ความประเสริฐของการละหมาดวิตรฺ
  จำนวนคนเข้าชม  9022


ความประเสริฐของการละหมาดวิตรฺ


 

แปลเรียบเรียง อับดุลวาเฮด สุคนธา

 

          การละหมาดวิตรฺถือว่า เป็นอิบาดะหนึ่งที่สำคัญมากในการปฏิบัติอิบาดะต่างๆที่บ่งบอกถึงการเชื่อฟังอย่างสูงส่งและมีเกียรติ ในเฉพาะอย่างยิ่งท่านนบีได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติละหมาดวิตรฺอย่างมาก และท่านยังส่งเสริมให้มีการกระทำอีกด้วย และท่านนั้นจะกระทำละหมาดวิตรฺอยู่เป็นเนื่องนิจ แม้ในช่วงที่ท่านเดินทาง และไม่เดินทาง และได้มีหลักฐานที่บอกถึงความสำคัญของการละหมาดวิตรฺ ท่านนบีช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


.»وترإن الله زادكم صلاة فحافظوا عليها وهي ال

"แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงเพิ่มให้กับพวกท่าน จากการละหมาด

พวกท่านทั้งหลายจงรักษามันเอาไว้ นั้นคือ การละหมาดวิตรฺ"
 

(บันทึกโดย อิหม่าม อะหมัด มุสนัดเล่ม 2 หมายเลขที่ 180.206.208 )

 

บางรายงานอีกว่า ท่านนบี ช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


 إن الله قد أمدكم بصلاة وهي خير لكم من حمُر النعم وهي الوتر

"แท้จริง อัลลอฮฺ ทรงประทานสิ่งหนึ่งให้กับพวกท่าน คือการละหมาดที่ ดียิ่งกว่าอูฐแดงเสียอีก คือ การละหมาดวิตรฺ"
 

(บันทึกโดย อิหม่าม อบูดาวูด อัสสูนัน หมายเลขที่ 1413 อิหม่าม ติรมีซี อัสสูนัน หมายเลขที่ 452)

 

ท่านนบี  ได้สั่งเสียแก่ท่านอบูฮูรัยเราะห์ว่า


أن لا ينام حتى يُوتر     "ท่านอย่าได้นอนจนกว่าจะทำการละหมาดวิตรฺเสียก่อน"

 

(บันทึกโดย บุคครี ซอเฮียะ หมายเลขที่ 1178 มุสลิม ซอเฮียะ หมายเลขที่ 721)

 

«إن الله وتر يحب الوتر»      

"แท้จริงอัลลอฮ์ องค์เดียว คือเลขคี่ และพระองค์ทรงรักละหมาดวิตรฺ คือการละหมาดเป็นคี่"

 

(บันทึกโดย บุคครี ซอเฮียะ หมายเลขที่ 6410 มุสลิม ซอเฮียะ หมายเลขที่ 1416 )

 

          ไม่เหมาะสมเลยที่จะละเลยและเพิกเฉยในเรื่องดังกล่าว เพราะท่านนบี  ยังกล่าวสำทับเอาไว้อีกว่า


من لم يوتر فليس منا     "ไม่ใช่พวกของฉัน สำหรับคนที่ไม่ได้ทำละหมาดวิตรฺ"

 

          (บันทึกโดย อบูดาวูด อัสสูนัน หมายเลขที่ 1414 อะหมัด มุสนัด เล่ม 5 หมายเลขที่ 375 ในสายของมันฮับ อิหม่ามฮานาฟี ท่านมีความเห้นว่า ละหมาดวิตรฺ วายิบ แต่ อุลามา ส่วนมากมีความเห็นว่า เป็น ซุนนะมุอักกาดะ ส่งเสริมให้กระทำ ท่านอิหม่ามอะหมัด มีความเห็นว่า ละหมาดซุนนะที่ดีที่สุด คือ ละหมาดซุนนะ ศุบฮี เชคอิสลาม อิบนุตัยมียะ มีความเห็น ว่า ละหมาดวิตรฺนั้น วายิบ สำหรับคนที่ ทำละหมาด กิยามุลลลัย เรียกว่าละหมาดตะฮัจยุญ)

 

