ความละอายของเธออยู่ที่ไหน ?!
  จำนวนคนเข้าชม  5119


ความละอายของเธออยู่ที่ไหน ?!

 

โดย อุมมุ อุ้ลยา

 

          สังคมหน้าจอที่เราท่านทั้งหลายใช้เวลาอยู่กับมัน ทำให้เราละเลย หลงลืม ในเรื่องของความละอายไปเสียสนิท  ความเคยชินกับการเสพข้อมูลที่ทุกคนพยายามจะเปิดเผยความเป็นตัวตนออกมาอย่างไร้การไตร่ตรอง ส่งผลให้ความคิด ความรู้สึกของคนหมู่มากคล้อยตามไปในทิศทางเดียวกันอย่างน่าหดหู่

 

الحياء من الرجال حسن ولكنه من النساء أحسن

ความละอายที่มีอยู่ในบุรุษนั้น คือสิ่งดี หากแต่มีอยู่ในสตรี จักดียิ่ง

 

สุภาษิตนี้ น่าจะเป็นคติสอนใจได้ดีสำหรับสตรีผู้คิดใคร่ครวญ !

          การเปิดเผยตัวตนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่ทุกคนสามารถจ้องมองมาได้ทั้งหมดแม้ไม่ได้รู้จัก ไม่ว่าจากภาพ เสียง หรือตัวอักษรก็ดี สามารถกรองตัวตน”  ของบุคคลนั้นๆ ได้ในบางส่วน ถ้อยคำที่ถูกเปิดเผยในที่สาธารณะสามารถคาดเดานิสัย ความชอบ ความถนัด และสิ่งที่คนๆ นั้นสนใจและติดตาม และสิ่งใดกันเล่าที่เธอเปิดเผยออกมา ?

          แต่ละโพสต์ที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวเธอ ความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว ฤาทุกวันนี้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องส่วนรวมที่โลกต้องร่วมรับรู้ ! ขณะเดียวกันเรื่องส่วนรวมที่สมควรต้องรับรู้ กลับกลายเป็นแค่เรื่องส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับความสนใจ

 

           ในที่สาธารณะ ความพลุกพล่านจอแจของผู้คน อาจทำให้เราลืมที่จะใส่ใจกับสิ่งตรงหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เด่นชัดขึ้นมาทันทีในสายตา คือภาพที่ทำให้ต้องรู้สึกว่าน่าละอายใจเหลือเกิน” 

 

          ทั้งหมดทั้งมวลของศาสนา คือ การดำรงไว้ซึ่งมารยาท และมารยาทของอิสลามก็คือ การมีความละอาย หากหัวใจไม่ละอายเสียแล้ว ร่างกายก็จะกล้าทำในสิ่งที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทรงตักเตือนห้ามปรามเอาไว้ ไม่แยแสใส่ใจกับความถูกผิด ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี กระทั่งเห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว (ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครองเราให้พ้นจากสภาพดังกล่าวด้วยเถิด

 

           ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กำชับอุมมะฮฺของท่านเกี่ยวกับความละอายเอาไว้มากมายหลายฮาดีษด้วยกัน ส่วนหนึ่งจากโอวาทของท่านมีดังต่อไปนี้

 

الـحَيَاءُ كُلُّهُ خَيْرٌ

ความละอายทั้งหมดทั้งมวลนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคุณงามความดี

(บันทึกโดยอิมาม มุสลิม)

الحَيَاءُ لا يَأْتِي إِلا بِخَيْرٍ 

ความละอายจะไม่นำสิ่งใดมา นอกจากความดีงามเท่านั้น

(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม)


الحَيَاءُ مِنَ الإِيمَانِ، وَالإِيمَانُ فِي الجَنَّةِ؛ وَالبَذَاءُ مِنَ الجَفَاءِ، وَالجَفَاءُ فِي النَّارِ

ความละอายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา และการมีศรัทธานั้นทำให้ได้เข้าในสวรรค์ 

ส่วนความหยาบกระด้าง คือส่วนหนึ่งของความเสื่อมทราม (ไร้ศีลธรรม) และความเสื่อมทรามนั้นอยู่ในนรก"

(บันทึกโดยอิมาม อะฮฺมัด อิบนิ ฮิบบาน และอัตติรมิซีย์)

 

مَا كَانَ الحَيَاءُ فِي شَيءٍ إِلَّا زَانَهُ، وَلَا كَانَ الفُحْشُ فِي شَيءٍ إِلَّا شَانَهُ

เมื่อความละอายปรากฏอยู่ในสิ่งใด ย่อมจะทำให้สิ่งนั้นงดงาม

และเมื่อความหยาบกระด้างปรากฏอยู่ในสิ่งใด ย่อมจะทำให้สิ่งนั้นหม่นหมองน่าตำหนิ

(บันทึกโดย อิมาม อัตติรมิซีย์)

 

           ความละอายยังเป็นเครื่องชี้วัดความศรัทธาของคนเรา เพราะหัวใจที่ศรัทธาเท่านั้นที่จะรักษาความละอายเอาไว้ได้ในทุกสภาพการณ์ เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกละอายน้อยลง ศรัทธาก็จะเริ่มลดน้อยพร่องลงตามไปด้วย ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

 

الـحَيَاءُ وَالإِيمَانُ قُرِنَا جَمِيعًا، فَإِذَا رُفِعَ أَحَدُهُمَا رُفِعَ الآخَرُ

ความละอายและความศรัทธานั้นเป็นของคู่กัน

เมื่อสิ่งหนึ่งถูกถอดถอนออกไป อีกสิ่งก็จะถูกถอดถอนตามไปด้วยเช่นกัน

(บันทึกโดย อัลฮากิม)

 

ท่านอุมัร อิบนิ้ล ค็อฏฏอบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า :

          “ใครที่ละอายน้อยลง การยับยั้งจากความผิดบาปของเขาก็จะน้อยลงตามไปด้วย และใครที่การยับยั้งจากความผิดบาปน้อยลง หัวใจของเขาก็ตายสนิทแล้ว

 

อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ มะดาริจญ์ อัซซาลิกีน เกี่ยวกับความละอายว่า :  

          “ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต เพราะหัวใจที่มีชีวิต คือ หัวใจที่มีอุปนิสัยแห่งความละอายอย่างแรงกล้า และส่วนหนึ่งจากการตายด้านของหัวใจและจิตวิญญาณ ก็คือ การที่ความละอายลดน้อยพร่องลง ดังนั้น ตราบใดที่หัวใจยังคงเป็นหัวใจที่มีชีวิตอยู่มากเท่าใด ความละอายก็จะเต็มเปี่ยมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

 

           สุภาษิตไทยที่ว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล  เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดี ที่น่าจะสะกิดใจเราก่อนที่จะสื่อสาร ไม่ว่าในช่องทางใด ภาพและภาษาของสตรีที่สื่อออกมาในที่สาธารณะยิ่งนับวันยิ่งต้องทบทวน ไม่เพียงเรือนร่างที่ถูกกำชับให้ปกปิด แต่วาจาที่สื่อความหมายยิ่งต้องคิดและไตร่ตรอง คำนินทา คำด่าทอ คำหยาบคาย ถูกนำมาใช้อย่างไม่เขินอาย วลีที่ว่าแบ่งปันประสบการณ์”  กลายเป็นพื้นที่บอกเล่าเรื่องส่วนตัวที่ควรจะปกปิดเป็นความลับ 

 

           ความละอาย คือ อาภรณ์ที่ล้ำค่าของสตรี สตรีจะมีเกียรติก็เพราะความละอายที่เธอมี เมื่อเธอกล้าสื่อภาษา กล้าแสดงกิริยา ที่ไม่สอดคล้องกับความละอายแล้ว ก็เท่ากับว่าเธอกำลังประจานตนเอง และดูแคลนศักดิ์ศรีของตัวเธอเอง คนที่ไม่เคารพตัวเอง ก็ย่อมไม่สมควรจะได้รับการเคารพเช่นกัน 

 

           อีกสิ่งที่น่าสลดใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่พลอยชื่นชอบยินดี และส่งต่อแบ่งปันความไม่ละอายนั้นให้ยิ่งกระจายออกไป ซึ่งเท่ากับว่ากำลังยอมรับและเห็นดีเห็นงามกับสิ่งตรงหน้าอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ เมื่อยินดีชื่นชอบกับสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ก็เท่ากับว่าตนกำลังทำในสิ่งนั้น และพร้อมใจยอบรับในผลลัพท์ของมัน !

  

           ขออัลลอฮฺ ตะอาลา โปรดทรงให้เราเห็นความถูกต้องเป็นความถูกต้อง และให้เราได้ดำเนินตามความถูกต้องนั้น และโปรดทรงทำให้เราเห็นความผิดเป็นความผิด และให้เราได้ปลีกตัวออกห่างจากความผิดนั้น และขอพระองค์ทรงปกปิดเราไว้ด้วยอาภรณ์แห่งความละอายด้วยเถิด อามีน