให้มิดชิดในยามกลางคืน ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ท่านทั้งหลายจงปิดภาชนะอาหารและเครื่องดื่มให้มิดชิด เพราะในแต่ละปี จะมีค่ำคืนหนึ่งที่ เชื้อโรคจะแพร่กระจายลงมา และมันจะตกลงไปในภาชนะอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีฝาปิดมิดชิด”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
7. ให้นั่งดื่มและรับประทานอาหาร ดังฮะดิษที่ว่า
“แท้จริง ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ห้ามมิให้ผู้ใดยืนดื่มน้ำ
ท่านกอตาดะฮฺ กล่าวว่า พวกเราได้เอ่ยถามว่า หากเป็นการยืนรับประทานอาหารหล่ะครับ?
ท่านตอบว่า นั่นเลวร้ายและ เป็นอันตรายยิ่งกว่า”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
8. ห้ามมิให้ตำหนิอาหาร ดังฮะดิษที่ว่า
“ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มิเคยตำหนิอาหารแต่อย่างใด หากท่านชอบอาหารชนิดใด ท่านก็รับประทาน และหากท่านมิชอบ ท่านก็ไม่รับประทาน”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์ และอิมาม มุสลิม)
9. การใช้มือลบร่องรอยออกจากใบหน้าหลังจากตื่นนอน ดังฮะดิษที่ว่า
“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะใช้มือของท่านลบร่องรอยการนอนหลับ ออกจากใบหน้าของท่าน ขณะที่ท่านตื่นนอน”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
10. การเดินโดยไม่สวมใส่รองเท้า ดังฮะดิษที่ว่า
“ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สั่งใช้ให้เราเดินเปลือยเท้าในบางครั้ง”
(บันทึกโดย อิมาม อะฮฺมัด)
11. การละหมาดสองร็อกอะฮฺก่อนเข้า ออกจากบ้าน
12. การละหมาดฎุฮา (ละหมาดในตอนสาย)
13. การอาบน้ำละหมาดก่อนเข้านอน
14. การอ่านอายะฮฺอัลกุรซีย์ทุกครั้ง หลังละหมาดฟัรฎู
15. การขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺให้มากๆ
16. การขอดุอาอฺให้กับพี่น้องมุสลิมแบบลับๆ
17. การกล่าวตอบรับอะซาน
18. การขอดุอาอฺหลังจากที่ได้อะซานเสร็จแล้ว
19. การให้สลามแก่เด็ก
20. การให้สลามแก่มุสลิม ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
21. การยิ้มให้แก่กัน
22. การขออนุญาตก่อนเข้าห้อง หรือบ้านผู้อื่นสามครั้ง
23. การปัดฝุ่น ดิน ออกจากอาหารที่ตกพื้น และนำมารับประทานต่อ
24. การถ่มน้ำลายไปทางซ้ายสามครั้ง เมื่อมีการกระซิบกระซาบจากชัยฏอน
25. การละหมาดโดยสวมรองเท้า เพื่อให้ต่างจากพวกยะฮูดีย์
ซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีให้เลือกปฏิบัติมากมายที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น และจะสังเกตได้ว่า มีทั้งซุนนะฮฺที่เป็นการปฏิบัติอิบาดะฮฺ และซุนนะฮฺที่แสดงให้เห็นถึงมารยาทอันสูงส่ง ตลอดจนกิจวัตรประจำวันอันเรียบง่ายของท่าน ซึ่งมุสลิมทุกคนควรนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต หากแต่มุสลิมมิได้เอาใจใส่ต่อซุนนะฮฺต่างๆ เหล่านั้น อันเนื่องจากเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย นั่นก็เพราะการปฏิบัติสิ่งที่เป็นฟัรฎูสำหรับบางคนก็ยังกระทำได้ไม่สม่ำเสมอ หรือยังขาดตกบกพร่องอยู่
พึงรำลึกเถิด ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย เราทุกคนนั้นถูกบังเกิดมาเพื่อจุดประสงค์ใด ดุนยาที่ย่อมสูญสลาย หรืออาคิเราะฮฺที่นิจนิรันดร ?
อนุสรณ์งานประจำปี 2516 มุสลิมวิทยาคาร