อย่าหลงริสกี
โดย...โคบุรี หัสนีย์
พี่น้องครับ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เรา ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด เผ่าพันธุ์ใด เมื่อได้รับสิ่งที่ดีๆ หรือได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น ก็ย่อมดีใจ และรู้สึกขอบคุณ ในสิ่งที่คนอื่นให้ มีความรู้สึกที่ดีกับผู้ที่ช่วยเหลือเขา หรือที่เรียกว่า “การสำนึกในบุญคุณ” ซึ่งการแสดงตอบกับคนที่ให้ ล้วนเป็นไปในรูปแบบและแนวทางที่ดี เช่น กล่าวขอบคุณ การทำดีตอบแทน ส่วนคนที่ไม่รู้สึกสำนึกในการช่วยเหลือจากผู้อื่น คนๆนั้นก็จะถูกเรียกว่า “คนเนรคุณ” นี่คือหลักสากลที่มนุษย์ทุกคนเข้าใจ
พี่น้องครับ ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ อัลลอฮฺ 
“ร็อบบุลอาละมีน” ผู้สร้าง ผู้ให้ ผู้ดูแล ผู้รักษา ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริง การรู้คุณ การขอบคุณต่อพระองค์ จึงเป็นหน้าที่ที่จำเป็นที่เรา มนุษย์ทุกคนต้องมี อัลลอฮฺ ซุบฯ ได้กล่าวไว้ในซูเราะฮฺ อัน นะหฺลฺ อายะฮฺที่ 18 ว่า
( وَإِن تَعُدُّواْ نِعْمَةَ اللَّهِ لاَ تُحْصُوهَا )
“และหากพวกเจ้าจะนับ “นิอฺมะฮฺ” (ความโปรดปราน)ของอัลลอฮ์ พวกเจ้าก็ไม่สามารถจะคำนวณมันได้”
เมื่อเราไม่สามารถนับ นิอฺมะฮฺ ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺให้กับเราได้ เพราะมันมากมายเหลือเกิน ดังนั้นเราต้อง ชุโกร ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ให้มาก
และคำว่า “นิอฺมะฮฺ” ไม่ได้มีความหมายแค่ อาหารหรือปัจจัยยังชีพ เท่านั้น แต่คำว่า นิอฺมะฮฺ มีความหมายรวมถึง ทุกอิริยาบถของเรา ตั้งตื่นนอนจนถึงเข้านอน และในตอนนอน ทุกๆ การเคลื่อนไหวเรา ทุกลมหายใจเข้าออกของเรา ทั้งหมดเป็น “นิอฺมะฮฺ” ที่อัลลอฮฺ ประทานให้ไม่มีใครนับคำนวณได้ อัลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ในซูเราะ ลุกมาน อายะฮฺที่ 20 ว่า
( أَلَمْ تَرَوْا أَنَّ اللهَ سَخَّرَ لَكُم مَّا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ وَأَسْبَغَ عَلَيْكُمْ نِعَمَهُ ظَاهِرَةً وَبَاطِنَةً )
“พวกเจ้าไม่เห็นหรือ ว่าอัลลอฮฺทรงอำนวยสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนฟากฟ้า และสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในแผ่นดินให้แก่พวกเจ้า
และประทานนิอฺมัตของพระองค์อย่างกว้างขวางแก่พวกเจ้า ทั้งที่เปิดเผยและที่ซ่อนเร้น ”
อัลลอฮฺ ได้ยืนยันไว้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้นั้น อัลลอฮฺ ได้สร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวก และให้ประโยชน์กับมนุษย์ พระองค์ยังได้กล่าวไว้ในซูเราะฮฺ อัลญาริยะฮฺ อายะฮฺที่ 13 ว่า
( وَسَخَّرَ لَكُم مَّا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الأَرْضِ جَمِيعًا مِّنْهُ إِنَّ فِي ذَلِكَ لَآيَاتٍ لِّقَوْمٍ يَتَفَكَّرُونَ )
“และพระองค์ทรงทำให้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินเป็นประโยชน์แก่พวกเจ้า ทั้งหมดนี้มาจากพระองค์
แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใคร่ครวญ”
พี่น้องครับ เราเป็นมุสลิม เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ เมื่อเราได้รับริสกี นิอมะฮฺต่างๆ จากอัลลอฮฺแล้ว เราต้องเป็นผู้ที่ใคร่ครวญถึงผู้ให้ด้วย และที่สำคัญที่สุด เราในฐานะที่เป็นมุสลิม ได้รับนิอฺมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ นิอ์มะฮฺ อัลอิสลาม เราจึงเป็นผู้ที่ต้อง ชุโกรขอบคุณต่ออัลลฮฺ ให้มากเท่าที่ทำได้ แล้วการชุโกร ขอบคุณในฐานะมุสลิมของเราต้องทำอย่างไร? อัลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ในซูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 172 ว่า
