เตือน...ให้ระวังสิ่งเสพติด
  จำนวนคนเข้าชม  1806


เตือน...ให้ระวังสิ่งเสพติด

 

โดย .มาลิก โยธาสมุทร 

 

          ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ จงเกรงกลัวอัลลอฮฺ ตะอาลา เถิด และจงกตัญญูต่อพระองค์เถิด อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงให้เกียรติแก่มนุษย์เหนือสิ่งถูกสร้าง (มุคลู๊ก) ทั้งหลาย ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า

 

          “และแท้จริงเรา (อัลลอฮฺ) ได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัมและเราได้แบกอุ้มพวกเขาไว้ ทั้งบนบกและในทะเล และเราได้ให้ปัจจัยยังชีพ (ริสกี) ที่ดีๆ แก่พวกเขา และเราได้ให้พวกเขามีความประเสริฐเลิศกว่า บรรดาสิ่งที่เราได้สร้างขึ้นมาอย่างมากมาย” 

(อัลอิสร็ออฺ 17/70)

 

          จากสิ่งที่อัลลอฮฺทรงให้เกียรติแก่มนุษย์นั้น ก็คือ สติปัญญาซึ่งประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นพิษ อะไรเป็นภัย หากเมื่อสูญเสียสติ เขาก็ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ ซึ่งแตกต่างไปจากสัตว์เดรัจฉาน ที่ยังเป็นประโยชน์ต่อเขา แต่มนุษย์ที่เสียสติ กลับไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย มิหนำซ้ำยังเป็นภาระแก่ผู้อื่นด้วย

 ♣ ด้วยสติปัญญานี่เองที่มนุษย์ควรได้ใคร่ครวญ ดังบรรดาอายาตของอัลลอฮฺ ทำให้มีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถูกต้อง 

 ♣ และด้วยสติปัญญานี่เองที่มนุษย์ประดิษฐ์ คิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมามากมาย

 ♣ ด้วยสติปัญญานี่เองทำให้มนุษย์สูงส่ง บรรลุสู่ความประเสริฐและไม่ต่ำต้อย สามารถป้องกันภัยอันตรายที่จะมาประสบได้ 

 

          อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงขนานนามสติปัญญาว่าเป็นความสูงส่ง สติปัญญา (และห้ามเรียกว่ายิ่งใหญ่ เพราะมนุษย์มีสติปัญญา) อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตำหนิผู้ที่ไม่ใช้สติปัญญาและถึงกับว่าผู้นั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าเดรัจฉานเสียอีก ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า 

หรือว่า เจ้าคิดว่า ส่วนใหญ่ของพวกเขาจะได้ยิน หรือใช้สติปัญญากันกระนั้นหรือ ?

พวกเขามิใช่อะไรอื่นเลย นอกจากเป็นเช่นปศุสัตว์เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังหลงทางเสียอีก” 

(อัลฟุรกอน 25/44)

 

         ดังนั้น สติปัญญาซึ่งเป็นหนึ่งในห้าประการ ที่ศาสนามีบัญญัติให้ระวังรักษาไว้ให้ดี เพราะการรักษาสติปัญญานั้นจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ เพราะหากสติปัญญาเสื่อม หรือฟั่นเฟือน จะทำให้เกิดผลร้ายต่อตนเองและสังคม ทำให้ผู้อื่นได้รับความพินาศด้วย

 

          อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงชี้แจงให้ทราบถึงผลร้ายของสิ่งเสพติดมึนเมาว่าเป็นอาชญากรรมและเป็นสาเหตุ ทำให้ไม่ได้รับความสำเร็จ เพราะเป็นสิ่งโสมม เป็นการงานของชัยฏอน ทำให้สังคมตกอยู่ในภาวะโกรธเกลียดชังกัน เป็นศัตรูกัน และเป็นการปิดหนทางสู่การรำลึกถึงอัลลอฮฺ ที่จะทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา และ ปิดกั้นไม่ให้มีการละหมาด ซึ่งการละหมาดนั้นจะหักห้ามความชั่วร้าย เลวทราม และสิ่งไม่ดีงามทั้งหลาย ดังกล่าวมาทั้งหมด ถือว่า สุรา ยาเสพติด (อัลคอมรฺ) เป็นต้นเหตุของความพินาศอันใหญ่หลวงเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ

 

          “อัลคอมรฺคือ ทุกสิ่งที่ทำให้สติปัญญามึนเมา ไม่ว่าจะมีลักษณะใดก็ตาม หรือมีชื่อเรียกว่าอะไรก็ตาม ที่ปรากฏในรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า ในช่วงยุคสมัยสุดท้าย (อาคิริซซะมาน) จะมีกลุ่มหนึ่งที่เรียกอัลคอมรฺด้วยชื่อื่นที่มิใช่ชื่อของมัน แต่ชื่อต่างๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง เป็นจริงได้ มิหนำซ้ำยังเลวร้ายยิ่งไปกว่าเก่าเสียอีก

 

          พี่น้องทั้งหลาย จงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด จงกตัญญูต่อพระองค์ที่ได้ประทานความโปรดปราน และให้เกียรติกับพวกท่านเป็นการเฉพาะ ด้วยการบังเกิดพวกท่านขึ้นมา ด้วยรูปร่างที่สวยงามที่สุด และยังประทานสติสัมปชัญญะมาให้ และยังให้สติปัญญาซึ่งเป็นหนึ่งในห้าประการที่จำเป็นจะต้องปกปักรักษาเอาไว้ และจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ยอมปกปักรักษาไว้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดที่ดื่มสุราหรือเสพสารเสพติด เขาจะต้องถูกเฆี่ยน 80 ทีเป็นการลงโทษในสิ่งที่พวกเขาทำการฝ่าฝืน และเพื่อป้องกันมิให้กระทำอีกในอนาคต

 

          ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สาปแช่งผู้ที่ดื่มสุราผู้ที่ผลิต ผู้บริการ และผู้มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุน และยังแจ้งให้ทราบอีกว่า ผู้ที่ดื่มสุราก็เหมือนเป็นผู้สักการะ (อิบาดะฮฺ) ต่อเจว็ด ผู้ใดที่ถือว่าสุราเป็นสิ่งอนุมัติ (ฮะล้าล) เขาก็คือ คนชั่ว (ฟาซิก) กระทำบาปใหญ่ให้ลงโทษได้ตามบัญญัติศาสนา จะไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้อีกต่อไป นอกจากจะกลับเนื้อกลับตัวอย่างถูกต้องจริงๆ เท่านั้น และไม่อนุญาตให้ดื่มสุราเพื่อความเอร็ดอร่อย หรือเพื่อใช้เป็นยาบำบัดรักษา 

มีผู้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถึงสุรา ที่เอามาทำเป็นยา  

ท่านตอบว่ามันเป็นโรค มิใช่ยา

 

          ปัจจุบัน มีผู้คนเป็นจำนวนมากถูกทดสอบ ในเรื่องของสุราที่มาเป็นยารักษาโรค นั่นก็คือ แอลกอฮอล์ ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องห่างไกลจากสิ่งต่างๆ เหล่านั้น เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

สิ่งที่จำนวนมากของมันทำให้มึนเมา จำนวนน้อยของมันก็เป็นสิ่งที่ต้องห้ามด้วยเช่นกัน 

ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า 

ดังนั้น จงห่างไกลจากมันเสีย

 (อัลมาอิดะฮฺ 5/90)

 

          ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสิ่งมึนเมาอัลคอมรฺนี้เป็นนะญิส เป็นสิ่งสกปรกโสมม ซึ่งเป็นคำพูดของ อุละมาอฺที่ถูกต้อง (ซอเฮียะฮฺ) ที่สุด จึงไม่อนุญาตให้ใส่น้ำหอมที่ปะปนแอลกอฮอล์ เพราะมันเป็นสิ่งสกปรก (นะญิส) ต่อร่างกายและเสื้อผ้า 

 

          จำเป็นที่มุสลิมจะต้องระวังไว้ให้ดี ในการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าทุกชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะนำมาเป็นยารักษาโรค เป็นเครื่องดื่ม หรือน้ำหอม ฯลฯ ก็ตาม 

 

วารสาร มูลนิธิชีนำสันติสุข