เดือนแห่งการลบล้างบาป รอดพ้นจากนรก ไปสวรรค์
อับดุลสลาม เพชรทองคำ
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ขอแสดงความยินดีต่อทุกคน ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เรามีชีวิตอยู่จนถึงเดือนเราะมะฎอนในปีนี้ เดือนเราะมะฎอนที่มีความประเสริฐที่สุดในรอบปี จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องขอบคุณอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในเนี๊ยะอฺมะฮฺ ความเมตตานี้
ถ้าใครมีความรู้สึกยินดี ดีใจที่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในเดือนเราะมะฎอน ก็แสดงว่าเขาทราบถึงความประเสริฐของเดือนนี้ ทราบถึงความประเสริฐของการถือศีลอดในเดือนนี้ ทราบถึงผลบุญมากมายที่เขาจะได้รับจากการทำอิบาดะฮฺต่างๆในเดือนนี้ ทราบถึงการกระทำที่จะทำให้เขาได้รับการอภัยโทษในเดือนนี้ ...แต่ถ้าใครรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการมาของเดือนเราะมะฎอน ก็แสดงว่า เขาต้องไปแสวงหาความรู้ในเรื่องของการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนอย่างรีบด่วน
สำหรับนะศีหะหฺในวันนี้ จะพูดถึงว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ จะต้องได้พบกับจุดหมายปลายทางสุดท้าย ที่จะเป็นที่พำนัก ที่จะเป็นที่อยู่อย่างถาวรตลอดกาล นั่นก็คือที่พำนักในสวรรค์ หรือที่อยู่ในนรก ซึ่งที่พำนักทั้งสองแห่งนี้ มันจะมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นสำนวนไทยจะใช้ว่า แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาก็ได้ทรงแจกแจงลักษณะของสวรรค์กับนรกให้เราได้ทราบเป็นบางส่วนไว้ในอัลกุรอาน และท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม ได้มาอธิบายเอาไว้ว่าสวรรค์ดีอย่างไร ? พิเศษขนาดไหน ? เตรียมไว้ให้แก่ใคร ?
ส่วนนรก พระองค์ก็ทรงแจกแจงไว้เช่นกันว่า มันมีแต่ความทุกข์ ความทรมานในไฟนรก มีแต่การลงโทษอย่างแสนสาหัส และพระองค์ทรงเตรียมนรกไว้ให้แก่ใคร ?
เราก็คงทราบถึงลักษณะของสวรรค์กับนรกกันบ้างแล้ว เพราะเห็นมีแต่คนอยากไปสวรรค์กัน ...ไม่เห็นมีใครอยากไปนรกเลย ซึ่งสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลามีความพิเศษ ....พิเศษขนาดว่า พระองค์ทรงบอกว่า สายตาของมนุษย์ไม่เคยเห็นมันมาก่อนบนโลกดุนยา หูก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน หัวใจของมนุษย์ก็ไม่สามารถหยั่งได้ ไม่สามารถจินตนาการได้เลย .......
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ อิมามมุสลิม รายงานจากท่านอบูหุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
: يَقُولُ اللَّهُ تَعَالَى : أَعْدَدْتُ لِعِبَادِي الصَّالِحِينَ مَا لَا عَيْنٌ رَأَتْ وَلَا أُذُنٌ سَمِعَتْ وَلَا خَطَرَ عَلَى قَلْبِ بَشَرٍ ذُخْرًا بَلْهَ مَا أُطْلِعْتُمْ عَلَيْهِ َ ) .
رواه البخاري ( 3072 ) ومسلم ( 2824 ) وعنده : ( بَلْهَ مَا أَطْلَعَكُمْ اللَّهُ عَلَيْهِ ) .
“อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสว่า
ข้าได้จัดเตรียมไว้ให้แก่บ่าวของข้า ในสิ่งที่ตา(ของเขา)ไม่เคยเห็น หู(ของเขา)ไม่เคยได้ยิน
และ(สิ่งนั้น)ไม่เคยผ่านเข้าไปในหัวใจของมนุษย์คนใดเลย (ไม่สามารถจินตนาการได้เลย)...”
