จุดยืนของมุสลิมทั่วโลกต่อปัญหาปาเลสไตน์
1. มุสลิมทั่วโลกควรสำนึกว่าปัญหาปาเลสไตน์ไม่ใช่เป็นปัญหาความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์หรือการเมืองระหว่างประเทศ แต่เป็นหน้าที่ตามบทบัญญัติของอิสลามที่กำหนดให้มุสลิมทุกคนปกป้องพิทักษ์รักษามัสยิดอัลอักซอ รักษาดินแดน ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องมุสลิมจากการรุกรานของกลุ่มก่อการร้ายยิวไซออนนิสต์
2. มุสลิมทั่วโลกต้องประกาศต่อต้านการก่อการร้ายที่นำโดยรัฐอันธพาลอิสราเอล และผู้สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนอิสราเอล ห้ามมีการผูกมิตรกับพวกเขาไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม
3. มุสลิมทุกคนต้องมีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวปาเลสไตน์ตามกำลังความสามารถ ความช่วยเหลือที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่มีคุณค่ามหาศาลมากที่สุดคือการขอ ดุอาจากอัลลอฮ์ ให้พระองค์ประทานความช่วยเหลือในการต่อสู้กับหน่วยก่อการร้ายอิสราเอลและขอให้พระองค์จงทำลายแผนการของพวกเขาตลอดจนทำลายพวกเขาเสมือนที่พระองค์ได้ทำลายกลุ่มชนที่อหังการก่อนหน้านี้
4. มุสลิมทุกคนต้องทราบสำนึกว่าการที่ประชาชาติมุสลิมอยู่ในภาวะตกต่ำสุดขีดในขณะนี้ จนกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของนักล่าเหยื่อทั้งหลาย เกิดขึ้นเนื่องจากการที่ประชาชาติมุสลิมห่างเหินจากศาสนา ละทิ้งหลักการที่ถูกต้อง จมอยู่ในทะเลอบายมุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแตกแยกและการขาดสะบั้นของภราดรภาพแห่งอิสลาม ดังนั้นสังคมมุสลิมต้องแก้ไข ปรับเปลี่ยนความผิดพลาดเหล่านี้สู่การเป็นประชาชาติที่ใฝ่ศาสนา ยึดมั่นในคำสอนของอัลกุรอานและสุนนะฮฺที่ถูกต้อง สานสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมุสลิมและพี่น้องร่วมโลกอย่างเข้าใจ เอื้ออาทรและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
5. มุสลิมทุกคนต้องศรัทธามั่นว่า ท้ายสุดแล้วชัยชนะจะต้องตกอยู่ในกำมือของมุสลิม รุ่งอรุ่ณแห่งอิสลามจะปกคลุมทั่วปาเลสไตน์และทั่วโลกด้วยสันติจะเกิดขึ้นอีกครั้ง นบีมูฮัมมัด ได้กล่าวไว้ความว่าจะไม่เกิดวันกิยามะฮฺ(วันสิ้นโลก) จนกว่าชาวมุสลิมจะทำสงครามกับชาวยิว ชาวมุสลิมจะไล่ฆ่าชาวยิวจนกระทั่งพวกเขาต้องหลบซ่อนกำบังตัวที่โขดหินและต้นไม้ จนกระทั่งโขดหินและต้นไม้บอกว่า โอ้มุสลิม โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ ชาวยิวได้หลบซ่อนหลังฉัน จงรีบมาฆ่าเขาเถิด ยกเว้นต้นไม้ชื่อ Gharqad เพราะมันเป็นต้นไม้ยิว (รายงานโดยมุสลิม 4/2239)
หะดีษดังกล่าว ยืนยันว่าสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างชาวมุสลิมกับยิวจะต้องบังเกิดขึ้น ณ เวลาที่ อัลลอฮ์ กำหนดแล้ว ซึ่งชาวยิวเองก็เชื่อศรัทธาหะดีษดังกล่าว ชีคอับดุลลอฮฺนาศิหฺ อุลวาน และบรรดานักวิชาการมุสลิมอีกหลายท่านได้กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลยิวกำลังเร่งรณรงค์ปลูกต้นไม้ Gharqad ในอิสราเอลเป็นการใหญ่แล้ว
บทส่งท้าย
หากอิสลามไม่ใช่เป็นศาสนาแห่งสัจธรรม ได้รับความช่วยเหลือและปกป้องจากอัลลอฮ์ แล้ว ศาสนานี้คงถูกปราบปรามจากมหาอำนาจอย่างถอนรากถอนโคนไม่เหลือซาก อิสลามคงไม่สามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับการทำลายล้างที่โหดร้ายที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับศาสนาและประชาสังคมอื่น ตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน การที่มุสลิมและอิสลามถูกปราบปรามอย่างหนักหน่วง หาใช่เพราะมุสลิมหรืออิสลามเป็นผู้ก่อปัญหาตามที่ถูกใส่สีตีไข่โดยประชาคมโลกปัจจุบันแต่อย่างใดไม่ หากเป็นสัญญาณที่เป็นสิ่งบ่งชี้ความมีชีวิตของศาสนานี้ที่พร้อมเติบโต แตกกิ่งก้านสาขาและออกดอกผลิผลอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ชื่นชอบของประชาสังคมทั่วไป ถึงแม้ผู้ปฏิเสธจะรังเกียจก็ตาม
ความว่า "และพวกเขาวางอุบายกัน(เพื่อสกัดกั้นการเผยแพร่ของอิสลาม)และอัลลอฮฺก็ทรงวางอุบาย(คือทรงวางอุบายที่จะช่วยเหลือศรัทธาชน โดยทำให้อุบายของพวกเขาไร้ผล)และอัลลออฮฺนั้นทรงเป็นผู้เยี่ยมกว่าในหมู่ผู้วางอุบาย (อัลอันฟาล 8 : 30)
ที่มา : จากหนังสือ"ปาเลสไตน์ แผ่นดินที่ไร้ประชาชน เพื่อทรชนผู้ไม่มีแผ่นดิน"ผู้เขียน : มัสลัน มาหะมะ
الكاتب : مرسلان محمد
สถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา