จงระวังความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น
  จำนวนคนเข้าชม  4761


จงระวังความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น

 

โดย .ฏอฮา อับดุลเลาะฮ์ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ 

 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่าน ขอให้ท่านทั้งหลายจงระวังฟิตนะฮฺ คือ ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากคำพูด เกิดจากการกระทำ เกิดจากหลักอะกีดะฮฺที่ไม่ถูกต้อง หรือที่จะเกิดจากความคิดเห็นที่ บ่อนทำลายหรือฟิตนะฮฺที่ปรากฏจากจอโทรทัศน์และจากสิ่งพิมพ์ต่างๆ

         ดังกล่าวมานั้น ล้วนเป็นสิ่งที่จะมาขัดขวางและปิดกั้นพวกเรา ในการที่จะเรียนรู้ข้อเท็จจริงที่เป็น คำสอนของศาสนาของอัลลอฮฺ ซึ่งจะก่อให้เกิดความหายนะแก่พวกเราทั้งหลายได้

 

           พี่น้องทั้งหลาย จงพิจารณาดูชนรุ่นก่อนๆ ซึ่งพวกเขาได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย และได้สร้างเกียรติประวัติอันดีงามไว้แก่พวกเราได้นำมาเป็นแบบอย่าง พวกเขาเหล่านั้น คือ บรรดาซอฮาบะฮฺ ตาบิอีน (บรรดาผู้คนที่อยู่ร่วมยุคสมัยกับบรรดาซอฮาบะฮฺ) และผู้ที่ตามมาหลังจากเหล่านั้น หากเรายึดมั่นตามแนวทางปฏิบัติของพวกเขา แน่นอนเราจะได้รับชัยชนะ และจะประสบกับความสำเร็จ แท้จริง ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แจ้งให้ประชาชาติของท่าน รู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงวันกิยามะฮฺ 

 

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวเตือนประชาชาติ ของท่านให้ทราบถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟิตนะฮฺ (ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น) ในประชาชาติของท่านในยุคสุดท้าย ก็เพื่อให้เขาเหล่านั้นระวังตัวและหาทางป้องกันตัวจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพัน และจะได้กลับไปดำเนินชีวิต ตามแบบอย่างสาวกเหล่านั้นได้ยึดถือปฏิบัติ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ท่านเหล่านั้นได้ถ่ายทอดมาจากท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

 

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แจ้งให้ทราบไว้แล้วถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดฟิตนะฮฺกับศาสนา ซึ่งก็มาจากมนุษย์ที่มีความผูกพันและยึดติดอยู่กับวัตถุและปล่อยตัว ปล่อยใจให้หลงใหลอยู่กับความเย้ายวนของวัตถุและอิทธิพลทางความคิดที่ผิดๆ ที่เข้ามาครอบงำ ฝังแน่นอยู่ในใจ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวเตือน เพื่อกระตุ้นประชาชาติของท่านให้รีบเร่งกระทำการงานที่ดีงาม ก่อนที่ฟิตนะฮฺ (ความวุ่นวายที่เต็มไปด้วยความอธรรม) จะมีมา เช่น การปล้นฆ่า การกดขี่ ข่มเหง การเอารัดเอาเปรียบ และความขัดแย้งระหว่างพี่น้องมุสลิมในกิจการต่างๆ ไม่ว่าจะทางด้านศาสนา หรือทางดุนยาก็ตาม เมื่อเวลานั้นมาถึงท่านทั้งหลายจะไม่สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ดังท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

 

ท่านทั้งหลายจงรีบเร่งกระทำความดีเถิด เพราะอนาคตจะมีความวุ่นวาย ปั่นป่วนเกิดขึ้น

ซึ่งความน่ากลัวของมันเหมือนความน่ากลัวของความมืดในช่วงยามวิกาล มันมีแต่ความมืดมิด(กล่าวคือ)

ชายคนหนึ่งยามรุ่งเช้า เขาเป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ พอเข้ายามเย็นเขากลายเป็นกาเฟร (ผู้ปฏิเสธศรัทธา)

หรือพอยามเย็นเขาเป็นผู้ศรัทธา แต่พอยามเช้า เขากลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา

เขาจะขายศาสนาของเขา เพื่อแลกกับความผาสุกที่มีอยู่ในโลกดุนยานี้

 

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้ให้พวกเรารีบเร่งทำความดี ฉะนั้น เราจะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับคำสั่งดังกล่าวนั้น ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้น เมื่อความเลยร้าย ความวุ่นวาย ความปั่นป่วนต่างๆ มีปรากฏเข้ามาในสังคมแล้ว มันเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงในการทำความดี และจะมาปิดกั้น จนมองไม่เห็นความดี ความยุติธรรม ความถูกต้องก็ถูกละเลย การแสวงหาสัจธรรมก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก 

 

          เพราะในอนาคตข้างหน้าต้องมีเหตุการณ์ผันแปร และเปลี่ยนแปลงไปอยู่เรื่อยๆ ความสับสน วุ่นวาย ความอธรรมจะเข้ามาปกคลุมสังคมและแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของโลก และมนุษย์ก็จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความวุ่นวาย ความปั่นป่วน ความสับสน จนทำให้บางคนไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ผิดและอะไรคือสิ่งที่ถูก หรืออาจปล่อยตัวไปตามกระแสของความวุ่นวายเพราะความอ่อนแอ หรือความขี้ขลาด จึงตกเป็นทาสของอารมณ์ใฝ่ต่ำ ปล่อยให้ความเลวร้าย ครอบงำ ยั่วเย้าให้เห็นของเลวร้ายเป็นของดีงาม เป็นที่น่าชื่นชม น่าสรรเสริญ เพราะฉะนั้น จงรีบเร่ง จงตื่นตัว และแข็งขันกันกันความดี โดยเป็นไปตามแบบอย่างที่ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กระทำเป็นแบบอย่างไว้ให้เห็น