แสดงว่า คฤหาสน์ หรือปราสาทราชวังที่ว่าสวยที่สุด อลังการที่สุดบนโลกดุนยา ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และเมื่อใครๆก็อยากไปสวรรค์ เพราะสวรรค์มีความพิเศษมากๆ สุขสบายมากๆ หนทางที่จะไปสวรรค์นั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก เนื่องจากสวรรค์ก็จะอยู่สูง เวลาจะไปมันก็ต้องไขว่คว้า ต้องปีนป่าย ต้องตะเกียกตะกาย ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะหนทางที่จะไปสวรรค์มันจะรายล้อมด้วยสิ่งที่ตรงข้ามกับความต้องการของมนุษย์ มันจะเต็มไปด้วยสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่มนุษย์ชอบ
มนุษย์ชอบอะไร ? ชอบเสียงเพลง ชอบความบันเทิง ชอบความสนุกสนาน ชอบท่องเที่ยว ชอบอำนาจวาสนา ชอบเกียรติยศชื่อเสียง ชอบความร่ำรวย แต่หนทางที่จะไปสวรรค์จะเต็มไปด้วยการถ่อมเนื้อถ่อมตัว เต็มไปด้วยเสียงของอัลกุรอาน เต็มไปด้วยการถือศีลอด เต็มไปด้วยการละหมาด เต็มไปด้วยการจ่ายซะกาต การบริจาค เต็มไปด้วยการทำฮัจญ์ ทำอุมเราะฮฺ มีแต่เรื่องที่มนุษย์ไม่อยากทำ เพราะทำแล้วมันเหนื่อย มันไม่สุขสบาย มันลำบาก
ตรงข้ามกับหนทางจะไปนรก ก็จะถูกห้อมล้อมด้วยสิ่งที่มนุษย์ชอบ ชอบกิน ชอบเที่ยว ชอบความบันเทิง ชอบความสะดวกความสบาย ชอบเก็บสะสมเงินทอง เก็บสะสมทรัพย์สมบัติ ชอบอยากเป็นเจ้าคนนายคน ชอบมีอำนาจวาสนา
อัลหะดีษในบันทึกของอิมามอัลบุคอรีย์ รายงานจากท่านอบูหุรอยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า
"حُجِبتِ النَّارُ بِالشَّهَواتِ، وحُجِبتْ الْجَنَّةُ بَالمكَارِهِ"
“นรกถูกห้อมล้อมไปด้วยสิ่งที่เราชื่นชอบ ที่เป็นอารมณ์ใคร่ใฝ่ต่ำ ความต้องการที่ไร้ขอบเขต
แต่สวรรค์ถูกแวดล้อมไปด้วยสิ่งที่เราไม่ชอบ สิ่งที่ยากลำบาก”
ด้วยเหตุนี้ หนทางที่จะไปสวรรค์จึงต้องผ่านความยากลำบาก ผ่านความอดทน ไม่มีใครจะช่วยให้เราไปสวรรค์ได้ นอกจากเราจะต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องฝ่าฟันเอง ต้องอดทนเอง ต้องต่อสู้ในการทำอิบาดะฮฺต่างๆ เพราะการทำอิบาดะฮฺต่างๆ การทำตามคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น ที่จะนำเราไปสวรรค์
ในขณะที่หนทางที่จะไปนรก ก็จะมีแต่ความสะดวกสบาย ไม่อยากละหมาดก็ไม่ละหมาด นอนหลับยาวไป ไม่อยากบริจาค ไม่อยากจ่ายซะกาต เพราะกลัวเงินหมด ก็เก็บเงินไว้ ไม่ออกซะกาต ไม่บริจาค ไม่อยากไปทำฮัจญ์เพราะมันลำบาก คนเยอะแยะต้องเบียดเสียด ลำบากลำบน ชอบจะทำตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเอง ดังนั้น จึงไม่มีใครที่จะนำเราไปนรกได้ นอกจากตัวของเราเอง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจคำสั่งใช้ คำสั่งห้ามของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นี่แหละหนทางที่จะไปนรก มันจะถูกห้อมล้อมไปด้วยความเพ้อฝันตามอารมณ์ หรือความชอบความต้องการของตัวเราเอง ไม่สนใจคำสั่งใดๆของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่สนใจคำตักเตือนใดๆของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ดังนั้น เมื่อเรามีความปรารถนา มีความใฝ่ฝันอยากจะได้ที่อยู่ในสวรรค์อันบรมสุขตลอดกาลตลอดไปในโลกอาคิเราะฮฺ เราต้องไขว่คว้า ต้องตะเกียกตะกาย ต้องอดทน ต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุด ต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ ตั้งแต่ในโลกดุนยานี้ รอช้าไม่ได้แล้ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราจะตายเมื่อไร ? เราจะกลับไปพบอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเมื่อไร ?