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ كُلُواْ مِن طَيِّبَاتِ مَا رَزَقْنَاكُمْ وَاشْكُرُواْ لِلَّهِ إِن كُنتُمْ إِيَّاهُ تَعْبُدُونَ
“บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคจากสิ่งดี ๆ ที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และจงขอบคุณอัลลอฮ์
หากเฉพาะพระองค์เท่านั้น ที่พวกเจ้าเป็นผู้เคารพสักการะ”
วิธีการชุโกร ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ก็คือการอิบาดะฮฺ ต่อพระองค์ โดยอัลลอฮฺได้ให้การขอบคุณมาคู่กับการอิบาดะฮฺต่อพระองค์ ถามว่า เราขอบคุณต่ออัลลอฮฺเต็มที่แล้วหรือยัง? เราละหมาดฟัรฎูครบแล้วหรือยัง? ละหมาดซุนนะฮฺ นะวาฟิล ต่างๆ ได้ทำบ้างหรือไม่? ริสกีที่ได้มาบริจาคบ้างหรือไม่
** หรือ ว่าเราหลงนิอมะฮฺของอัลลอฮฺ จนลืมอัลลอฮฺ
พี่น้องครับ เราอย่าหลงนิอฺมะฮฺในโลกนี้ จนลืมนิอมะฮฺที่ยิ่งใหญ่กว่าในอาคิเราะฮฺ อย่าหลงริสกีจนลืมผู้ที่ให้ริสกี ระวังให้ดีผู้ให้ริสกีอาจจะเอาริสกีคืนเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งการเอาริสกีของพระองค์คืนมันมีหลายรูปแบบ มีตัวอย่างการเอาริสกีของพระองค์คืนอยู่
ตัวอย่างหนึ่ง อยู่ในซูเราะฮฺ อัลกะฮฟิ อายะฮฺที่ 32-43 อัลลอฮฺได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับชาย 2 คน 1 ใน 2 คนนี้ อัลลอฮฺได้ให้ริสกี คือ สวนองุ่น และอินทผลัม ที่อุดมสมบูรณ์ คนที่มีสวนมากกว่าและดีกว่า พูดดูถูกคนที่มีสวนน้อยกว่า ทำตัวยิ่งยโส แล้วยังเนรคุณต่อผู้ให้ริสกี สุดท้ายอัลลอฮฺ ได้เล่าว่า
( وَأُحِيطَ بِثَمَرِهِ فَأَصْبَحَ يُقَلِّبُ كَفَّيْهِ عَلَى مَا أَنفَقَ فِيهَا وَهِيَ )
( خَاوِيَةٌ عَلَى عُرُوشِهَا وَيَقُولُ يَا لَيْتَنِي لَمْ أُشْرِكْ بِرَبِّي أَحَدًا )
“และผลิตผลของเขาถูกทำลายหมด แล้วเขาก็ประกบฝ่ามือทั้งสองด้วยความเสียใจต่อสิ่งที่เขาได้จับจ่ายไป(กับสวนของเขา)และมันพังพาบลงมา
และเขากล่าวว่า “โอ้ ! ฉันไม่น่าเอาผู้ใดมาตั้งภาคีกับพระผู้เป็นเจ้าของฉัน”
นี่คือสภาพของคนที่ไม่ขอบคุณอัลลอฮฺ อัลลอฮฺ เอาริสกีคืนโดยไม่ทันรู้ตัว พวกเราต้องระวังให้ดี
พี่น้องครับ ในทางกลับกันคนที่ไม่ลืม ขอบคุณอัลลอฮฺ รำลึก นึกถึงอัลลอฮฺ ทำตามคำสั่งของพระองค์ตลอดเวลา พระองค์ก็จะไม่ลืมเขา อัลลอฮฺ ได้สั่งไว้ว่า
( فَاذْكُرُونِي أَذْكُرْكُمْ وَاشْكُرُواْ لِي وَلاَ تَكْفُرُونِ )
“ดังนั้นพวกเจ้าจงรำลึกถึงข้าเถิด ข้าก็จะนึกถึงพวกเจ้า และจงขอบคุณข้าเถิด และจงอย่าเนรคุณต่อข้าเลย”
( อัลบะเกาะเราะ 152)
ถ้าเราไม่ลืมอัลลอฮฺ ทำงานแล้วนึกถึงอัลลอฮฺ แสวงหาริสกีของพระองค์แล้วขอบคุณพระองค์โดยการทำตามคำสั่งของพระองค์ ทำอิบาดะฮฺที่พระองค์ได้สั่งใช้ หลีกห่างจากสิ่งที่อัลลอฮฺห้าม แน่นอน อัลลอฮฺ ก็จะไม่ลืมเรา โดยอัลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ในซูเราะฮฺ อิบรอฮีม อายะฮฺที่ 7 ว่า
( وَإِذْ تَأَذَّنَ رَبُّكُمْ لَئِن شَكَرْتُمْ لأَزِيدَنَّكُمْ وَلَئِن كَفَرْتُمْ إِنَّ عَذَابِي لَشَدِيدٌ )
“และจงรำลึกขณะที่พระเจ้าของพวกเจ้าได้ประกาศว่า หากพวกเจ้าขอบคุณ ข้าก็จะเพิ่มพูนให้แก่พวกเจ้า
และหากพวกเจ้าเนรคุณ แท้จริงการลงโทษของข้านั้นสาหัสยิ่ง”
ถ้าเราไม่ลืมอัลลอฮฺ เรา ชุโกร ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์เสมอ แน่นอน พระองค์จะเพิ่มริสกี เพิ่มนิอฺมะฮฺ ให้เราอีก ยิ่งเราขอบคุณ อัลลอฮฺจะทำให้งานของเรามีบะรอกะฮฺ แม้บางคนจะได้น้อยแต่ใช้พอ ไม่มีหนี้สิน ไม่มีเรื่องให้เครียด
แต่ถ้าเราเนรคุณ ไม่นึกถึงพระองค์ หลงริสกีของพระองค์จนลืมพระองค์ผู้ที่ให้ริสกี อัลลอฮฺ ได้บอกไว้แล้วว่า “วะ ละอินกะฟัรตุม อินนะอะซาบี ละ ชะดีด - และหากพวกเจ้าเนรคุณ แท้จริงการลงโทษของข้านั้นสาหัสยิ่ง” งานที่ทำไม่มีบะรอกะฮฺ ขาดทุนในโลกนี้ แล้วจะได้ของแถม ในโลกหน้า วันกิยามะฮฺ คือการลงโทษที่เจ็บแสบ