         ในการปฏิบัติของการละหมาดวิตรฺมี อุลามาบางท่าน ได้ให้ความสำคัญถึงขั้น วายิบ จำเป็น แต่มัดติเอกฉันท์ของอุลามาและปวงปราช์ทั้งหมด บอกว่า ละหมาดวิตรฺ เป็น ละหมาดซุนนะที่ส่งเสริมให้กระทำ คือ سنةالمؤكدة


          ท่านอิหม่ามอะหมัดกล่าวว่า ผู้ใดที่ละทิ้งละหมาดวิตรฺ โดยเจตนาหรือตั้งใจ เท่ากับว่าเขานั้นเป็นคนไม่ดี เพราะว่าเขานั้นได้ละทิ้งแบบฉบับของท่านนบี และท่านได้บอกอีกว่า บุคคล ที่ละทิ้งละหมาดวิตรฺ คือ บุคคลที่ไม่มีความยุติธรรม



          การละหมาดในยามค่ำคืน เรียกว่า กียามุลลลัย หรือ ตะฮัจยุญ เป็นซุนนะที่ประเสริฐที่สุดรองจากละหมาดฟัรฏู 5 เวลา เพราะการละหมาดในยามค่ำคืน เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความ ตอฮะ เชื่อฟัง ขัดเขลาจิตใจ และ ใกล้ชิดพระเจ้ามากที่สุด

 

อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
 

"และจงรำลึกถึงพระนามของอัลลอฮฺทั้งยามเช้าและยามเย็น และส่วนหนึ่งของกลางคืนก็จงสูญูดต่อพระองค์

และจงแซ่ซ้องสดุดีต่อพระองค์ในยามค่ำคืนที่ยาวนาน"
 

(อัลอินซาน 25,26)

 

อัลลอฮฺได้กล่าวชมเชย แก่บรรดาคนดีทั้งหลาย ว่า
 

"พวกเขาเคยหลับนอนแต่เพียงส่วนน้อยเท่านั้นในยามค่ำคืน"
 

( อัซซาริยาต 17)

 

"สีข้างของพวกเขาได้เคลื่อนออกจากที่นอน พลางวิงวอนต่อพระเจ้าของเขาด้วยกับความกลัวและความหวัง

และพวกเขาได้บริจาคทานในสิ่งที่เราให้เป็นเครื่องยังชีพแก่พวกเขา"
 

(อัซซาญดะฮฺ 16)

 

"และบรรดาผู้ที่ได้ใช้เวลากลางคืนทำการสูญูด และยืนละหมาดเพื่อพระเจ้าของเขา"
 

(อัลฟุรกอน 64)

 

ท่านนบี ช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


«أفضل الصلاة بعد الصلاة المفروضة صلاة الليل.

"การละหมาดที่ประเสริฐที่สุดหลังจากละหมาดฟัรฏู คือ การละหมาดในยามค่ำคืน กิยามุลลัย"
 

(บันทึกโดย มุสลิม ซอเฮียะ หมายเลขที 1163)

 

ท่านนบี ช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
 

أحب الصلاة إلى الله صلاة داود كان ينام نصف الليل، ويقوم ثلثه، وينام سدسه.
 

"การละหมาดที่ฉันรักยิ่ง ณ ที่ อัลลอฮ คือ การละหมาดของท่านนบีดาวูด อะลัยฮิสลาม

เพราะว่าท่านนั้น นอนครึ่งหนึ่งของเวลากลางคืน จะลุกขึ้นมาในช่วง หนึ่งในสามของกลางคืน

และท่านจะนอนหนึ่งส่วนหกของกลางคืน"
 

(บันทึกโดย บุคครี ซอเฮียะ หมายเลขที่ 3420 มุสลิม ซอเฮียะ หมายเลยที่ 1159)


         ในยามค่ำกลางคืนมีช่วงเวลาหนึ่ง หรือ ชั่วโมงหนึ่งที่ บ่าวของพระองค์ ได้วิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ ในกิจการของดุนยาและอาคีเราะห์ เว้นแต่ว่า อัลลอฮฺจะทรงตอบรับการขอของเขา และท่านนบียังชอบที่จะส่งเสริมการละหมาดกิยามุลลัย โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่จะต้องปลุกภรรยาของเขาเพื่อลุกขึ้นมาทำละหมาด
 

 

ท่านนบี ช็อลลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
 

رحم الله رجلا قام من الليل فصلى، وأيقظ امرأته فصلت، فإن أبت نضح في وجهها من الماء.
 