เราจึงต้องเตรียมตัวของเราเสียตั้งแต่ดุนยานี้ อะไรที่เป็นหนทางนำเราไปสู่นรก เราต้องพยายามตัดขาดจากมัน อะไรที่ทำผิดไปแล้ว ต้องรู้จักอิสติฆฟาร ขออภัยโทษ เตาบะฮฺตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ตัวของเราสะอาดบริสุทธิ์ จะได้ห่างไกลจากการถูกลงโทษในวันกิยามะฮฺ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องทำอะมัล ทำอิบาดะฮฺ อยู่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้มากๆ ใครทำมากได้มาก ทำมากก็ได้อยู่สวรรค์ชั้นดี ใครทำได้น้อย เกรดของสวรรค์ก็ลดลงมาหน่อย ทำความดีให้มากๆ แล้วก็ทำบาปให้น้อยๆหรือไม่ทำเลยยิ่งดีใหญ่ อย่าทำความดีควบคู่ไปกับการทำบาป หรือทำสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพราะการทำบาปมันจะมาเป็นตัวกั้นเราไม่ให้เข้าสวรรค์
สิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงให้มาเป็นเครื่องมือแก่เรา เป็นตัวช่วยพิเศษสุด ที่จะลบล้างความผิด ลบล้างบาปออกมากที่สุด และเพิ่มขั้นในสวรรค์ในวันกิยามะฮฺ คือ การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน และทุกๆอิบาดะฮฺที่เราทำในเดือนเราะมะฎอน
♥ การถือศีลอดที่หัวใจของเรามุ่งมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พร้อมทั้งหวังรางวัลการตอบแทนจากพระองค์ การถือศีลอดลักษณะนี้จะมาช่วยลบล้างบาป ลบล้างความผิดต่างๆที่เคยทำมาให้แก่เรา ทำให้ห่างไกลจากการถูกลงโทษ เมื่อห่างไกลจากการถูกลงโทษ ก็จะได้ไปสวรรค์
♥ การละหมาดตะรอเวียะหฺในเดือนเราะมะฎอนด้วยหัวใจมุ่งมั่นศรัทธาและหวังรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา การละหมาดในลักษณะนี้ก็จะมาช่วยลบล้างบาป ลบล้างความผิดต่างๆ ที่ได้เคยทำมา ทำให้ห่างไกลจากการถูกลงโทษในวันกิยามะฮฺเช่นกัน
♥ การละหมาดตะรอเวียะหฺ นี้ ถ้าละหมาดพร้อมกับอิมาม และเสร็จสิ้นไปพร้อมกับอิมาม เราจะได้รับผลบุญเสมือนกับว่าได้ละหมาดสุนัตทั้งคืน เป็นการเพิ่มขั้นในสวรรค์ให้กับเราอีกเช่นกัน
♥ ละหมาดฟัรฎูให้ครบ แสดงถึงการฏออัต เชื่อฟังอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นการเพิ่มขั้นในสวรรค์
♥ ละหมาดสุนัตให้มาก โดยเฉพาะละหมาดสุนัตเราะวาติบ (ละหมาดสุนัตก่อนหรือหลังละหมาดฟัรฎู) วันหนึ่งถ้าทำครบ 12 เราะกะอะฮฺ เราจะได้บ้านหลังหนึ่งในสวรรค์เป็นรางวัลตอบแทน
♥ การอ่านอัลกุรอานเป็นการปฏิบัติตามแนวทางของท่านนบี และบรรดาเศาะฮาบะฮฺที่จะอ่านอัลกุรอานกันอย่างมากมายในทุกๆค่ำคืนของเดือนนี้ อย่างน้อยๆ ต้องจบหนึ่งจบ การอ่านอัลกุรอานมีผลบุญตอบแทน เป็นการเพิ่มขั้นในสวรรค์
♥ ในช่วงท้ายของแต่ละคืนก็ให้ละหมาดตะฮัจญุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดุอาอ์และการทำความดีทั้งหลายจะถูกตอบรับ
♥ ส่วนในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนก็ให้ขะมักเขม้นในการทำอิบาดะฮฺมากๆ เพื่อแสวงหาคืนลัยละตุลก็อดรฺ ซึ่งมีความดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน ทำความดีอย่างหนึ่งก็ได้ผลบุญเป็นทบเท่าทวีคูณ เป็นการเพิ่มขั้นในสวรรค์
ทั้งหมดที่พูดมาก็เป็นเพียงบางส่วนที่ให้เราไม่ลืมว่า มีผลบุญมากมายซ่อนอยู่ในการถือศีลอดเดือนเราะมะฎอน ดังนั้น ขอให้ไขว่คว้า อย่างขมีขมัน ได้ใช้ความพยายามที่จะปีนป่ายไปให้ถึงสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งไม่ไกลเกินเอื้อม แต่อยู่ที่การลงมือทำ
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดเมตตาเราให้มีชีวิตอยู่จนจบเราะมะฎอนในปีนี้ ให้ได้ปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮฺต่างๆด้วยความอิคลาศ มุ่งหวังตั้งใจเพื่อหวังรางวัลตอบแทนจากพระองค์เพียงองค์เดียว ตัดขาดจากเรื่องของการทำชิริก ห่างไกลจากการทำบิดอะฮฺ เพราะทั้งสองเงื่อนไขนี้จะทำให้อะมัลอิบาดะฮฺที่ได้ลงทุนลงแรงทำไปตั้งมากมาย ได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้รับรางวัลตอบแทนจากพระองค์ และให้อะมัลอิบาดะฮฺต่างๆที่ทำช่วยลบล้างความผิดแก่เรา ขอให้เราได้รับการอภัยโทษจากพระองค์ และขอพระองค์โปรดให้เรามีชีวิตอยู่และได้พบกับเดือนเราะมะฎอนปีหน้า อินชาอัลลอฮฺ
( ที่มา...นะศีหะหฺเดือนเราะมะฎอน มัสยิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )