ความสำคัญมารยาทในอิสลาม
เขียนโดย เชค ซอแหละฮฺ บินเฟาซาน อัลเฟาซาน
แปลโดย อับดุลวาเฮด สุคนธา
แท้จริงหากเรา พิจารณาในมหาคำภีร์อัลกรุอ่านของโองการต่างๆ เราจะพบถึงคำสอนอันล้ำค่าอย่างมากมาย และโอวาทต่างๆบอกถึงมารยาทอันดีงามเพื่อยกฐานะของมนุษย์ให้มีเกียรติและขัดเขลาจิตใจให้สูงส่ง ดังคำพูดของท่านนบี ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวไว้มีความว่า
إنما بعثت لأتمم مكارم الأخلاق “แท้จริงแล้ว ฉันถูกส่งมาเพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้กับมารยาทที่ดี”
(รายงานโดยอะหฺมัด)
อัลลอฮ์ ตรัสว่า
"ดังที่เราได้ส่งร่อซูลผู้หนึ่ง จากพวกเจ้าเองมาในหมู่พวกเจ้า ซึ่งเขาจะอ่านบรรดาโองการของเราให้พวกเจ้าฟัง และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ และจะสอนคัมภีร์ และความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้แก่พวกเจ้า และจะสอนพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน"
อิหม่าม อัซซะดีย์ กล่าวว่า "وَيُزَكِّيكُمْ " "และจะทำให้พวกเจ้าสะอาดบริสุทธิ์" หมายถึงการทำให้ตัวของพวกท่านสะอาดด้วยการมีจริยธรรมและมารยาทที่ดีงามในตัวของพวกท่านทั้งหลาย หลีกห่างจากพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น การขจัดชีริกและนำไปสู่หลักเตาฮีด การขจัดโอ้อวดไปสู่การบริสุทธิ์ใจ จากการโกหกนำไปสู่การพูดจริงมีสัจจะ จากการหลอกลวงไปสู่การมีอะมานะ ไว้ใจซึ่งกันและกัน จากการยโสโอหังนำไปสู่การนอบน้อมถ่อมตน จากมารยาทที่ไม่ดี นำไปสู่การมีมารยาทที่ดีงาม จากการโกรธเคืองนำไปสู่การปรองดอง รักใคร่ซึ่งกันละกัน นี่คือสิ่งที่มาขจัดให้พวกท่านนั้นบริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย
ความหมาย الأخلاق ( อัล-อัคลาค ) “ อัคลาก” เป็น พหูพจน์ของ الخلق ( อัล-คุลุก ) หมายถึง สัญชาติญาณ ความเคยชิน ธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ สิ่งที่ประพฤติปฏิบัติอยู่เป็นประจำ หากว่าพฤติกรรมเป็นการกระทำที่ดี เรียกว่า มารยาทที่ดี หากว่าพฤติกรรมเป็นที่ไม่ดีถูกเรียกว่ามารยาทที่ไม่ดี
ท่านอิหม่าม มะมัรดีย์ กล่าวว่าในโองการนี้ว่า รวมถึงมารยาทสามประเภทด้วยกัน
อัลลอฮฺทรงกล่าวความว่า "และแท้จริงเจ้านั้น อยู่บนคุณธรรมอันยิ่งใหญ่"
♥ มารยาทคืออัลกรุอ่าน
♥ มารยาทคือศาสนาอิสลาม
♥ มารยาทคือพฤติกรรมนุษย์
ธรรมชาติประจำตัวมนุษย์ ความเคยชิน สัญชาติญาณ ที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดไว้เป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์นั่นเอง คำสอนในอัลกรุอ่านได้บอกเกี่ยวกับมารยาทในอิสลาม
- โองการที่บอกถึงความสำคัญของการมีมารยาท
อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“เจ้า (มุฮัมมัด) จงยึดถือไว้ซึ่งการอภัย และจงใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และจงผินหลัง ให้แก่ผู้โฉดเขลาทั้งหลายเถิด”
"และจงพูดจาแก่เพื่อนมนุษย์อย่างดี"
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงมีความอดทน และจงต่างอดทนซึ่งกันและกันเถิด และจงประจำอยู่ชายแดน"
- โองการที่ส่งเสริมเรื่องมีจริยธรรมที่ดีงาม
อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า
"และผู้มีเกียรติและผู้มั่งคั่งในหมู่พวกเจ้าอย่าได้สาบานที่จะไม่ให้ (ความช่วยเหลือ) แก่ญาติมิตร และคนยากจน และผู้อพยพในหนทางของอัลลอฮ์ และพวกเขาจงอภัย และยกโทษ (ให้แก่พวกเขาเถิด)"
"และหากพวกเจ้าจะลงโทษ(ฝ่ายปรปักษ์) ก็จงลงโทษเยี่ยงที่พวกเจ้าได้รับโทษ และหากพวกเจ้าอดทน แน่นอน มันเป็นการดียิ่งสำหรับบรรดาผู้อดทน"