 

          ที่สำคัญ คือ ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เตือนประชาชาติของท่านว่า จงระวัง ความวุ่นวาย ความปั่นป่วนต่างๆ ที่เป็นสิ่งที่น่ากลัว ซึ่งความน่ากลัวของมันเปรียบเหมือนความน่ากลัวในช่วงกลางคืนที่กำลังดึกสงัด ซึ่งปราศจากแสงไฟ แม้แต่แสงของดวงจันทร์และแสงของดวงดาวบนท้องฟ้าก็ไม่ปรากฏให้เห็นในช่วงนั้น มันเต็มไปด้วยความวังเวง ความน่ากลัว มองทางก็ไม่เห็น ไม่รู้ว่าจะก้าวเดินไปทางไหน ความวิตกกังวลย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ที่กำลังตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นอย่างแน่นอน เขาหวั่นวิตกว่าอันตรายจะเกิดขึ้นแก่เขาเมื่อไหร่นั้น เขาไม่สามารถรู้ได้ ฉะนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังตัว 

 

          ฉันใดก็ฉันนั้น ความสับสน ความวุ่นวาย ความปั่นป่วนที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เตือนให้ระวังก็เพราะว่ามันน่ากลัวมาก กล่าวคือ คนๆ หนึ่งยามเช้าเขาเป็นผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ พอตกค่ำคืนของวันเดียวกันนั้นก็กลายเป็นกาเฟร (ผู้ปฏิเสธศรัทธา) หรือในตอนเย็นเขาเป็นผู้ศรัทธา (ต่ออัลลอฮฺ) พอยามเช้าเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา เพราะเหตุใดเขาจึงเป็นเช่นนั้นก็เพราะเขาขายศาสนาของเขา เพื่อแลกกับสิ่งอำนวยความสุขทางดุนยา ความสุขทางดุนยานั้นมิใช่เป็นทรัพย์สินเงินทองเพียงอย่างเดียวก็หาไม่ แต่มันหมายรวมถึงทุกสิ่ง ทุกอย่างที่สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ท่านทางดุนยา ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง อำนาจ หน้าที่ ยศถาบรรดาศักดิ์ ล้วนเป็นสิ่งอำนวยผลประโยชน์ทั้งนั้น

 

          พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ได้แจ้งให้ประชาชาติของท่านได้ทราบไว้ก่อนแล้วถึงฟิตนะฮฺของความอวิชา ฟิตนะฮฺของความละโมบ และฟิตนะฮฺของความปั่นป่วน ความยุ่งเหยิงของสังคม ท่านร่อซูล กล่าวว่า

 

     “เวลาแห่งอาคิริซซะมานได้เข้ามาใกล้แล้ว วิชาความรู้จะถูกเก็บไป ฟิตนะฮฺจะปรากฏให้เห็น ความตระหนี่ถี่เหนียวก็ถูกทำให้มีขึ้น อัลฮัรยูจะมีจำนวนมากขึ้น"

     บรรดาซอฮาบะฮฺ กล่าวถามถึง อัรฮัรยู(อัรฮัรยุ คือ การฆ่าสังหาร)

     ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า "มันคือการฆ่า การทำลาย ชีวิตผู้บริสุทธิ์จะมีเป็นจำนวนมาก (ครั้งแล้ว ครั้งเล่า)


ท่านอบูซา กล่าวว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

แท้จริงก่อนหน้า อัซซาอะฮฺ (วันกิยามะฮฺ) จะเกิดขึ้นในช่วงนั้น

ความรู้จะถูกเก็บไป ความอวิชาจะลงมาแทนที่

การสังหารผู้คนบริสุทธิ์ จะมีมากขึ้นทุกขณะ” 

 

          ฉะนั้นพี่น้องผู้มีเกียรติทุกท่านเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเราว่าวิชา ความรู้จะถูกเก็บไป โดยการที่ อัลลอฮฺจะเรียกอุลามาอฺที่เป็นแบบอย่างอันดีงาม เป็นผู้ให้การอบรมสั่งสอนบรรดาลูกศิษย์ ลูกหาและปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ตามหลักการของศาสนา จะเหลือจำนวนน้อยลง อุลามาอฺที่มีความนอบน้อม ถ่อมตน มีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ นับวันจะเหลือน้อยลงเช่นกัน 

 

          พี่น้องผู้มีเกียรติ ระยะเวลาและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มันใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว 1,400 กว่าปีมาแล้ว อย่างไรก็ตาม เราจะไม่นิ่งเฉย เราจะตื่นตัวรีบขวนขวาย เร่งรีบ กระทำความดี ก่อนความเลวร้ายจะมีมากขึ้นตามลำดับ ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้

 

พวกท่านจงรีบเร่งกระทำความดี ก่อนที่ความวุ่นวาย ความปั่นป่วนจะมาเกิดขึ้นกับพวกท่าน

 

 

ที่มา วารสารมูลนิธิชีนำสันติสุข