          "ขอความเมตตาจากอัลลอฮ์ ประทานแก่ชายคนหนึ่งที่เขาลุกขึ้นละหมาดในยามค่ำคืน และเขาก็ปลุกภรรยาของเขาให้ลุกขึ้นมาทำการละหมาด หากว่านางยังไม่ตื่น จงเอาน้ำพรมที่ใบหน้าของนาง"
 

(บันทึกโดย อบูดาวูด อัสสุนัน หมายเลขที่ 1450,1308 อัลนาซาฮี อัสสุนัน เล่ม 3 หมายเลขที่ 205 อิบนุมาญะ อัสสุนัน หมายเลขที่ 1336 )

 

ท่านนบี ช็อลลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
 

ورحم الله امرأة قامت من الليل فصلت ثم أيقظت زوجها فإن أبى نضحت في وجهه الماء
 

         "ขอความเมตตาจากอัลลอฮ์ ประทานแก่สตรีผู้หนึ่งที่นางได้ลุกขึ้นละหมาดในยามค่ำคืน และนางก็ปลุกสามีของนางให้ลุกขึ้นมาทำการละหมาด หากว่าเขายังไม่ตื่น จงเอาน้ำพรมที่ใบหน้าของเขา"
 

(บันทึกโดย อบูดาวูด อัสสุนัน หมายเลขที่ 1450,1308 อัลนาซาฮี อัสสุนัน เล่ม 3 หมายเลขที่ 205 อิบนุมาญะ อัสสุนัน หมายเลขที่ 1336)


          จากความดีงามต่างๆมากมายที่เขาได้รับจากการกระทำอิบาดะในยามค่ำคืน ที่มันจะกลับมายังเขา คือ ได้รับความสุข อิ่มเอิบใจ มีจิตใจที่เบิกบาน ขจัดความเกลียดกร้าน ความโสมมต่างๆออกไปจากจิตใจของเขา ท่านนบี ช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


ซัยตอนมารร้ายนั้นจะพันธ์ณาการบนศีรษะของมนุษย์เอาไว้ สาม ประการด้วยกัน 

หนึ่ง เมื่อเราตื่นขึ้นมาแล้วทำการ ซิกิรฺ รำลึกถึงอัลลอฮฺ ทำให้มันหลุดออกไป 

สอง อาบน้ำละหมาดจะทำให้บ่วงที่หนึ่งหลุดออกไป 

       สาม เมื่อเราได้ทำการละหมาดก็จะทำให้บ่วงที่สองหลุดออกไป มันจะทำให้มีความกรชับกระเฉงมีชีวิตร่าเริง หากว่าเขาไม่ได้กระทำดังกล่าวแล้ว เขาจะมีชีวิตที่ไม่ดี เกียจคร้าน

(บันทึกโดย บุคครี ซอเฮียะ หมายเลขที่ 1142 มุสลิม ซอเฮียะ หมายเลยที่ 776)


           จากความดีของการละหมาดกียามุลลัย ปกป้องไม่ให้ทำบาป และ มันจะลบล้างบาปความผิด ท่านนบี ช็อลลลอฮฺ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


          "พวกท่านทั้งหลาย จงลุกขึ้นละหมาดกียามุลลัย เพราะนี้คือ แบบฉับของบรรพชนรุ่นคนดี ก่อนหน้าพวกท่านทั้งหลาย มันทำให้พวกท่านนั้นไกล้ชิดกับพระองค์ ช่วยลบล้างความผิด และยังช่วยหักห้ามท่านจากการกระทำที่เป็นบาป"

(บันทึกโดย ตีรมีซี อัสสุนัน หมายเลขที่ 3549)


           จากความดีต่างๆมากมายที่อัลลอฮฺทรงบอกเอาไว้สำหรับผู้ที่ชอบกระทำอิบาดะในยามค่ำคืน จากการปฏิบัติดังกล่าว บ่งถึงการงานทีประเสริฐยิ่ง ณ ที่ อัลลอฮ ตะอาลา


          ท่านอิบนุมัสฮูดกล่าว "ใครก็ตามที่ พยามออกห่างจากการกระทำดังกล่าว และนอนจนกระทั่งเช้า แท้จริงแล้วชายผู้นี้โดนชัยฏอน ปัสสาวะใส่"