"และความดีใด ๆ ที่พวกเจ้าได้ประกอบล่วงหน้าไว้สำหรับตัวของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าก็จะพบมัน ณ ที่อัลลอฮ์"
"ดังนั้นพวกเจ้าจงแข่งขันในความดีทั้งหลายเถิด"
- โองการที่บอกถึงภาคผลสำหรับคนที่มีมารยาทที่ดี
อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
"แท้จริงบรรดาผู้อดทนนั้นจะได้รับการตอบแทนรางวัลของพวกเขาอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องคำนวณ"
"และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้อดทนเถิด คือบรรดาผู้ที่เมื่อมีเคราะห์ร้ายมาประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และแท้จริงพวกเราจะกลับไปยังพระองค์"
"และแน่นอนผู้ที่อดทนและให้อภัย แท้จริงนั่นคือ ส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่นมั่นคง"
- โองการบอกถึงบุคคลที่มีจริยธรรมและมารยาทที่ดีงาม
เช่นบรรดาร่อซูลทั้งหลายถูกส่งมาเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาติ อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า
"แท้จริงมีร่อซูลคนหนึ่งจากพวกท่านเองได้มาหาพวกท่านแล้ว เป็นที่ลำบากใจแก่เขาในสิ่งที่พวกท่านได้รับความทุกข์ยาก เป็นผู้ห่วงใยย่าน เป็นผุ้เมตตา ผู้กรุณาสงสาร ต่อบรรดาผู้ศรัทธา"
"และจงรำลึกถึงเรื่องราวของอิสมาอีลและอิดรีส และซัลกิฟลิ แต่ละคนอยุ่ในหมู่ผู้อดทนขันติ"
- โองการที่บอกถึงจริยธรรที่ดีงามคือคุณลักษณะของผู้ศรัทธา
"และปวงบ่าวของพระผู้ทรงกรุณาปราณีคือ บรรดาผู้ที่เดินบนแผ่นดินด้วยความสงบเสงี่ยม และเมื่อพวกเขาโง่เขลากล่าวทักทายพวกเขา พวกเขาจะกล่าวว่า ศานติ หรือสลาม"
"แน่นอนบรรดาผู้ศรัทธาได้ประสบความสำเร็จแล้ว บรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนในเวลาละหมาดของพวกเขา และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้ผินหลังให้จากเรื่องไร้สาระต่าง ๆ"
มารยาทคือคุณลักษณะที่ดีงาม
"และเมื่อพวกเจ้าได้รับคำอวยพรจะด้วยคำอวยพรใด ๆ ก็ตาม
ก็จงกล่าวคำอวยพรตอบที่ดีกว่านั้น หรือไม่ก็กล่าวคำอวยพรนั้นตอบกลับไป"
อัลลอฮฺทรงห้ามจากมารยาทที่ไม่ดี
"โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย! ชนกลุ่มหนึ่งอย่าได้เยาะเย้ยชนอีกกลุ่มหนึ่ง บางทีชนกลุ่มที่ถูกเยาะเย้ยนั้นจะดีกว่าชนกลุ่มที่เยาะเย้ย และสตรีกลุ่มหนึ่งอย่าได้เยาะเย้ยจะดีกว่ากลุ่มที่เยาะเย้ย และพวกเจ้าอย่าได้ตำหนิตัว ของพวกเจ้าเอง และอย่าได้เรียกกันด้วยฉายาที่ไม่ชอบ ช่างเลวทรามจริง ๆ ที่บรรดาผู้ศรัทธาจะเรียกกันว่าเป็นผู้ฝ่าฝืน ภายหลังจากที่ได้มีการศรัทธากันแล้ว"
"และบางคนในหมู่พวกเจ้าอย่านินทาซึ่งกันและกัน"
“บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าทุจริต ต่ออัลลอฮฺ และร่อซูล และจงอย่าทุจริตต่อบรรดาของฝากของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้ารู้กันอยู่”
อัลลอฮฺทรงคาดโทษสำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี
"แท้จริงบรรดาผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮ์นั้น พวกเขาจะไม่ได้รับความสำเร็จ"
"แท้จริงบรรดาผู้กล่าวโทษบรรดาหญิงบริสุทธิ์ หญิงไม่รู้เรื่องอะไร หญิงผู้ศรัทธา พวกเขาถูกสาปแช่งทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างมหันต์"
อัลลอฮฺทรงตักเตือนหลีกห่างจากมารยาทที่ไม่ดี
"แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์นั้น กุความเท็จขึ้น และชนเล่านั้นคือผู้กล่าวเท็จ"
"และผู้ใดที่แสวงหาความผิดหรือบาปกรรมไว้ แล้วก็โยนบาปกรรมนั้นให้แก่ผู้บริสุทธิ์แน่นอนเขาได้แบกความเท็จและบาปกรรมอันชัดเจนไว้"
สิ่งที่ได้รับจากการเชื่อฟังพระองค์ในด้านมารยาท
