การพัฒนาคนของท่านนบีมุฮัมมัด
โดย ชัช หะซาเล็ม
การพัฒนาคน ถือว่าเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม แท้ที่จริงคนกับสังคมไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ สังคมจะดีได้ต้องประกอบด้วยคนดี คนที่จะดีได้ต้องได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เมื่อกล่าวถึงรูปแบบของการพัฒนานั้น ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม คือแบบอย่างของนักพัฒนาอย่างแท้จริง ความสำเร็จในการพัฒนาคนสมัยของท่าน ย่อมเป็นที่ประจักษ์และสามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาคนทุกยุคสมัย
อัลลอฮฺทรงรับรองว่าท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด ตรัสความว่า
“โดยแน่นอนยิ่ง ได้มีแบบอย่างอันดีงามในร่อซูลของอัลลอฮฺ
สำหรับเจ้า ผู้ซึ่งหวังในอัลลอฮฺ และเชื่อมั่นในวันอาคิเราะฮฺ”
(ซูเราะฮฺ อัลอะฮฺซาบ 33 : 21)
หลักการพัฒนาคนของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เริ่มจากการพัฒนาตัวของท่านเอง แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจากชีวิตของเด็กกำพร้าที่ยากจน แต่สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของโลก บุรุษซึ่งมีความสง่างามทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างครบถ้วน
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยึดหลักการและแนวทางในการดำเนินชีวิต ดังนี้ คือ ความซื่อสัตย์ เกียรติประวัติในคุณธรรมข้อนี้ของท่านเป็นที่ประจักษ์ทั้งในหมู่มิตรและศัตรู เป็นที่กล่าวขวัญและยอมรับในกลุ่มชนอาหรับสมัยนั้น ด้วยการมีความซื่อสัตย์อย่างเป็นเลิศของท่าน ท่านได้รับการยกย่องว่า “อัล-อะมีน” หมายถึง ผู้ที่ได้รับการไว้วางใจ
นอกจากความซื่อสัตย์แล้ว ท่านนบีเป็นผู้มีความขยันและอดทน ท่านทำงานทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ในวัยเด็กท่านช่วยลุงเลี้ยงแพะ ท่านรับจ้างเลี้ยงสัตว์ เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม ท่านช่วยลุงค้าขาย และพัฒนามาเป็นผู้คุมกองคาราวานของท่านหญิงคอดีญะฮฺไปค้าขายที่ซีเรีย ท่านอดทนต่อความยากลำบาก และต่อสู้กับปัญหาทุกรูปแบบ
นอกจากนั้น ท่านยังเป็นบุคคลที่มีความฉลาด มีความกตัญญู มีจิตใจเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ และมีกิริยามารยาทที่งดงามที่สุด อย่างที่หาใครเปรียบไม่ได้ คุณสมบัติดังกล่าว เป็นหนทางที่นำท่านไปสู่ความสำเร็จในชีวิต แม้ในขณะนั้นท่านยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นร่อซูล ผู้ประกาศศาสนาก็ตาม
เมื่อถึงวาระที่ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นร่อซูล ผู้นำบทบัญญัติของอัลลอฮฺมาเผยแผ่แก่มนุษย์ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการปฏิรูปสังคมที่ตกต่ำในสมัยนั้นซึ่งเรียกว่า “ยุคญาฮิลียะฮฺ” ด้วยการเริ่มพัฒนาคนเป็นอันดับแรก โดยใช้แนวทางการให้การศึกษา ในหลักธรรมคำสอนแห่งอิสลามเพื่อการพัฒนาคน
ในสมัยของท่าน ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้หลักการแห่งความอดทน เป็นแนวทางในการพัฒนายกระดับจิตใจคนอีกประการหนึ่งด้วย จะเห็นได้จากเมื่อสมัยที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เผยแผ่อิสลามที่นครมักกะฮฺนั้น ตัวของท่านและบรรดาซอฮาบะฮฺถูกลอบทำร้าย และถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ท่านได้ปลอบโยนเหล่าซอฮาบะฮฺของท่านให้มีความอดทน อดกลั้น ต่อการกระทำที่เลวร้ายเหล่านั้น และให้อภัยต่อศัตรู
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า
“บุคคลใดประสบภัยกับเขา เขาอดทน เมื่อเขาได้รับการประทานสิ่งใดจากอัลลอฮฺ เขาก็ขอบคุณ เมื่อเขาได้รับการฉ้อฉล เขาก็ให้อภัย เมื่อเขาฉ้อฉลผู้อื่น เขาก็ขออภัย แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการอภัย และการชี้นำจากอัลลอฮฺ”
(รายงานโดย มุสลิม)
หลักในการพัฒนาคนอีกประการหนึ่งของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม คือ การสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มคน ทำให้เกิดความรู้สึกรักใคร่ ปรองดองระหว่างกัน ดังเช่นที่ท่านได้เคยสร้างสัมพันธภาพแห่งความเป็นพี่น้อง ให้เกิดขึ้นในกลุ่มชนของชาวมุญาฮิรีนกับชาวอันศอร ด้วยการที่ท่านนบีได้เรียกตัวแทนจากชนเผ่าทั้งสองมาพบ
และกล่าวกับพวกเขาว่า “นับแต่นี้เป็นต้นไป ท่านทั้งสองคือพี่น้องกัน”
ความสามัคคีที่เกิดขึ้นในระหว่างกลุ่มคนนั้น เป็นสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ในสังคมได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวนำพาความสงบเรียบร้อยมาสู่สังคม และนั่นย่อมเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่า การพัฒนาคน ได้ก้าวไปสู่จุดแห่งความสำเร็จอย่างแท้จริง ดังเช่นที่ได้ปรากฏขึ้นในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ในสังคมปัจจุบัน แม้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีจะเจริญขึ้นมาก เป็นยุคที่คนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจริญทางวัตถุที่ทันสมัย แต่นั่นก็ไม่ใช่เครื่องหมายที่แสดงว่า คนจะถูกพัฒนาให้เจริญขึ้นตามวัตถุเหล่านั้นไปด้วย กล่าวคือ การพัฒนาคนนั้นจะต้องพัฒนาให้เกิดความเจริญในทุกๆ ด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม และอารมณ์ จึงจะถือได้ว่าเป็นการพัฒนาคนให้เจริญอย่างแท้จริง
และในฐานะที่เกิดมาเป็นมุสลิมอยู่ภายใต้ร่มเงาของอิสลามเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ที่จะต้องช่วยกันแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาบุคคลให้เป็นคนที่มีความเจริญทุกๆ ด้าน เพื่อจะทำให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นสังคมที่เจริญขึ้นอย่างสมบูรณ์ ด้วยหลักการพัฒนาคนที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้วางแนวทางไว้ให้นั้นมีหลักฐานสนับสนุนจากอัลกุรอาน
อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า
“อัลลอฮฺจะไม่เปลี่ยนแปลงกลุ่มชนใด จนกว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตนเอง”
(ซูเราะฮฺ อัรเราะอดฺ 13 : 11)
การพัฒนาคนเป็นสิ่งที่อิสลามส่งเสริมและสนับสนุนให้กระทำ ซึ่งต้องนำพาตนเองให้มาสู่การพัฒนาตน ตามแนวทางของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อความสำเร็จอันงดงามที่พึงจะได้รับทั้งในโลกดุนยานี้และอาคิเราะฮฺ (โลกหน้า)
วะบิ้ลลาฮิตเตาฟิกวั้ลฮิดายะฮฺ
ที่มา : วารสารมุสลิม กทม.