การรับรองจากอัลลอฮ์ต่อคนที่ตายแล้ว
แปลเรียบเรียง อบูชีส
คำถาม :
อะไรคือประโยคใช้เรียกคนตาย ซึ่งเราจะได้ยินบางคนว่า อัลมัฆฟู๊ร (ถูกอภัยโทษแก่เขาแล้ว) หรือ อัลมัรฮูม (ถูกเมตตาแล้ว) ประโยคนี้ถูกต้องใหมครับ ? อะไรคือข้อชี้แจงสิ่งดังกล่าวครับ ?
คำตอบ :
บทบัญญัติในเรื่องนี้คือการกล่าวว่า ฆ่อฟะร่อฮุลลอฮ์ "ขออัลลอฮ์อภัยโทษแก่เขาด้วยเถิด" หรือ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ "ขออัลลอฮ์เมตตาเขาด้วยเถิด" หรืออื่นๆ เมื่อมัยยิตเป็นมุสลิม และไม่อนุญาตให้กล่าวว่า อัลมัฆฟู๊ร "ถูกอภัยโทษแก่เขาแล้ว" หรือ อัลมัรฮูม "ถูกเมตตาแล้ว" เพราะไม่อนุญาตยืนยันตัวบุคคลด้วยกับสวรรค์และนรก หรืออืนๆ เว้นแต่บุคคลที่อัลลอฮ์รับรองในอัลกุรอาน หรือบุคคลที่ร่อซูล อะลัยฮิศศ่อลาตุวัสลาม รับรองเอาไว้ และนี่คือสิ่งที่ผู้รู้ชาวซุนนะห์ได้กล่าวกันไว้
มีคนที่อัลลอฮ์ยืนยันเกี่ยวกับเขาไว้ในอัลกุรอานว่าเขาเป็นชาวนรก เช่น อบูละฮับและภรรยาของเขา เช่นเดียวกันก็มีบุคคลที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทรงรับรองเขาไว้เหมือนกันว่าเขาจะได้เข้าสวรรค์ เช่น อบูบักร อัศศิดดีก และท่านอุมัร ท่านอุสมาน และท่านอาลี และที่เหลือจากสิบคนที่ได้การรับรองสวรรค์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุม และบุคคลอื่นๆที่อีกได้รับการรับรองจากท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้แก่เขาว่าเขาจะได้เข้าสวรรค์ เช่น อับดุลลอฮ์ บิน สลาม และอุกาชะห์ บิน มุห์ศ็อน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา หรือบุคคลที่ถูกยืนยันว่าเป็นชาวนรก เช่น ลุงของท่าน อบีฏอลิบ และ อัมร์ บิน ลุฮัย อัลคุซาอีย์ และคนอื่นๆ จากบุคคลที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รับรองว่าเขาจะลงนรก ขออัลลอฮ์คุ้มครองเราจากการถูกรับรองในสิ่งดังกล่าวด้วยเถิด
ส่วนใครที่ไม่ได้รับการรับรองจากอัลลอฮ์ หรือ จากร่อซูลของพระองค์ ว่าเป็นชาวสวรรค์ หรือ ชาวนรก ดังนั้นเราก็จะไม่รับรองให้แก่เขาในสิ่งดังกล่าวเป็นรายบุคคล และเช่นนี้แหละเราจะไม่ยืนยันให้แก่ใครเป็นรายบุคคล ด้วยกับการอภัยโทษ หรือ ความเมตตา เว้นแต่จะมีตัวบทจากอัลกุรอาน และจากซุนนะห์ของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ทว่า ชาวซุนนะห์นั้นพวกเขาจะหวังความเมตตาให้ประสบแด่คนดี และกลัวการลงโทษจะประสบกับคนชั่ว และพวกเขาจะยืนยันให้แก่ชาวอีหม่านในภาพรวมด้วยกับสวรรค์ และสำหรับผู้ปฏิเสธด้วยกับไฟนรก (โดยไม่เจาะจงตัวบุคคล) ดังที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา กล่าวไว้ในคัมภีร์อันชัดแจ้งของพระองค์ว่า
وَعَدَ اللّهُ الْمُؤْمِنِينَ وَالْمُؤْمِنَاتِ جَنَّاتٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا وَمَسَاكِنَ طَيِّبَةً فِي جَنَّاتِ عَدْنٍ وَرِضْوَانٌ مِّنَ اللّهِ أَكْبَرُ ذَلِكَ هُوَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ
( سورة التوبة من الآية 72.)
“อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่บรรดามุมินชายและบรรดามุมินหญิง ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์
ซึ่งมีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่ภายใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล
และบรรดาสถานที่พำนัก อันดีซึ่งอยู่ในบรรดาสวนสวรรค์แห่งความวัฒนาสถาพร
และความปิติยินดี จากอัลลอฮ์นั้นใหญ่กว่า นั่นคือ ชัยชนะอันใหญ่หลวง”
และพระองค์ทรงตรัสอีกว่า
وَعَدَ الله الْمُنَافِقِينَ وَالْمُنَافِقَاتِ وَالْكُفَّارَ نَارَ جَهَنَّمَ خَالِدِينَ فِيهَا هِيَ حَسْبُهُمْ وَلَعَنَهُمُ اللّهُ وَلَهُمْ عَذَابٌ مُّقِيمٌ
( سورة التوبة من الآية 68.)
“อัลลอฮ์ได้ทรงขู่ไว้แก่บรรดามุนาฟิกชาย และบรรดามุนาฟิกหญิง และผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
ซึ่งไฟนรกญะฮันนัมโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล มันเป็นสิ่งที่พอเพียงแก่พวกเขาแล้ว
และอัลลอฮ์ ก็ได้ทรงให้พวกเขาห่างไกลจากความเอ็นดูเมตตาของพระองค์
และสำหรับพวกเขานั้นคือ การลงโทษอันจีรังยั่งยืน”
เป็นทัศนะของนักวิชาการบางท่านที่ว่า อนุญาตให้ยืนยันด้วยกับสวรรค์ หรือ นรก ให้แก่บุคคลที่มีคนน่าเชื่อถือสองคนขึ้นไปรับรองว่าเขาเป็นคนดีจริง หรือ คนชั่ว ด้วยกับตัวบทหลักฐานที่ถูกต้องที่รายงานในสิ่งดังกล่าว
http://www.binbaz.org.sa/fatawa/1828