"แท้จริงการละหมาด นั้นจะยับยั้งการทำลามกและความชั่วและการรำลึกถึงอัลลอฮ์นั้น ยิ่งใหญ่มาก และอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ"
"(มุฮัมมัด) เจ้าจงเอาส่วนหนึ่งจากทรัพย์สมบัติของพวกเขาเป็นทาน เพื่อทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ และล้างมลทินของพวกเขาด้วยส่วนตัวที่เป็นทานนั้น"
นี่คือบางส่วนจากโองการอัลกรุอ่านกล่าวถึงจริยธรรมและมารยาทที่ดี ฉะนั้นจำเป็นมุสลิมจะต้องมีมารยาทที่ดีและออกห่างพฤติกรรมที่ไม่ดีคือการไม่มีมารยานั้นเอง เพราะการมีมารยาทบ่งบอกคนนั้นมีความดีทั้งโลกนี้และโลกหน้า
จากอับดุลลอฮฺ บิน อัมร์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า :
“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่เคยเป็นคนหยาบช้าและไม่เคยเป็นคนที่พูดจาหยาบคาย
และท่านกล่าวได้ว่า “แท้จริง ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่สูเจ้า คือ ผู้ที่มีอุปนิสัยดีที่สุด”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ และมุสลิม )
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็นท่านนบีคนแรกที่อัลลอฮฺทรงบอกว่า ในอัลกรุอ่าน และใน หะดีษเศาะฮีหฺ
ท่านหญิงอาซีซะกล่าวว่า "มารยาทของท่านนบีนั้นคือ อัลกรุอ่าน"
ท่านอิบนุกะซีร กล่าวว่า การปฏิบัติตามในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้ในกรุอ่านและละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามอัลกรุอ่าน นี้คือการปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺเป็นมารยาทอย่างนี้เช่นกัน
จากอัมร์ บิน ชุอัยบฺ จากบิดาของท่าน จากปู่ของท่าน ท่านกล่าวว่า :
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า : “เอาไหม ฉันจะบอกพวกท่านว่าใครคือคนที่ฉันรักมากที่สุด และจะได้อยู่ใกล้ชิดกับฉันมากที่สุดในวันกิยามะฮฺ ?”
พวกเขานิ่งเงียบ ท่านจึงกล่าวทวนอีกสองหรือสามครั้ง
พวกเขาตอบว่า “ได้ โอ้ท่านผู้เป็นรอซูลแห่งอัลลอฮฺ”
ท่านจึงกล่าวว่า “คือ ผู้ที่มีอุปนิสัยดีที่สุดในหมู่พวกเจ้า”
(บันทึกโดยอะห์มัด)
ท่านอบู อัด-ดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้รายงานคำกล่าวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า :
" ไม่มีสิ่งใดที่จะหนักตาชั่ง(ความดีชั่วในวันกิยามัต) ยิ่งไปกว่าการมีอุปนิสัยที่ดี "
(บันทึกโดยอบู ดาวูด)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า :
البر حُسن الخُلق “"ความดีนั้นคือการมีมารยาทที่ดี
(รายงานโดย มุสลิม)
มารยาทที่ดีคือสิ่งที่ทำให้มุสลิมมีเกียรติ และได้รับผลตอบแทนใหญ่หลวงในวันอาคิเราะฮฺ ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า
“แท้จริงผู้ศรัทธานั้นจะได้รับผลตอบแทนถึงขั้นผู้ถือศีลอดในเวลากลางวัน
และละหมาดในยามค่ำคืน เพราะการมีมารยาทที่ดีของเขา”
(รายงานโดย อะหฺมัด)
อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า :
“แท้จริงแล้วในตัวของท่านรอซูลนั้นมีแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้ที่หวัง(จะพบกับ)พระองค์อัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ และได้รำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺอย่างมากมาย”
(อัล-อะห์ซาบ : 21)
การมีจริยธรรมและมารยาทที่ดีเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนอื่น อีกทั้งเป็นสื่ออย่างหนึ่ง ทำให้คนสามารถดึงดูดให้เขานั้นเข้าใจศาสนาอิสลาม และยอมรับในศาสนาที่แท้จริง หลายครั้งท่านนบีดะวะฮฺด้วยมารยาทของท่าน ผู้คนต่างพากันเข้ารับอิสลามอันเนื่องมาจากการมีมารยาทที่ดีนั้นเอง ฉะนั้นสังคมเราจะดีได้ต้องมีมารยาทที่ดีตามคำสอนของอัลลอฮฺ และร่อซูล